Monday, 13 August 2007

Good Boy'z - Creative Branding Production House

Good Boy'z - Creative Branding Production House
ในฉบับนี้เรานำท่านผู้อ่านไปพบกับ Production House ดาวรุ่งที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ 7 เดือน แต่มีผลงานภาพยนตร์โฆษณา เด่นๆออกมามากมายกว่า 20 เรื่อง จากการเข้ามาร่วมมือกันของ 3 ประสาน คือ คุณสุรีย์ อิทธิสุรสิงห์ Producer มือดีจาก Film Factory , คุณอรรณพ ชั้นไพบูลย์ Creative Director จาก TBWA และคุณชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์ Director of Photography จาก Film Factory มาร่วมกันก่อร่างสร้าง Production House ใหม่ที่ไม่ใช่ Fighting Brand ของ Film Factory ที่จัดเป็นระดับท็อปของวงการ Production House เพราะ Good Boy'z สามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ...
Good Boy'z แรกเริ่มของที่มาที่ไปในการเกิด Production House Good Boy'z ก็คือการที่ คุณพงศ์ไพบูลย์ สิทธิคู หรือ "พี่หนัง" ชื่อที่คนในวงการเรียกกัน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Film Factory ในไทยมองว่าบริษัทเริ่มใหญ่เป็นระดับท็อปในเมืองไทย ถึงจุดหนึ่งสไตล์ของ Film Factory มันชัดเจนจน Film Factory ไม่สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้ต้องหนังประเภทนั้นๆที่เป็นสไตล์แต่ละผู้กำกับของ Film Factory ที่ลูกค้าเจาะจงมาเท่านั้น ความเป็น Individual Style จึงมีสูงมาก การที่มี Good Boy'z นั้นก็เพื่อให้หนังเป็นสไตล์อีกสไตล์หนึ่งเป็นสไตล์แบบหลากหลายและตลาดต้องการได้ด้วย ซึ่ง Good Boy'z มีอิสระในการจัดการบริษัทเองได้ในทุกเรื่องคุณหนัง (พงศ์ไพบูลย์), คุณแดง (ชาญกิจ) คุณสุรีย์ แล้วก็คุณหมง (อรรณพ) จึงนั่งคุยกันโดย คุณหนังอยากให้คุณสุรีย์เปิดเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ในสไตล์ของตัวเองที่แตกต่างไปจาก Film Factory เพราะคุณสุรีย์จะมีลูกค้าที่มาจากเอเยนซีมากเพราะเคยทำงานอยู่ที่ฟาร์อีสต์แอดเวอร์ไทซิ่งหลายปีก่อนจะออกมาทำฟรีแลนซ์ และมาช่วยที่ Film Factory อยู่ 3 ปีครึ่ง พอมาเจอคุณหมง (อรรณพ ชั้นไพบูลย์) ซึ่งก็เป็นครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์มือรางวัลมากมาย ซึ่งคุณหนังก็เห็นว่า