Monday, 13 August 2007

Designer VS Brand Pioneer

พัชทรี ภักดีบุตร Designer VS Brand Pioneer
สุภัทธา สุขชู Positioning Magazine พฤศจิกายน 2548พัชทรี ภักดีบุตร หรือ “รี่” 1 ใน 12 ดีไซเนอร์ชื่อดังที่รวมอยู่ในพ็อกเกตบุ๊ก “Born To Be Designer” เธอคือดีไซเนอร์มือเอก และหุ้นส่วนสาวแห่ง “เกรย์ฮาวด์ (Greyhound)” ผู้ได้รับมอบหมายให้ set-up แบรนด์คอนเซ็ปต์ของ “เกรย์ (Grey)” น้องใหม่ในเครือ และเป็นหัวเรือใหญ่ของ “เอิบ” ผลิตภัณฑ์ Home-Spa ที่เธอก่อร่างขึ้นมากับมือ วนเวียนอยู่ในแวดวงดีไซน์กว่า 10 ปี วันนี้ รี่มีข้อสรุปชีวิตการทำงานว่า เธอมีความสุขมากที่ได้ดึงเอาจิตวิญญาณ ความเชื่อ ความชอบ และตัวตน ออกมาสะท้อนในดีไซน์อย่างเต็มที่ โดยที่ยังได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี “ดีไซเนอร์ก็เหมือนศิลปิน พอเริ่มโตก็อยากลองทำอะไรแบบของเรา อยากดึงจิตวิญญาณและตัวตนของเราออกมามากขึ้น” แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ข้อสรุปอีกข้อก็คือ ประสบการณ์และการเรียนรู้เป็นบันไดสำคัญ…หลังเรียนจบด้านการตลาดจากอังกฤษ รี่เริ่มต้นทำงานเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ให้กับ Leo Bernett บริษัทโฆษณาชื่อดัง ที่นี่เองเธอจึงได้รู้จักกับ ภาณุ อิงคะวัต เถ้าแก่แห่งเกรย์ฮาวด์ รี่ทำงานโฆษณาร่วม 4 ปี จึงลาออกเป็นฟรีแลนซ์ แต่ด้วยความชอบแต่งตัวของเธอที่โดดเด่นเข้าตา ภาณุจึงชวนมาร่วมหุ้นและเป็นดีไซเนอร์ให้เกรย์ฮาวด์ราว 9 ปีก่อน ด้วยปรารถนาจะมีกิจการของตัวเองก่อนอายุ 30 ปี รี่จึงจุดคบไฟแห่งอาชีพแฟชั่นดีไซเนอร์ให้ลุกโชน อันเป็นช่วงที่เกรย์ฮาวด์ก็เตรียมบุกตลาดเสื้อผ้าผู้หญิงอย่างจริงจัง เธอจึงเป็นเสมือนเข็มทิศควานหาทางที่เหมาะสม ระหว่างสไตล์เกรย์ฮาวด์ เทรนด์ตลาด และลูกเล่นที่แฝงตัวตนของเธอ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมาช่วยเธอได้ดี “จากที่เรียนการตลาดและทำงานโฆษณา เราก็เลยมี commercial concept บ้างไม่ใช่มีแค่ pure art” รี่เป็นอีกแรงสำคัญที่ผลักดันเกรย์ฮาวด์จนโด่งดังทั้งตลาดภายในและนอกประเทศเรื่อยมา กระทั่งภาณุให้เธอช่วยคิดเสื้อผ้า hi-fashion ขึ้นมา 1 เซต เพื่อโชว์ในงานแฟชั่นที่ฝรั่งเศส และก็ได้เสียงตอบรับดีมาก แต่ด้วยความยากในการผลิต เทคนิคที่เยอะกว่า ลวดลายที่ละเอียดกว่า accessories ที่มากกว่า วัสดุที่แปลกตากว่า เสื้อสไตล์นี้จึงไม่อาจขายในระดับเดียวกับเกรย์ฮาวด์ จึงกลายเป็นที่มาของแบรนด์ใหม่คือ เกรย์ เพราะเป็นผู้บุกเบิก รี่จึงทุ่มเวลาทั้งหมด set-up และดูแลแบรนด์เกรย์ “ตอนทำเกรย์ฮาวด์ เราทำงานให้กับแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว เราจึงเข้ามาเพื่อทำให้แมตช์กับสิ่งที่เขาวางไว้ แต่เกรย์เราจับตั้งแต่ต้น จึงพูดได้เต็มปากว่าขายความเป็นตัวตนของเรา และจากประสบการณ์ที่สะสมมาก็ทำให้เราไม่ต้องใส่ใจการตลาดมากเท่าตัวตนจริงๆ ของเรา” เกรย์เป็น conceptual design ที่มีสไตล์แบบ oriental chic คือเน้นความน่าหลงใหลของรูปแบบเอเชีย ทั้งความเชื่อ วัฒนธรรม ค่านิยม เทคนิค ภายใต้โครงสร้างเสื้อผ้าที่ผสมแนวตะวันตก ทั้งปวงนี้มาจากความเป็นเอเชียบวกกับความโมเดิร์นที่รี่รับเข้ามาในชีวิต จากการสังเกต การอ่าน การเดินทาง ฯลฯ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่ซาบซึ้งกับงานศิลปะและความเป็นเอเชียมากเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือ พร้อมจะแปลกแยกจากเทรนด์ ประสบการณ์ตอนเซตคอนเซ็ปต์แบรนด์เกรย์ รี่ได้รับบทเรียนสำคัญคือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม คอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด “ทุกครั้งที่ทำงาน เรามักจะหลงทาง หรือแกว่งตามเทรนด์และสิ่งที่เกิดรอบตัวได้ง่าย แต่ถ้าเรายึดมั่นในคอนเซ็ปต์ที่ชัด อย่างน้อยมันจะช่วยให้เราวกกลับเข้ามาสู่พระอาทิตย์ดวงนี้ของเรา” สำหรับเอิบ ถือเป็นตัวตนในอีกมุมของรี่ที่สะท้อนศิลปะในการสร้างความรื่นรมย์และคุณภาพชีวิตของเธอได้ดีมาก “พี่เป็นคนชอบธรรมชาติ งานศิลปะ เครื่องหอม ชอบดูแลตัวเองจากธรรมชาติ และก็ work hard จนไม่มีเวลา แต่ก็ play hard คือกินดื่มเที่ยวและดูแลตัวเองในแบบที่ต้องได้ทั้งประโยชน์ พร้อมความรื่นรมย์ที่ครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ไปพร้อมกัน” เอิบเปิดตัวเมื่อ 6 ปีก่อนในตลาดต่างประเทศ แต่เพิ่งเปิดตัวในรีเทลเมืองไทยไม่ครบ 3 ปีดี ทว่าความเคลื่อนไหวของเอิบกลับขยายตัวช้าลง ซึ่งบทเรียนครั้งนี้ รี่สรุปว่า “เพราะพื้นฐานสินค้ามันดีมาก การจะทำอะไรใหม่ๆ ให้ตื่นเต้นเร้าใจย่อมยากขึ้นโดยปริยาย ฉะนั้นปีหน้าเราคงต้องเตรียมตัวมากขึ้น ทางด้านครีเอทีฟที่ต้องลึกและกว้างขึ้น ร่วมกับแผนกิจกรรมการตลาดที่จริงจัง เพื่อรองรับกับ Erb Club ที่เพิ่งเปิดตัวปีนี้” นอกจากเกรย์และเอิบ รี่ยังเป็นคอลัมนิสต์ให้อิมเมจลงคอลัมน์ Trend Focus โดยแบ่ง 2 วันในวันธรรมดาเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศเกรย์ฮาวด์ อีก 3 วันทำงานเป็นของเอิบ ซึ่งใน 5 วันนี้ เธอจะแวบไปเล่นโยคะ หาหมอ ออกงานสังคม ซื้อต้นไม้ ฯลฯ ส่วนเสาร์อาทิตย์เป็นวันพักผ่อนแบบที่เรียกว่า “เปื่อยอยู่กับบ้าน” เธอชอบเล่นกับสุนัขแสนรักทั้ง 4 ตัว ปลูกต้นไม้ ดูนก และสังสรรค์กับเพื่อนที่บ้านทุกวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวิธีชาร์จพลังที่ดีที่สุด รี่เคยตั้งเป้าเกษียณอายุการทำงานเมื่อครบ 40 ปี แต่แล้วเธอก็เลื่อนมาที่อายุ 45 ปี เพราะยังสนุกกับงานและการเผยตัวตนผ่านงานดีไซน์ โดยถ้าวันนั้นมาถึง เธอวางแผนจะกลับไปใช้คอมพิวเตอร์อีกครั้ง หลังจากที่วางมือจากเมาส์และแป้นมาร่วม 10 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอกลัวจะติดและกลัวจะต้องเสียชีวิตทางสังคมที่เธอแสนจะหวงแหน… ขณะที่ชีวิตข้างหนึ่งต้องวิ่งวุ่นตามกระแสแฟชั่น ซึ่งเธอเรียกว่า “โลกมายา” แต่อีกด้าน เธอเรียกหาความสงบทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น สวดมนตร์เมื่อรถติด รอหมอมาตรวจ ฯลฯ เรียกว่าทุกครั้งที่อยู่กับตัวเอง เธอจะต้องขัดเกลาสติด้วยการสวดมนตร์ เพื่อใช้ความสงบและสติวิเคราะห์กระแสมายาเหล่านั้น และนำสติออกไปใช้เผชิญกับโลกภายนอก เพื่อจะได้ทำปัจจุบันตรงนั้นให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นปรัชญาดำเนินชีวิตของเธอ ตะกอนความคิดที่รวมตัวเป็นผลึกแห่งประสบการณ์จากการใช้สติวิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบตัวผ่านมุมมองเวลา เหล่านี้ทำให้ตัวตนและจิตวิญญาณของรี่แข็งแกร่งและชัดเจนขึ้น จนเธอพร้อมที่จะผลักดันสิ่งที่อยู่ภายใน และสะท้อนความเป็นเธอออกมาเป็นศิลปะบนดีไซน์ของเกรย์และเอิบ “ทั้ง 2 แบรนด์พี่สร้างมา ถึงวันนี้พี่ก็ว่าพี่ชัดมาก” Profile Name : พัชทรี ภักดีบุตร Age : 38 ปี Education : ปริญญาตรีสาขาการตลาด จาก Richmond University, London ประเทศอังกฤษ Career Highlights : - ปัจจุบัน หัวหน้าทีมดีไซเนอร์แบรนด์ Greyhound และแบรนด์ Grey - MD บริษัท ปรมาลาภา จำกัด (เจ้าของแบรนด์ Erb) - กราฟิกดีไซเนอร์ บริษัท Leo Bernett จำกัด Family : สมรสแล้ว สามี อภิชัย ภักดีบุตร อาชีพผู้กำกับหนังโฆษณา