Monday, 13 August 2007
ส่งออก ผู้กำกับหนังโฆษณาบุกตลาดต่างประเทศ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : หลังจากแบรนด์ "แม็ทชิ่ง สตูดิโอ" สร้างชื่อในฐานะผู้ผลิตหนังโฆษณามากกว่า 15 ปี และหนังโฆษณา"ไทย สไตล์" ที่โดดเด่นเรื่องอารมณ์ตลกขบขัน เป็นที่รู้จักและยอมรับในเวทีประกวดโฆษณาระดับโลก วันนี้ แม็ทชิ่ง สตูดิโอ ได้เดินหน้า "ส่งออก" ผู้กำกับหนังโฆษณาบุกตลาดต่างประเทศนับเป็นอีกย่างก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมผลิตภาพยนตร์โฆษณาของเมืองไทย
สมชาย ชีวสุทธานนท์ (ตี๋ แม็ทชิ่ง) กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แม็ทชิ่งได้เริ่มบุกตลาดหนังโฆษณาต่างประเทศมากขึ้น หลังจากสร้างแบรนด์ "แม็ทชิ่ง" มากว่า 15 ปี ได้รับรางวัลผลงานโฆษณาด้านการผลิตทั้งในเวทีระดับประเทศ ภูมิภาคเอเชีย และระดับโลก กว่า 700 รางวัล
"ประเทศไทยยังไม่มีองค์กรที่มารองรับอาชีพ ผู้กำกับหนังโฆษณา หรือ บริษัทโปรดักชั่นส์ เฮ้าส์ การว่าจ้างงานจากต่างประเทศ จะดูจากบริษัทที่ได้รับรางวัลจากเวทีประกวดระดับนานาชาติ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม็ทชิ่ง มีผลงานอย่างชัดเจน ทำให้ขยายงานออกสู่ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น " สมชาย ระบุ
ดันรายได้ต่างประเทศทะลุ50%
ปัจจุบันผู้กำกับหนังโฆษณาฝีมือดีของแม็ทชิ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ อย่าง สุธน เพ็ชรสุวรรณ (ม่ำ) ซึ่งติดอันดับท็อปเทนของโลก และ ท็อปทรีของเอเชีย ได้รับการติดต่อให้กำกับหนังโฆษณาทั้งจากเอเชีย สหรัฐ และยุโรป อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีหนังโฆษณาจากสหรัฐ และยุโรป เข้ามามากขึ้น เพิ่มจากตลาดเอเชีย ที่เป็นลูกค้าประจำ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ซึ่งจะไปโรดโชว์ตลาดเวียดนามร่วมกับ 22 เอเยนซีในเดือน สิงหาคมนี้
ในปีที่ผ่านมารายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วน 30% แต่ในครึ่งปีแรกนี้สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 40% แล้ว ดังนั้นถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 50% ซึ่งจะมาชดเชยรายได้จากการผลิตหนังโฆษณาในประเทศที่มีแนวโน้มลดลงในปีนี้
สมชาย กล่าวว่าในปีที่ผ่านมาแม็ทชิ่งทั้งกลุ่มมีรายได้ 1,000 ล้านบาท รายได้หลักมาจากแม็ทชิ่ง สตูดิโอ ซึ่งเป็นโปรดักชั่นส์ เฮ้าส์ ผลิตหนังโฆษณาประมาณ 500 ล้านบาท ในช่วงต้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้แม็ทชิ่ง สตูดิโอ ไว้จำนวน 600 ล้านบาท แต่หลังจากการดำเนินงานผ่านไปครึ่งปีและภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มขยับตัวเพิ่มขึ้น ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ทั้งปีใหม่โดยลดลงเหลือ 480 ล้านบาท หรือลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าการผลิตหนังโฆษณาต่อเรื่องลดลง