Monday 13 August 2007
อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
กิฟฟารีน นำเสนอทิศทางที่จะสร้างความสำเร็จให้สมาชิก โดยใช้กลยุทธ์ "ธุรกิจสำหรับคนรุ่นใหม่" หรือ Giffarine Business for New Generation ซึ่งจะเน้นการสร้างกลุ่มผู้สนใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ให้เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่อาศัยศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ ของกิฟฟารีน เป็นจุดผลักดันให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จของนักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน และเปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีทั้งด้านรูปร่างและผิวพรรณ สำหรับผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพและความงาม
แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า แนวคิด "ธุรกิจสำหรับคนรุ่นใหม่" เป็นแนวคิดที่เกิดจากวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยคนส่วนใหญ่มีความสนใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ ต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจกันมากขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ส่งเสริมให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มเจ้าของธุรกิจ ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ดังจะเห็นได้จากโครงการและนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้กำหนดขึ้น เพื่อทำให้กลุ่มบุคคลที่ต้องการทำธุรกิจ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งตนเองมองว่า ธุรกิจกิฟฟารีนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เกิดนักธุรกิจรายใหม่ เพราะผู้ที่สนใจมาทำธุรกิจกิฟฟารีน ก็เปรียบเสมือนการมีกิจการเป็นของตนเอง โดยมีบริษัทกิฟฟารีน เป็นบริษัทแม่ และสมาชิกเป็นบริษัทลูก
ซึ่งปัจจุบัน กิฟฟารีนถือเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างองค์กรที่มั่นคง มีระบบการบริหารจัดการที่จะรองรับการเติบโตของสมาชิกในอนาคตได้เป็นอย่างดี อาทิ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 92 แห่งทั่วประเทศ มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับร่างกาย, ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์อาหารสวัสดิการ, ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์สำหรับทารก รวมกว่า 2,000 รายการ ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังมีสถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนที่จัดระบบการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจขายตรง สามารถทำธุรกิจและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน กิฟฟารีนมีสมาชิกกว่า 3 ล้านรหัส ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่ผ่านมา กิฟฟารีน สร้างรายได้กว่า 17,000 ล้านบาท และได้มอบรายได้ให้กับนักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนเป็นจำนวนเงิน 7,000 ล้านบาท สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศในปี 2547 ที่ผ่านมา นับเป็นมูลค่า 2,616 ล้านบาท และกิฟฟารีน ยังสร้างชื่อเสียงด้วยการได้รับรางวัลสำคัญระดับประเทศอย่างรางวัลผู้ส่งออกสินค้าไทย ดีเด่นหรือ PM Award 2005 จาก ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการรับประกันถึงประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าและการบริหารจัดการทางด้านการส่งออกของกิฟฟารีน
แพทย์หญิงนลินี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสที่กิฟฟารีน ได้ประกาศทิศทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจ จึงได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ขึ้น โดยใช้ชื่อชุดว่า FATHER ความยาว 60 วินาที และชุด HOME ความยาว 30 วินาที เพื่อแนะนำธุรกิจกิฟฟารีนให้ประชาชนทราบ ขณะเดียวกันก็เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีเค้าโครงจากเรื่องจริงของคุณธนวัฒน์ วงศ์คุณานุสรณ์ นักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนที่ไม่ถ้อทอยและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ซึ่งโฆษณาชุดนี้จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้ ใช้งบประมาณในการผลิต 3.5 ล้านบาท และใช้งบประมาณในการซื้อสื่อ 14 ล้านบาท โดยมีแพทย์หญิงนลินี เป็นครีเอทีฟของโฆษณาชุดนี้
พร้อมกันนี้ กิฟฟารีน ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวครั้งนี้ มี 4 ชนิด ประกอบด้วย