ตอนนี้ครีเอทีฟที่จะมาเป็นไดเร็กเตอร์แล้วน่าจะเป็นไดเร็กเตอร์ที่ดีในอนาคตพี่หนังมองเห็นคุณหมงอยู่คนเดียว จึงเรียกคุณสุรีย์และคุณหมงมานัดคุยกัน และลองทำงานด้วยกันก่อนประมาณ 6 เรื่องก่อนที่คุณหมงจะออกมาทำเป็นผู้กำกับเต็มตัว โดยคุณหมงเต็มไปด้วยไอเดียส่วนคุณสุรีย์เป็นโปรดิวเซอร์ที่มีประสบการณ์มาก เริ่ม 6 เดือนแรกด้วยการปรับการทำงานจนเข้าขากันเป็นทีมเวิร์ค ทางด้านคุณแดง (ชาญกิจ) ก็ถ่ายภาพดีประสบการณ์สูงในระดับต้นๆของเมืองไทยอยู่แล้ว จึงเกิดเป็น Good Boy'z ขึ้นมาFighting Brand ?อาจจะมีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า Good Boy'z นั้นเป็น Fighting Brand ของฟิล์มแฟคฯในการรับหนังที่มีงบประมาณต่ำหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้คุณสุรีย์กล่าวยืนยันว่าไม่ใช่อย่างแน่นอนโดยให้เหตุผลว่า "เราไม่ใช่ Fighting Brand ของ Film Factory เพราะเรามีสิทธิ์รับหนังในสเกลที่ใหญ่กว่าของ Film Factory ได้ ความตั้งใจที่คุยกันแล้วเราอยากมีเฮ้าส์ที่แตกต่างออกมาจาก Film Factory มากกว่า..เหมือน มีบ้านอยู่ข้างๆกันอยากจะตบแต่งอย่างไรใช้เฟอร์นิเจอร์แบบไหน ทาสีอะไรก็เป็นเรื่องของเราตัดสินใจเอาเอง จะรับหนังใหญ่กว่า เล็กกว่า หรือระดับกลางๆก็ได้ ราคาก็ปกติตามสเกลที่ลูกค้าวางมา" คุณหมง (อรรณพ) กล่าวเพิ่มเติมว่า " เราได้เปรียบในการเริ่มต้น จุดแตกต่างของ Good Boy'z กับเฮ้าส์ใหม่ๆที่กำลังจะเปิดคือเราเปิดมาเราอยู่บนบันไดก้าวที่ 5 อยู่ ขณะที่คนอื่นๆที่เปิดใหม่จะอยู่ก้าวที่ 1 เพราะว่าเรามีแบ็คอัพจาก Quality ของเฮ้าส์ใหญ่คือ Film Factory ต่อให้หนัง Hard sell เราก็ทำให้สวยได้ถ้ามีไอเดียที่ดี มีการคุมคุณภาพของกองถ่ายที่ดี ไปจนถึงตากล้องที่ดี ทีมงานการจัดการอะไรทั้งหลายแหล่เหมือนกับเฮ้าส์ใหญ่....เปรียบไปก็คือ การดึงมันสมองกับการจัดการออกมาเป็นความคิดที่อิสระอีกแบบหนึ่งแต่ในส่วนมดงานและการจัดการสามารถใช้ของเฮ้าส์ใหญ่คือ Film Factoryได้...แต่โดยหลักการแล้วก็พยายามค่อยๆแยกออกมาทั้งหมดเป็นเอกเทศ ตอนนี้เราก็เริ่มค่อยๆขยาย ค่อยๆเริ่มเช่นแคสติ้งของเราต่างหากแต่ค่อยๆเริ่มเพราะโดยความตั้งใจเราไม่อยากเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ขนาดใหญ่ เราอยากเป็นแค่ขนาดกลางๆ เช่นเอเยนซีมีครีเอทีฟเฮ้าส์ เราก็อยากเป็นแค่ครีเอทีฟโปรดักชั่น...
