Sunday, 5 August 2007
โปรดักชั่นเฮ้าส์ปรับตัว
โปรดักชั่นเฮ้าส์ปรับตัว
ตลาดโฆษณาซบ โปรดักชั่นเฮ้าส์เร่งปรับตัว ขยายงานบริการครอบคลุมครบวงจร ทั้งส่วนงานกิจกรรมการตลาด และการผันตัวเองเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยรายใหม่ ดึงโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์โฆษณา ทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์
ด้านบริษัท หับ โห้ หิ้น จำกัด ซึ่งทำธุรกิจรับจ้างผลิตภาพยนตร์โฆษณามายาวนาน ก็เริ่มผันตัวเองมาเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้จับมือกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมทำธุรกิจภาพยนตร์ด้วยกัน โดยนางสาวจินา โอสถศิลป์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหับโห้หิ้น บางกอก ได้เปิดเผยกับ “บิสิเนสไทย” ว่า
“ขณะนี้ทางหับโห้หิ้น บางกอก ได้เปิดรับงานจากลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยส่วนใหญ่มาจากเวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ซึ่งปีที่ผ่านมารายได้จากลูกค้า ต่างชาติมีสัดส่วนใกล้เคียงกันกับลูกค้าในประเทศ แต่เรื่องจะขยายงานหรือแตกไลน์เพิ่มบริษัทใหม่นั้น ยังไม่คิดเพราะไม่ใช่ความถนัด ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทรับงานถ่ายภาพยนตร์โฆษณาได้เดือนละ 3 เรื่อง เนื่องจากมีผู้กำกับน้อย แต่ก็พอใจในจุดนี้และไม่คิดจะขยายงาน”
สำหรับสภาพการแข่งขันในตลาด นางสาวจินากล่าวว่า “ทุกวันนี้ ตลาดผลิตภาพยนตร์โฆษณามีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีโปรดักชั่น เฮ้าส์เกิดเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ ในสภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ลูกค้ามีงบน้อยลง แต่พิถีพิถันมากขึ้น การแข่งขันจึงเข้มข้น แต่มั่นใจในจุดแข็งของหับโห้หิ้นที่เน้นความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พร้อมกับระบบการทำงานอย่างมืออาชีพที่ลูกค้าพึงพอใจ”
ด้านบริษัท สยามสตูดิโอ จำกัด เป็น บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ระดับใหญ่บริษัทหนึ่ง ที่ทำธุรกิจด้านรับผลิตภาพยนตร์โฆษณา และให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ ภายใต้การบริหารงานของ นางนิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา กรรมการ บริษัทสยามสตูดิโอ จำกัด
ปัจจุบัน สยามสตูดิโอ ได้ขยายธุรกิจ เพิ่มเติม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการใช้งบด้านโฆษณาของลูกค้า โดยการเปิดบริษัท C-E-X ซึ่งให้บริการด้านสร้างสรรค์งานโฆษณา ผลิตรายการทีวี และยังมีแผนจะผลิตภาพยนตร์อีกด้วย นอกจากนี้ยังเปิดบริษัทออร์แกไนเซอร์ โอเวชั่น รับงานด้านกิจกรรมการตลาด
บริษัท แม็ทชิ่งสูติโอ จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งที่ขยายธุรกิจในเครือข่ายให้ครบวงจรมากขึ้น โดยมีโครงการเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ประมาณกลางปี 45 นี้ และยังขยายงานด้านอื่นๆ ทั้งในส่วนของการเป็นผู้บริหารการจัดงานกิจกรรมทางการตลาด การนำโชว์จากต่างประเทศเข้ามาเปิดการแสดงในเมืองไทย
ตลาดโฆษณาซบ โปรดักชั่นเฮ้าส์เร่งปรับตัว ขยายงานบริการครอบคลุมครบวงจร ทั้งส่วนงานกิจกรรมการตลาด และการผันตัวเองเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยรายใหม่ ดึงโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์โฆษณา ทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์
ด้านบริษัท หับ โห้ หิ้น จำกัด ซึ่งทำธุรกิจรับจ้างผลิตภาพยนตร์โฆษณามายาวนาน ก็เริ่มผันตัวเองมาเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้จับมือกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมทำธุรกิจภาพยนตร์ด้วยกัน โดยนางสาวจินา โอสถศิลป์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหับโห้หิ้น บางกอก ได้เปิดเผยกับ “บิสิเนสไทย” ว่า
“ขณะนี้ทางหับโห้หิ้น บางกอก ได้เปิดรับงานจากลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยส่วนใหญ่มาจากเวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ซึ่งปีที่ผ่านมารายได้จากลูกค้า ต่างชาติมีสัดส่วนใกล้เคียงกันกับลูกค้าในประเทศ แต่เรื่องจะขยายงานหรือแตกไลน์เพิ่มบริษัทใหม่นั้น ยังไม่คิดเพราะไม่ใช่ความถนัด ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทรับงานถ่ายภาพยนตร์โฆษณาได้เดือนละ 3 เรื่อง เนื่องจากมีผู้กำกับน้อย แต่ก็พอใจในจุดนี้และไม่คิดจะขยายงาน”
สำหรับสภาพการแข่งขันในตลาด นางสาวจินากล่าวว่า “ทุกวันนี้ ตลาดผลิตภาพยนตร์โฆษณามีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีโปรดักชั่น เฮ้าส์เกิดเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ ในสภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ลูกค้ามีงบน้อยลง แต่พิถีพิถันมากขึ้น การแข่งขันจึงเข้มข้น แต่มั่นใจในจุดแข็งของหับโห้หิ้นที่เน้นความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พร้อมกับระบบการทำงานอย่างมืออาชีพที่ลูกค้าพึงพอใจ”
ด้านบริษัท สยามสตูดิโอ จำกัด เป็น บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ระดับใหญ่บริษัทหนึ่ง ที่ทำธุรกิจด้านรับผลิตภาพยนตร์โฆษณา และให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ ภายใต้การบริหารงานของ นางนิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา กรรมการ บริษัทสยามสตูดิโอ จำกัด
ปัจจุบัน สยามสตูดิโอ ได้ขยายธุรกิจ เพิ่มเติม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการใช้งบด้านโฆษณาของลูกค้า โดยการเปิดบริษัท C-E-X ซึ่งให้บริการด้านสร้างสรรค์งานโฆษณา ผลิตรายการทีวี และยังมีแผนจะผลิตภาพยนตร์อีกด้วย นอกจากนี้ยังเปิดบริษัทออร์แกไนเซอร์ โอเวชั่น รับงานด้านกิจกรรมการตลาด
บริษัท แม็ทชิ่งสูติโอ จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งที่ขยายธุรกิจในเครือข่ายให้ครบวงจรมากขึ้น โดยมีโครงการเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ประมาณกลางปี 45 นี้ และยังขยายงานด้านอื่นๆ ทั้งในส่วนของการเป็นผู้บริหารการจัดงานกิจกรรมทางการตลาด การนำโชว์จากต่างประเทศเข้ามาเปิดการแสดงในเมืองไทย