จาก 2.5 ล้านบาทปีก่อน เหลือ 2 ล้านบาทปีนี้ และหนังโปรดักชั่นส์ใหญ่ระดับ 10 ล้านบาทลดลง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารายได้รวมของกลุ่มแม็ทชิ่งปีนี้จะไม่ลดลงจากปีก่อน โดยยังคงเป้าหมายรายได้ 1,000 ล้านบาทไว้ เนื่องจากรายได้จากกลุ่มรายการโทรทัศน์ แม้จะมีรายการเดียว คือ ปลดหนี้ ทางช่อง 7 แต่มีแนวโน้มเติบโตสูง จากการทำอีเวนท์ ร่วมกับรายการทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
"ปีนี้แม็ทชิ่ง ไม่ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง คงไม่ต่างจากครึ่งปีแรก และหากสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในปีนี้ กว่ารัฐบาลใหม่จะฟอร์มทีมงานเสร็จ เริ่มการทำงาน และส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส4 ปีหน้า"
ปั้นผู้กำกับใหม่รับเทรนด์โฆษณาไทยบูม
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแม็ทชิ่งได้เปิดรับผู้กำกับหน้าใหม่ที่มีพื้นฐานจาก ครีเอทีฟ ในเอเยนซี มาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีเพียง 6 คน ปัจจุบันมีผู้กำกับ 12 คน โดยทุกคนจะมีความโดดเด่นแตกต่างกัน นอกจากมีฝีมือด้านการกำกับหนังโฆษณาที่มีความตลกขบขัน มีไอเดียตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งเป็นสไตล์ที่โดดเด่นของผู้กำกับไทยในเวทีโลกแล้ว ทุกคนยังมีความสามารถกำกับหนังโฆษณาด้วยแนวที่หลากหลาย เช่น มนชนก สมใจเพ็ง ผู้กำกับหนังโฆษณาแนวสวยงาม ทวีพล ธีระวิชิตชัยนันท์ เชี่ยวชาญแนวเล่าเรื่อง หรือ รฐกร อภิชาติโยธิน ที่โดดเด่นหนังวัยรุ่น โดยผู้กำกับทุกคนของแม็ทชิ่ง สามารถส่งออกไปกำกับหนังโฆษณาต่างประเทศได้ทุกคน
สุธน เพ็ชรสุวรรณ ผู้กำกับ บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่หนังโฆษณาไทยได้รับความสนใจ และได้รับรางวัลจากเวทีประกวดโฆษณาระดับโลก ทำให้ทั้งโลกรู้จักหนังโฆษณาแบบ "ไทย สไตล์" คือมีความตลกขบขัน ไม่เครียด เป็นหนังโฆษณาที่เข้าถึงคนผู้ชมได้ทั่วโลก ทำให้มีจุดเด่นแตกต่างจากหนังโฆษณาประเทศอื่นๆ ผู้กำกับไทยจึงได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น
"แต่สิ่งสำคัญของการกำกับหนังโฆษณาอันดับแรก ไม่ใช่การกำกับหนังให้ตลกขบขัน เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ชมเท่านั้น แต่จะต้องตอบโจทย์การขายสินค้าให้ลูกค้าได้ทุกด้าน ด้วยไอเดียที่เข้าถึงผู้ชม"
ปัจจุบันการทำงานของผู้กำกับถูกบีบคั้นด้วยงบประมาณที่ลดลง บนความคาดหวังเรื่องคุณภาพเท่าเดิม ทำให้ไม่สามารถที่จะทำงานแบบเดิมได้อีก สิ่งที่ต้องทำคือต้องพูดคุยกับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด
สำหรับผลงานของผู้กำกับหนังโฆษณาจากแม็ทชิ่ง ที่ได้รับรางวัลประกวดโฆษณาในต่างประเทศล่าสุด คือ ผลงานของ ธน เพ็ชรสุวรรณ ได้รับ CANNES LIONS 2007 รางวัล Silver Awards ผลิตภัณฑ์ แผ่นฝ้าเฌอร่า ชุด“จิ้งจก” และ ทวีพล ธีระวิชิตชัยนันท์ ได้รับ Phoenix Awards 2007 ประเทศสิงคโปร์ รางวัล Silver ผลิตภัณฑ์ นมตราหมี ชุด “COW”
