Monday 13 August 2007

ภัทรสุดา อนุมานราชธน

ภัทรสุดา อนุมานราชธน หรือ บัว เป็นบุตรสาวของ ดร.สันจัย อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอซี นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด และ คุณกาญดา อนุมานราชธน บัวเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจนกระทั่งจบชั้นมัธยมจึงได้สอบ เข้าศึกษาต่อที่คณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาศิลปะการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บัวบอกว่าที่เลือกเรียนสาขานี้คงเป็นเพราะตอนเด็กๆ เคยตามคุณแม่ ซึ่งเป็นอดีตผู้กำกับ ภาพยนตร์โฆษณาและสารคดีต่างประเทศไปทำงานตามกองถ่าย ภาพยนตร์ การละคร และการแสดงจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอตั้งแต่เด็กๆ ต่อมาเมื่อได้มาเรียนรู้ก็ชอบและสนุก กับการสร้างสรรค์ผลงานอยู่ในโรงละครจริงๆด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตลอดเวลา ๔ ปี บัวถึงไม่เคยพลาด หากมีการออดิชั่นคัดเลือกนักแสดงเพื่อร่วมแสดงละครประจำภาควิชาเลย ซึ่งที่ผ่านมา เธอก็มีโอกาสได้ฝากฝีไม้ลายมือไว้หลายเรื่องด้วยกัน อาทิ เรื่องวัยไฟ รัก (ทะ) ลวงตา โชคล้านดวง ยอดปรารถนา และ ละครเนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวครบ 150 ปี เรื่อง นิทราชาคริต ในเวลาเดียวกันนั้นนอกจากการเรียน บัวยังมีอีกกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป. ๓ นั่นคือ การขี่ม้า ซึ่งแม้จะเริ่มต้นจากความรักม้าเท่านั้น แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นอย่างดี บัวจึงได้เริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจังก่อนจะเข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้าและคว้ารางวัลมาได้มากมายจากหลายรายการด้วยกัน แต่ในที่สุดแล้ว บัวก็จำต้องหยุดแข่งขันเหลือการขี่ม้าไว้เป็นเพียงงานอดิเรก เมื่อเธอต้องเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทสาขาการแสดงที่ Goldsmiths College, University of London ประเทศอังกฤษเป็นเวลา ๑ ปี บัวบอกว่าการไปเรียนต่อครั้งนี้ทำให้เธอรู้ว่าที่ทางที่เหมาะสมกับตัวเองนั้นก็คือในโรงละครนี่เอง เพราะในนั้นมีทั้งความฝันและแรงบันดาลใจ ให้กับเธอ ฉะนั้นถึงแม้การจะสร้างละครหรือการแสดงขึ้นมาครั้งหนึ่งแม้จะเครียดมาก แต่บัวก็ยังคงมีความสุข สนุกกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และยินดีที่จะแก้ไขสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไปเรียนยังไม่ทันจบดี หญิงสาวก็โชคดีอีกครั้งเมื่อได้รับการติดต่อให้มาเป็นอาจารย์พิเศษที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งเพิ่งจะเปิดภาควิชาศิลปะการแสดงขึ้นเป็นปีแรก แต่ทั้งนี้บัวยอมรับว่าไม่ค่อยถนัดงานสอนนัก ประกอบกับเป็นภาควิชาใหม่หลายอย่างจึงยังไม่เข้าที่ดี แต่เพราะได้เห็นความตั้งใจของนักศึกษา ในขณะที่ตัวเธอเองก็พยายามทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดจึงเป็นกำลังใจให้บัวยังคงมุ่งมั่นทำงานนี้ เพื่อรอดูผลลัพธ์อันน่าชื่นใจต่อไป นอกจากการสอนหนังสือแล้ว ตอนนี้บัวยังรับงานที่บางกอกโอเปร่าในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้กำกับฯ และมีผลงานที่เพิ่งผ่านตาไปคือเรื่อง Das Rheingold ซึ่งจัดแสดง ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ขณะเดียวกันก็ยังเป็น In-house Producer ให้กับงานคอนเสิร์ตอื่นๆ รวมไปถึง การเป็นนักเขียนอิสระเขียนเรื่องท่องเที่ยวและวิจารณ์บทละครลงในนิตยสารด้วย สำหรับเส้นทางที่เดินอยู่นี้ บัวอธิบายว่าการแสดงก็คือการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตบนเวทีก็เหมือนกับการใช้ชีวิตข้างนอก จะต่างกันอยู่บ้าง ก็เพียงบนเวทีนั้นเธอสามารถทำได้ทุกอย่าง ด้วยทุกคนเข้าใจว่านี่คือการแสดง ดังนั้น เมื่อขึ้นเวทีบัวจึงเต็มที่เสมอ เพราะต้องการให้เป็นงานที่ออกมา จาก "ใจ" ของเธอจริงๆ เมื่อถามถึงความฝัน บัวเผยว่าอยากจะทำ Solo หรือ การแสดงเดี่ยวของตัวเองสักครั้ง ตอนนี้ก็กำลังหาเวลาเขียนบทเก็บไว้เรื่อยๆก่อน โดยตั้งใจว่าจะทำฝันนี้ให้เป็นจริงให้ได้ภายในปีนี้...เปิดแสดงเมื่อไหร่ จะชักชวนเพื่อนฝูงไปร่วมชื่นชมผลงานชิ้นเอกของเธอด้วยกันเยอะๆ