- ซีแอลเอ 900 ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันดอกคำฝอย ขนาด 30 แคปซูล ราคา 880 บาท
- อีจีซีจี สารสกัดจากชาเขียว ขนาด 30 แคปซูล ราคา 480 บาท
- คอลลาจีนา ธัญญาหารชนิดเม็ดผสมคอลลาเจน กลิ่นข้าวโพด ขนาด 100 เม็ด ราคา 180 บาท
- บิวตี้ เบอรี่ ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมของผักผลไม้และสารสำคัญจากธรรมชาติ
ขนาด 100 เม็ด ราคา 180 บาท
แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า แนวคิด "ธุรกิจสำหรับคนรุ่นใหม่" เป็นแนวคิดที่เกิดจากวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยคนส่วนใหญ่มีความสนใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ ต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจกันมากขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ส่งเสริมให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มเจ้าของธุรกิจ ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ดังจะเห็นได้จากโครงการและนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้กำหนดขึ้น เพื่อทำให้กลุ่มบุคคลที่ต้องการทำธุรกิจ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งตนเองมองว่า ธุรกิจกิฟฟารีนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เกิดนักธุรกิจรายใหม่ เพราะผู้ที่สนใจมาทำธุรกิจกิฟฟารีน ก็เปรียบเสมือนการมีกิจการเป็นของตนเอง โดยมีบริษัทกิฟฟารีน เป็นบริษัทแม่ และสมาชิกเป็นบริษัทลูก
ซึ่งปัจจุบัน กิฟฟารีนถือเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างองค์กรที่มั่นคง มีระบบการบริหารจัดการที่จะรองรับการเติบโตของสมาชิกในอนาคตได้เป็นอย่างดี อาทิ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 92 แห่งทั่วประเทศ มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับร่างกาย, ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์อาหารสวัสดิการ, ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์สำหรับทารก รวมกว่า 2,000 รายการ ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังมีสถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนที่จัดระบบการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจขายตรง สามารถทำธุรกิจและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน กิฟฟารีนมีสมาชิกกว่า 3 ล้านรหัส ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่ผ่านมา กิฟฟารีน สร้างรายได้กว่า 17,000 ล้านบาท และได้มอบรายได้ให้กับนักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนเป็นจำนวนเงิน 7,000 ล้านบาท สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศในปี 2547 ที่ผ่านมา นับเป็นมูลค่า 2,616 ล้านบาท และกิฟฟารีน ยังสร้างชื่อเสียงด้วยการได้รับรางวัลสำคัญระดับประเทศอย่างรางวัลผู้ส่งออกสินค้าไทย ดีเด่นหรือ PM Award 2005 จาก ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการรับประกันถึงประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าและการบริหารจัดการทางด้านการส่งออกของกิฟฟารีน
แพทย์หญิงนลินี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสที่กิฟฟารีน ได้ประกาศทิศทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจ จึงได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ขึ้น โดยใช้ชื่อชุดว่า FATHER ความยาว 60 วินาที และชุด HOME ความยาว 30 วินาที เพื่อแนะนำธุรกิจกิฟฟารีนให้ประชาชนทราบ ขณะเดียวกันก็เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีเค้าโครงจากเรื่องจริงของคุณธนวัฒน์ วงศ์คุณานุสรณ์ นักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนที่ไม่ถ้อทอยและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ซึ่งโฆษณาชุดนี้จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้ ใช้งบประมาณในการผลิต 3.5 ล้านบาท และใช้งบประมาณในการซื้อสื่อ 14 ล้านบาท โดยมีแพทย์หญิงนลินี เป็นครีเอทีฟของโฆษณาชุดนี้
พร้อมกันนี้ กิฟฟารีน ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวครั้งนี้ มี 4 ชนิด ประกอบด้วย
- ซีแอลเอ 900 ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันดอกคำฝอย ขนาด 30 แคปซูล ราคา 880 บาท
- อีจีซีจี สารสกัดจากชาเขียว ขนาด 30 แคปซูล ราคา 480 บาท
- คอลลาจีนา ธัญญาหารชนิดเม็ดผสมคอลลาเจน กลิ่นข้าวโพด ขนาด 100 เม็ด ราคา 180 บาท
- บิวตี้ เบอรี่ ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมของผักผลไม้และสารสำคัญจากธรรมชาติ
ขนาด 100 เม็ด ราคา 180 บาท
Labels:
Advertising Direction 2007