Link: http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/03/WW14_1413_news.php?newsid=82127
สมชาย ชีวสุทธานนท์ (ตี๋ แม็ทชิ่ง) กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แม็ทชิ่งได้เริ่มบุกตลาดหนังโฆษณาต่างประเทศมากขึ้น หลังจากสร้างแบรนด์ "แม็ทชิ่ง" มากว่า 15 ปี ได้รับรางวัลผลงานโฆษณาด้านการผลิตทั้งในเวทีระดับประเทศ ภูมิภาคเอเชีย และระดับโลก กว่า 700 รางวัล
"ประเทศไทยยังไม่มีองค์กรที่มารองรับอาชีพ ผู้กำกับหนังโฆษณา หรือ บริษัทโปรดักชั่นส์ เฮ้าส์ การว่าจ้างงานจากต่างประเทศ จะดูจากบริษัทที่ได้รับรางวัลจากเวทีประกวดระดับนานาชาติ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม็ทชิ่ง มีผลงานอย่างชัดเจน ทำให้ขยายงานออกสู่ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น " สมชาย ระบุ
ดันรายได้ต่างประเทศทะลุ50%
ปัจจุบันผู้กำกับหนังโฆษณาฝีมือดีของแม็ทชิ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ อย่าง สุธน เพ็ชรสุวรรณ (ม่ำ) ซึ่งติดอันดับท็อปเทนของโลก และ ท็อปทรีของเอเชีย ได้รับการติดต่อให้กำกับหนังโฆษณาทั้งจากเอเชีย สหรัฐ และยุโรป อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีหนังโฆษณาจากสหรัฐ และยุโรป เข้ามามากขึ้น เพิ่มจากตลาดเอเชีย ที่เป็นลูกค้าประจำ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ซึ่งจะไปโรดโชว์ตลาดเวียดนามร่วมกับ 22 เอเยนซีในเดือน สิงหาคมนี้
ในปีที่ผ่านมารายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วน 30% แต่ในครึ่งปีแรกนี้สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 40% แล้ว ดังนั้นถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 50% ซึ่งจะมาชดเชยรายได้จากการผลิตหนังโฆษณาในประเทศที่มีแนวโน้มลดลงในปีนี้
สมชาย กล่าวว่าในปีที่ผ่านมาแม็ทชิ่งทั้งกลุ่มมีรายได้ 1,000 ล้านบาท รายได้หลักมาจากแม็ทชิ่ง สตูดิโอ ซึ่งเป็นโปรดักชั่นส์ เฮ้าส์ ผลิตหนังโฆษณาประมาณ 500 ล้านบาท ในช่วงต้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้แม็ทชิ่ง สตูดิโอ ไว้จำนวน 600 ล้านบาท แต่หลังจากการดำเนินงานผ่านไปครึ่งปีและภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มขยับตัวเพิ่มขึ้น ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ทั้งปีใหม่โดยลดลงเหลือ 480 ล้านบาท หรือลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าการผลิตหนังโฆษณาต่อเรื่องลดลง จาก 2.5 ล้านบาทปีก่อน เหลือ 2 ล้านบาทปีนี้ และหนังโปรดักชั่นส์ใหญ่ระดับ 10 ล้านบาทลดลง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารายได้รวมของกลุ่มแม็ทชิ่งปีนี้จะไม่ลดลงจากปีก่อน โดยยังคงเป้าหมายรายได้ 1,000 ล้านบาทไว้ เนื่องจากรายได้จากกลุ่มรายการโทรทัศน์ แม้จะมีรายการเดียว คือ ปลดหนี้ ทางช่อง 7 แต่มีแนวโน้มเติบโตสูง จากการทำอีเวนท์ ร่วมกับรายการทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