Strange จากจุดเริ่มต้นที่ Production Hose ใหญ่ๆและผู้กำกับมักจะประสบความสำเร็จคือปัจจัยสำคัญที่มีอยู่ 3 ส่วน คือ 1.ตัวไดเร็กเตอร์เองต้องค้นหาตัวเองให้เจอ 2.โปรดิวเซอร์ต้องเก่ง เช่น คุณม่ำจะมีคุณตี๋ ที่แม็ทชิ่งในช่วงแรกผูกติดกันมาเลย 3.คือมี DP ( Director of Photographer ) ที่เป็นคนถ่ายภาพนั่นเอง เช่น คุณดอม ที่ แม็ทชิ่ง ซึ่งทาง Good Boy'z ก็มีสามประสานเช่นนี้ในการเริ่มต้น และสำหรับผู้กำกับที่เป็นตัวชูโรงนั้น คุณอรรณพ ชั้นไพบูลย์ หรือคุณหมง ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มาจากสายครีเอทีฟและมาเมื่อสั่งสมประสบการณ์ในมุมมองของครีเอทีฟจนเป็น Creative Director ที่ได้รับรางวัลการันตีผลงานมากว่า 12 ปี ...ในขณะที่ผู้กำกับใหม่ๆที่เข้าวงการมากว่าจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้กำกับหนังต้องใช้เวลาสร้างฝีมือหรือสร้างชื่ออยู่ไม่ต่ำกว่า 3 เรื่อง แต่คุณหมงได้กำกับหนังที่ลูกค้าเจาะจงให้กำกับตั้งแต่ยังไม่ได้ออกมาเป็นผู้กำกับเต็มตัว เพราะขณะนั้นยังเป็นครีเอทีฟอยู่ เช่น หนังเรื่องอาม่ารับโทรศัพท์ ไปจนถึงเรื่องหนูแดงแต่งงานของ TRUE และอีกมากมายหลายเรื่อง และเมื่อมาเป็นผู้กำกับเต็มตัวได้ 1 เดือน ขณะนี้กำกับหนังโฆษณาไปแล้ว 15 เรื่อง GoodBoy'z เกิดขึ้นมาในขณะที่คุณหมงยังอยู่ที่ TBWA ขณะที่คุณสุรีย์ยังอยู่ที่ Film Factory มีงานเข้ามาก่อนโดยเป็นงานจากลูกค้าที่คุณหมงเป็นครีเอทีฟให้อยู่ และลูกค้าก็ไว้ใจให้กำกับหนังด้วยเลย เริ่มจาก เทเลคอมเอเซีย ชุดอาม๊ารับโทรศัพท์ ล่าสุดคือ หมากฝรั่งชิเคล็ทส์ชุดนับแกะจุดเด่นของคุณหมง (อรรณพ) คือการสามารถดึงเอาอินไซด์ของกลุ่มเป้าหมายที่ดู มาเล่าเรื่องของ Branding นั้นๆหรือสิ่งที่สินค้าหรือบริการกำลังจะสื่อสารออกมาในหลายๆแนวไม่ว่าจะเป็น ตลก หรือสะเทือนอารมณ์ ได้ทุกสไตล์ เช่น ตลกแบบอาม๊า หรือสะเทือนอารมณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น เรื่องหนูแดงแต่งงาน แสงคล้ายพี่หนังกำกับ แต่วิธีพูดก็เป็นอีกแบบหนึ่งทำให้ได้หนัง Emotional ที่ต่างออกมา คือมุมมองของเด็กในการเล่าเรื่องแบบผู้ใหญ่ และเก่งที่สามารถนำเอาอินไซด์ ของคนมาเล่าเรื่องด้วยวิธีแปลกใหม่ สามารถกำกับหนังได้หลายแนวด้วยมุมมองใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นแนวตลก แนวเศร้าซึ้งสะเทือนใจ แต่สามารถคงคอนเซ็ปต์บุคลิกของ Brand ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการใดๆโดยการทำงานเป็นทีมเวิร์คกับครีเอทีฟ คุณหมง กล่าวว่า "สิ่งที่ไดเร็กเตอร์ต้องทำคือเป็นคนที่สังเกตดีเทลของมนุษย์ได้อย่างถี่ถ้วน