โปรดักชั่นเฮ้าส์ไทยโกอินเตอร์

โปรดักชั่นเฮ้าส์ไทยโกอินเตอร์ แม็ทชิ่งรุกเซี่ยงไฮ้-อินโดฯ-เวียดนาม

ธุรกิจโปรดักชั่นเฮ้าส์ขยายตัวรับปีม้า “แม็ทชิ่งสตูดิโอ” เปิดตลาด โปรดักชั่นเฮ้าส์ต่างประเทศ เดือนหน้าเปิด แม็ทชิ่งสตูดิโอ เซี่ยงไฮ้ ตามด้วยอินโดนีเซีย และเวียดนาม พร้อมรุกธุรกิจภาพยนตร์ กิจกรรมการตลาด คอนเสิร์ตและโชว์จากต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้ปี’45 เพิ่มขึ้น 20%
อาศัยการสร้างพันธมิตรในตลาดต่าง ประเทศเพื่อสร้างช่องทาง และการเพิ่มฐานลูกค้า เป็นกลยุทธ์ที่แมท ชิ่ง นำมาใช้ในการขยายตัว
นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่งสตูดิโอ จำกัด กล่าวว่า ก.พ.นี้ จะเปิดแม็ทชิ่งสตูโอ เซี่ยงไฮ้ ด้วยการร่วมลงทุนกับบริษัทโปรดักชั่นส์เฮ้าส์ในเซี่ยงไฮ้ และมีนายไซม่อน ว่อง รับหน้าที่บริหารในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 15 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 2 ปี
นอกจากการเปิดบริษัทในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนแล้ว ยังจะขยายไปที่ประเทศอินโดนีเซียประมาณกลางปี และที่เวียดนามประมาณปลายปี หรือต้นปีหน้า ซึ่งนายสมชายมองว่า ตลาดด้านโปรดักชั่นเฮ้าส์ในประเทศจีน เป็นตลาดที่ใหญ่มาก ทั้งปริมาณประชากร และจำนวนสถานีโทรทัศน์ซึ่งมีมากกว่า 140 สถานี
ส่วนงานภาพยนตร์โฆษณาจากต่าง ประเทศนั้น มีสัดส่วนประมาณ 20% จากงานภาพยนตร์โฆษณาทั้งหมด และจะเพิ่มปริมาณขึ้นเป็น 30% ในปีนี้ โดยยังคงสัดส่วนงานในประเทศไว้เท่าเดิม ซึ่งปัจจุบันแมทชิ่งมีงานภาพยนตร์จากต่างประเทศประมาณปีละ 20 เรื่อง ล่าสุด แมทชิ่งฯ มีการเพิ่มทีมงานไปแล้วมากกว่า 10 คน เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมา แม็ทชิ่งฯ ได้รับงานภาพยนตร์โฆษณาจากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว โดยการจอยเวนเจอร์กับบริษัท ซีเนโทนซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ในประเทศญี่ปุ่น
“สาเหตุที่ต่างชาติ สนใจให้บริษัทใน เมืองไทยทำงานให้ เนื่องจากเขามองเห็นศักยภาพของแม็ทชิ่งฯ และการใช้โปรดักชั่นเฮ้าส์จากไทยมีต้นทุนที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เกือบเท่าตัว รวมทั้งยังได้งานที่มีคุณภาพ และรวดเร็วถูกใจอีกด้วย” นายสมชายกล่าว
รุกตลาดทีวี-โชว์ต่างประเทศ
นายสมชาย กล่าวอีกว่า แม็ทชิ่งจะ ขยายงานด้านกิจกรรมการตลาด (Event) การนำโชว์ต่างประเทศเข้ามาเปิดการแสดงในไทย เนื่องจากมองเห็นช่องทางการตลาด ซึ่งที่ผ่านมา ยังมีผู้ให้ความสนใจในธุรกิจด้านนี้ค่อนข้างน้อย และแม็ทชิ่งฯ เคยมีประสบการมาแล้วจากปีที่ผ่านมา ด้วยการจัดโชว์อุลตร้าแมน
ในปีนี้ คาดว่าจะมีคอนเสิร์ตต่างประเทศและไทยรวมกันประมาณ 5-6 คอนเสิร์ต มีโชว์เซี่ยงไฮ้ ซึ่งแม็ทชิ่งเคยนำเข้ามาแล้ว กลับมาเปิดการแสดงอีกครั้งประมาณ เดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ รวมทั้งโชว์อุลตร้าแมน ไอ้มดแดง ประมาณเดือนต.ค. และจะมีการจัดกิจกรรมที่เป็น Mass Event ใหญ่ๆ อีก 2 งาน
“ตลาดด้านการจัดอีเว้นท์ ในปีที่แล้ว และปีนี้มีการขยายตัวค่อนข้างสูง บริษัทเจ้าของสินค้ารายใหญ่ๆ หลายรายมีความสนใจในการทำอีเว้นท์มาก เพราะอีเว้นท์ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ในการประชาสัมพันธ์องค์กรสู่สาธารณชน”
นายสมชายเสริมด้วยว่า การทำอีเว้นท์ นับเป็นการสร้างฐาน สร้างแบรนด์ที่ดี แต่การที่ผู้จัดจะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องเข้าถึงรายละเอียดของงาน และต้องมีคอนเน็คชั่นที่ดี
ส่วนงานด้านทีวี หลังจากเปิดตัวรายการใหม่ จานเด็ด 7 ย่านน้ำทางช่อง 7 ไปแล้ว ปีนี้แม็ทชิ่งมีโครงการที่จะขยายงานด้านนี้เช่นกัน โดยการผลิตรายการป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ ซึ่งจะมีการเสนอรูปแบบรายการให้กับสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 พิจารณาเป็นหลัก
เตรียมเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ประมาณกลางปีนี้ จะเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์อีก 1 บริษัท โดยมีแผนจะผลิตภาพยนตร์ไทย 3 เรื่อง แต่ยังไม่สามารถระบุเวลาในการเริ่มดำเนินการได้ชัดเจน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเรียบร้อยของบทภาพยนตร์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเรียบเรียงและเขียนบทภาพยนตร์อยู่
ภาพยนตร์เรื่องแรก จะเป็นเนื้อหา จากเรื่องจริง เป็นแนวดราม่า โดยมีผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาของดีแทคชุดล่าสุด สามหนุ่มสามมุม คือ นายประจิตพล ตั้งศรีตระกูล มาทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องน
ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 นั้น คือเรื่องอุลตร้าแมน ซึ่งจะมีการร่วมทุนกับต่างชาติ และเรื่องที่ 3 ยังอยู่ระหว่างการเตรียมบทภาพยนตร์ ในการลงทุนจะใช้งบในเรื่องอุลตร้าแมนประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนเรื่องอื่นประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภาพยนตร์เรื่องอุลตร้าแมนจะสามารถทำรายได้ที่ดี