"ปีนี้แม็ทชิ่ง ไม่ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง คงไม่ต่างจากครึ่งปีแรก และหากสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในปีนี้ กว่ารัฐบาลใหม่จะฟอร์มทีมงานเสร็จ เริ่มการทำงาน และส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส4 ปีหน้า"
ปั้นผู้กำกับใหม่รับเทรนด์โฆษณาไทยบูม
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแม็ทชิ่งได้เปิดรับผู้กำกับหน้าใหม่ที่มีพื้นฐานจาก ครีเอทีฟ ในเอเยนซี มาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีเพียง 6 คน ปัจจุบันมีผู้กำกับ 12 คน โดยทุกคนจะมีความโดดเด่นแตกต่างกัน นอกจากมีฝีมือด้านการกำกับหนังโฆษณาที่มีความตลกขบขัน มีไอเดียตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งเป็นสไตล์ที่โดดเด่นของผู้กำกับไทยในเวทีโลกแล้ว ทุกคนยังมีความสามารถกำกับหนังโฆษณาด้วยแนวที่หลากหลาย เช่น มนชนก สมใจเพ็ง ผู้กำกับหนังโฆษณาแนวสวยงาม ทวีพล ธีระวิชิตชัยนันท์ เชี่ยวชาญแนวเล่าเรื่อง หรือ รฐกร อภิชาติโยธิน ที่โดดเด่นหนังวัยรุ่น โดยผู้กำกับทุกคนของแม็ทชิ่ง สามารถส่งออกไปกำกับหนังโฆษณาต่างประเทศได้ทุกคน
สุธน เพ็ชรสุวรรณ ผู้กำกับ บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่หนังโฆษณาไทยได้รับความสนใจ และได้รับรางวัลจากเวทีประกวดโฆษณาระดับโลก ทำให้ทั้งโลกรู้จักหนังโฆษณาแบบ "ไทย สไตล์" คือมีความตลกขบขัน ไม่เครียด เป็นหนังโฆษณาที่เข้าถึงคนผู้ชมได้ทั่วโลก ทำให้มีจุดเด่นแตกต่างจากหนังโฆษณาประเทศอื่นๆ ผู้กำกับไทยจึงได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น
"แต่สิ่งสำคัญของการกำกับหนังโฆษณาอันดับแรก ไม่ใช่การกำกับหนังให้ตลกขบขัน เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ชมเท่านั้น แต่จะต้องตอบโจทย์การขายสินค้าให้ลูกค้าได้ทุกด้าน ด้วยไอเดียที่เข้าถึงผู้ชม"
ปัจจุบันการทำงานของผู้กำกับถูกบีบคั้นด้วยงบประมาณที่ลดลง บนความคาดหวังเรื่องคุณภาพเท่าเดิม ทำให้ไม่สามารถที่จะทำงานแบบเดิมได้อีก สิ่งที่ต้องทำคือต้องพูดคุยกับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด
สำหรับผลงานของผู้กำกับหนังโฆษณาจากแม็ทชิ่ง ที่ได้รับรางวัลประกวดโฆษณาในต่างประเทศล่าสุด คือ ผลงานของ ธน เพ็ชรสุวรรณ ได้รับ CANNES LIONS 2007 รางวัล Silver Awards ผลิตภัณฑ์ แผ่นฝ้าเฌอร่า ชุด“จิ้งจก” และ ทวีพล ธีระวิชิตชัยนันท์ ได้รับ Phoenix Awards 2007 ประเทศสิงคโปร์ รางวัล Silver ผลิตภัณฑ์ นมตราหมี ชุด “COW”
Link: http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/03/WW14_1413_news.php?newsid=82127
Labels:
News : Production House 2007