หยิบจับมาเล่าเรื่องได้ ลักษณะท่าทางของคนควรจะเป็นแบบไหน คือคิดว่าต้องเข้าใจมนุษย์และเล่าเรื่องที่มนุษย์อยากจะเข้าใจให้ดี ครีเอทีฟจะหยิบใจของมนุษย์ออกมาว่าครีเอทีฟอยากจะพูดถึงอะไร ประเด็นที่อยากจะพูด แต่ประเด็นที่อยากจะเล่าต้องให้ไดเร็กเตอร์เขาเล่าอีกที ใกล้เคียงกันแต่รายละเอียดย่อยลงไปอีกขั้นหนึ่ง""เราว่าเราเป็น Creative Branding Production House ผมว่าจุดขายเราผมทำงานเป็นครีเอทีฟมาก่อน ทำงานเกี่ยวกับทางด้าน Brand ด้วย ด้าน Strategy ด้วย พอมาเป็นไดเร็กเตอร์ผมอยากทำงานกำกับหนังแต่ละเรื่องให้ฟิตกับ Brand นั้นๆด้วย เราเป็นผู้กำกับที่ต้องเข้าใจใน Brand ด้วย ไม่ใช่ทำหนังตามสไตล์ของผู้กำกับ แต่การกำกับมันต้องไป Build Brand นั้นๆด้วยให้ได้ เอาเรื่องของครีเอทีฟมาเป็น Connection Part ให้ได้...ตอนนี้ที่ทำถ้าเราทำงานกับเอเยนซีสิ่งที่เราจะถามคือ Brand ของคุณมีคาแร็กเตอร์อะไรบ้างเราจะได้ไม่หลุดโทนทำให้เราทำงานกับเอเยนซีได้ฟิตขึ้นจะได้ไม่หลงผิดโจทย์ไป การเข้าใจตรงจุดนี้ก็น่าจะเป็นจุดที่เอเยนซีมองหาอยู่ หนังโฆษณาไม่เหมือนหนังใหญ่ 2 ชม. แต่หนังโฆษณามีเวลาจำกัดต้องเอาครีมของมันมาเล่าทั้งนั้นเลย เช่น ต้องทำให้ซึ้งใน 30 วินาที ก็ต้องทำให้ได้และสุดท้ายก็ต้องไปตอบโจทย์ของ Brand ให้ได้ด้วย ดังนั้นจึงต้องมีพื้นฐานมาจากการคิดแบบครีเอทีฟด้วย หนังโฆษณามันขึ้นอยู่กับหลายส่วน ทั้ง Product ลูกค้า เอเยนซีมาจนถึงผู้กำกับ" "การร่วมงานกับครีเอทีฟในขณะที่ผมเองก็มาจากครีเอทีฟไดเร็กเตอร์มาก่อน ก็ไม่ง่ายนักเหมือนเป็นดาบสองคม เพราะครีเอทีฟเองก็อาจจะคิดว่าผู้กำกับอดีต CD คนนี้จะมาทำลายความคิดของเขาหรือเปล่า...ซึ่งจริงๆแล้วโดยส่วนตัวเมื่อผมมาเป็นผู้กำกับผมกลับไม่ได้คิดแบบนั้นเลย... ผมอยู่ในสถานะของผู้กำกับอยู่ในสถานะของการขัดเกลา หาวิธีในการเล่าเรื่อง ที่อยู่บนคอนเซ็ปต์เดิมที่ครีเอทีฟคิดมา เพราะเราต้องเคารพซึ่งกันและกัน ในส่วนของผู้กำกับและครีเอทีฟ ตอนผมเป็นครีเอทีฟก็เคารพซึ่งกันและกันกับผู้กำกับ... เช่นกันตอนนี้เราเป็นผู้กำกับก็เคารพคอนเซ็ปต์ที่ครีเอทีฟคิดมา แต่เราจะช่วยนำคอนเซ็ปต์นั้นมาขัดเกลาหาวิธีเล่าเรื่องไม่ให้หลุดคาแร็กเตอร์ของ Brand ที่ครีเอทีฟคิดมา ซึ่งน่าจะเป็นทีมเวิร์คที่ดีด้วยซ้ำไปเพราะเราคุยภาษาเดียวกับครีเอทีฟ"Growth สำหรับอัตราการเติบโตนั้นคุณสุรีย์ กล่าวว่า "บิลลิ่งเราไม่มีเป้าหรือใครมาบังคับว่าต้องเท่านั้นเท่านี้ไม่ได้มีโอเวอร์เฮดที่สูงจนต้องเร่งทำให้ทัน แต่สิ่งที่ทำและตั้งใจที่สุดคือทำหนังให้ดีพิสูจน์ฝีมือ กะว่าซัก 80 ล้านในปีนี้ก็พอแล้วเป็นความคาดหมายกลางๆของเฮ้าส์เปิดใหม่ นี่เรายังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กะว่าจะจัดงานเปิดตัวในวันเด็ก เพราะว่าเราคือ Good Boy'z เนื่องจากว่างานเราตอนนี้ก็เข้ามาเยอะพอสมควร ตอนนี้มี TA ORANGE, 7-Eleven, ชิเคร็ส์,และที่กำลังถ่ายทำอยู่อีกหลายเรื่อง...