Monday, 13 August 2007
ฟันธงตอกย้ำภาพรวมตลาดโฆษณาปีนี้ทรงตัว
ลีโอ เบอร์เนทท์ ฟันธงตอกย้ำภาพรวมตลาดโฆษณาปีนี้ทรงตัว สมทบกูรูด้านโฆษณา ถึงแม้ตัวเลขครึ่งปีแรกขยับขึ้น 2% เชื่อส่งผลกระทบต่อผลงานโฆษณาไทยที่ส่งเข้าประกวด “Cannes Lions” ครั้งที่ 54 ประเทศฝรั่งเศส อาจวืดเป้ารับรางวัลน้อยกว่าปีที่ผ่านมา นางสาวอ่อนอุษา ลำเลียงพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีโอ เบอร์เนทท์ และอาร์ค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากตัวเลขมูลค่าตลาดโฆษณาครึ่งปีแรกของปีนี้ที่พบว่า ตลาดรวมงบโฆษณามีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 2% นั้น มองว่าการเติบโตที่เกิดขึ้นมาดังกล่าวนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการเติบโตที่มาจากในส่วนของสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์เป็นหลัก ที่มีการขยายโรงหนังมากขึ้นในปีนี้และจากนี้ไป อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในภาพรวมทั้งปีแล้ว คาดว่า ตลาดโฆษณาโดยรวมจะมีมูลค่า ประมาณ 90,000 ล้านบาท อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างจะทรงตัวมากกว่า “ปีนี้มีปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นด้านบวกและลบเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระทบทั้งในแง่บวกและลบต่อตลาดรวมโฆษณาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลังนี้ที่อาจจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นที่อาจจะส่งผลให้การใช้งบคึกคักมากขึ้น แต่หากปลายปี พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยมีผลบังคับใช้ด้วยแล้ว คาดว่าน่าจะทำให้มูลค่ารวมของตลาดโฆษณาที่น่าจะดีขึ้น อาจจะกลับมาทรงตัว เพราะปกติปลายปีลูกค้าจะใช้สื่อเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กว่า 1,000 ล้านบาท อาจจะลดลงถึง 60% หรือกว่า 600 ล้านบาท” อีกทั้งเชื่อว่า ปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อผลงานโฆษณาที่จะนำส่งเข้าประกวดภายในงาน “Cannes Lions” ครั้งที่ 54 ประเทศฝรั่งเศสนี้ด้วย โดยอาจจะมีผลงานส่งเข้าประกวดน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคาดการณ์กันว่าปีนี้ผลงานโฆษณาจากประเทศไทย อาจจะได้รับรางวัลน้อยกว่าปีที่ผ่านมาด้วย สำหรับผลงานโฆษณาของไทยที่คาดว่าน่าจะได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนี้ ทางลีโอ เบอร์เนทท์ คาดว่าน่าจะมีอยู่ 8 ผลงาน จาก 6 เอเจนซี่ เช่น โฆษณาสินค้า สมูท อี สครับ, กรุงเทพ ประกันชีวิต และ กาแฟกระป๋อง แบล็กอัพ คอฟฟี่ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประกวดผลงานโฆษณาระดับโลกครั้งที่ 54 ที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศ ฝรั่งเศส ในวันที่ 23 มิ.ย. 2550 นี้ มีตัวแทนครีเอทีฟจากประเทศไทยได้รับเชิญเข้าร่วมตัดสินงานประกวดถึง 3 คน อาทิ เช่น นายต่อ สันติสิริ ,นายตรง ตันติเวชกุล โดย ทั้ง 3 คนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานโฆษณาของไทยที่เข้าประกวดครั้งนี้เช่นเดียวกันว่า ปีนี้ผลงานมีความโดดเด่นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะมีผลงานที่ได้รับรางวัลในปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา นางสาวอ่อนอุษา กล่าวต่อถึงทิศทางการทำโฆษณาในปัจจุบันด้วยว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้งานโฆษณารูปแบบเดิมๆอาจจะไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อีก โดยเฉพาะสื่อทีวี ช่วงไพร์มไทม์อาจจะไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อมองถึงกลุ่มเป้าหมายที่เริ่มมีเวลาในการดูโทรทัศน์แตกต่างกัน ดังนั้นการทำโฆษณาต่อไปนี้ ควรที่จะเน้นด้านการสื่อสารแบบผู้บริโภคมีส่วนร่วมหรือที่เรียกว่า Engagement Holistically มากขึ้น