Monday 13 August 2007

แนวคิด ทิศทาง และโอกาสของสื่อยุค 2.0

สถานีอินเทอร์เน็ต ที่ผมว่าไว้คราวก่อน อาจทำให้บางคนคิดว่า “ไม่เห็นจะแปลกใหม่อะไรเลย สถานีโทรทัศน์หลายแห่งเขาก็ทำกันตั้งเยอะแยะแล้ว มีเนื้อหาหลากหลายด้วย”
จริงครับ เขาทำมากันเยอะแล้ว แต่ความหมายของ “สถานีอินเทอร์เน็ต” ที่ผมว่าไว้นั้น ไม่ใช่การนำรายการที่ออกอากาศในโทรทัศน์มาฉายซ้ำในช่องทางอินเทอร์เน็ต
นั่นก็หมายความว่า เราผลิตรายการขึ้นมาเองเพื่อออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต โดยนำเสนอแบบ on-demand และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนี้ รายการที่เราผลิตสามารถนำเสนอผ่านอุปกรณ์พกพาต่างๆ ได้ด้วย เช่น เครื่อง mp3 อย่าง ipod หรือ portable pc หรือแม้กระทั่งทีวี ผ่านระบบ iptv หรือผลิตภัณฑ์โคตรฉลาดของ apple นั่นก็คือ apple tv
เพราะฉะนั้น กระบวนการที่สถานีอินเทอร์เน็ตแห่งนี้ดำเนินการ จึงถือเป็น reverse process ที่สร้างสรรค์งานจากสื่อทางเลือกอย่างอินเทอร์เน็ตไปสู่สื่ออื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด ไม่เว้นแม้กระทั่งสื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกอย่างโทรทัศน์
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นของใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก เพราะอันที่จริงในต่างประเทศมีเว็บไซต์ทำนองนี้อยู่ไม่น้อย และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเมืองไทยเองยังถือว่าเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะมีเว็บไซต์คล้ายๆ อย่างนี้อยู่ไม่เกิน 5 เว็บเท่าที่ผมรู้จัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเฉพาะเจาะจงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ไอที บันเทิง เป็นต้น
และนี่เป็นเหตุผลที่ผมเรียกเว็บไซต์ที่กำลังปลุกปั้นนี้ว่า “สถานีอินเทอร์เน็ต” ก็เพราะที่นี่จะเป็นเหมือนสถานีผลิตรายการที่หลากหลาย เหมือนสถานีโทรทัศน์ที่มีทั้งรายการข่าว บันเทิง กีฬา ท่องเที่ยว สารคดี วาไรตี้ เกมโชว์ มิวสิควีดีโอ การ์ตูน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับว่าสถานีโทรทัศน์แห่งนี้จะเน้นเนื้อหาส่วนใดเป็นหลัก
สถานีอินเทอร์เน็ตแห่งนี้ เน้นรายการที่ “แตกต่าง” เป็นหลักครับ
หมายความว่าเราไม่จำกัดความหลากหลายของรายการ แต่เราจำกัดความสร้างสรรค์ของรายการ ถ้ารายการแบบไหนที่ “สร้างสรรค์” และ “แตกต่าง” ไม่ว่ารายการนั้นจะเป็นข่าว บันเทิง หรือเกมโชว์ เราก็จะนำเสนอสู่สายตาของผู้ชม
และอย่าคาดหวังว่ามันจะเป็นรายการที่มี production อลังการงานสร้าง หรือมีกราฟฟิคที่สวยงามราวกับงานศิลป์บนหน้าจอ ถ้าคิดอย่างนั้น คิดใหม่ครับ
เพราะเราไม่เน้นภาพลักษณ์ แต่เราเน้นสไตล์
เรามีสไตล์การจัดรายการแบบเป็นกันเอง แม้จะเป็นรายการข่าวหรือสารคดี ก็ไม่ต้องมานั่งใส่สูท ผูกไท ทำหน้าเคร่งเครียดราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคนดู เราอาจจะหัวเราะจนข่าวซีเรียสกลายเป็นข่าวตลกขบขัน หรือข่าวไร้สาระกลายเป็นข่าวจริงจังก็เป็นได้ แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็จะอยู่ภายใต้กฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคม
ผู้ดำเนินรายการก็ไม่ต้อง professional ไม่ต้องผ่านหลักสูตรการอบรมพิธีกรใดๆ มาทั้งสิ้น จะเป็นใครก็ได้ ที่พูดจารู้เรื่องและอยากแสดงออก เราให้โอกาสนั้นกับทุกคน
เพราะฉะนั้น เมื่อใครก็ตามที่เข้าไปชมรายการในสถานีอินเทอร์เน็ตแห่งนี้ จะพบว่าผู้ดำเนินรายการอยู่ใกล้ชิดกับคุณมาก
ไม่ได้หมายถึงระยะทาง แต่หมายถึงระยะใจ
ความรู้สึกจะเหมือนคนในจอก็มนุษย์ธรรมดาๆ นี่แหละ เขาไม่ใช่เซเล็บ ดารา หรือไฮโซ อะไรเลย คุยกันเหมือนเพื่อนในกลุ่มมานั่งเล่าอะไรให้ฟัง มาบอก มาเสนอแนะ มาเฮฮากันเป็นประจำ
นี่คือหลักคิดอันสำคัญของ “สถานีอินเทอร์เน็ต” แห่งนี้ ฟังดูง่ายๆ สบายๆ แต่กว่าที่จะทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้นั้น…
…แทบร้องไห้ครับ