ตั้งเป้าปีหน้าจาก80ล้าน เราก็ไม่ได้มุ่งหวังอะไรมาก ก็โตตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยทั่วๆไป คือประมาณจาก 80 ล้าน มาเป็น 100 ล้านหรือ120 ล้าน โตเกินไปเราก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นเพราะเราต้องการรักษาคุณภาพที่ดีไว้ก่อนเราไม่เกี่ยงงาน แต่ขอให้มีทัศนคติที่ดีที่เราจะทำงานร่วมกัน ไม่เกี่ยงสไตล์ของหนังแต่ก็ไม่ใช่รับหมด...เรามีผู้กำกับตอนนี้ 3 คน คือ คุณเปา (ธนพงษ์ ทรัพย์เหลือหลาย) กับคุณป๋อง (มงคล นิรันดร์พงศ์) แล้วก็คุณหมง ทั้ง 3 คน ก็มีสไตล์และมีตลาดของเขา คุณเปานั้นจะแนวกราฟิกหน่อย เช่น หนังหมากฝรั่งล้อตเต้ ฮอนด้าแจ๊ซ ยูบีซี เพราะมาจากไลน์อาร์ตไดเร็กเตอร์ ส่วนคุณป๋องจะเป็นแนวชาวบ้านหน่อย ตลกก็เป็นอีกแนวอีกแก๊กนึงใครจะราคาแพงกว่ากันไม่ได้อยู่ที่ผู้กำกับแต่อยู่ที่เนื้องานเพราะต่างคนก็ต่างสไตล์ หนังมาเล็กงบไม่มากแต่ไอเดียดีมากก็ทำเพราะมีความสุขที่ได้ทำหนังไอเดียที่ดี เราเอางานเป็นหลัก มากกว่าเพราะเราไม่ได้มีปัญหาด้านการเงิน"และทั้งหมดนี้คือ Production House ดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตาเพราะเป็นเฮ้าส์ขนาดกลางๆที่มีความคล่องตัวสูง มีแนวความคิดเป็นอิสระ มีประสบการณ์ในการสร้าง Brand และทีมเวิร์คที่ดีกับครีเอทีฟในขณะที่มีแบ็คอัพของการจัดการและกองถ่ายแบบ Production House ขนาดใหญ่....สุรีย์ ฮิทธิสุรสิงห์ : Managing Director and Executive Producer Good Boy'z Houseประวัติการทำงาน 2530 - 2535 Film Producer บริษัทฟาร์อีสท์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน)2535-2545 Producer ในบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ 10 ปีชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์2522 ตำแหน่งผู้ช่วยช่างภาพ บริษัท ซาลอนฟิล์ม ไทยแลนด์ จำกัด2530 ตำแหน่งฟิล์มโปรดิวเซอร์ JWT ปัจจุบัน ตำแหน่ง Managing Director and Director of Photographer บริษัท The Film Factory อรรณพ ชั้นไพบูลย์ 2545-2547 Creative Director บริษัท TBWA ( THAILAND)ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Director Good Boy'z House