Monday, 13 August 2007

ธรรมะไรท์เตอร์เป็นการสื่อธรรมะแบบจ๊าบ

“ธรรมโดน” โดย ธรรมะไรท์เตอร์เป็นการสื่อธรรมะแบบจ๊าบ สมกับอาชีพของผู้เขียนซึ่งเป็นครีเอทีฟในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง แต่ท่ามกลางความจ๊าบมีธรรมะ ซึ่งผู้เขียนได้มาจากการบวชเรียนและศึกษาปฏิบัติธรรม ธรรมะอยู่ทุกหนทุกแห่งของชีวิต ชีวิตของคนปัจจุบันอยู่ในสังคมวัตถุนิยมบริโภคนิยม ท่ามกลางแสงสีและชอปปิงมอลล์ แต่ท่ามกลางชีวิตประจำวันเหล่านั้น เราอาจกระตุกตัวเองให้เห็นธรรมได้ อย่างที่ธรรมะไรท์เตอร์พยายามกระตุกผู้อ่าน
ถ้าท่านอ่านแล้วสนุกก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ท่ามกลางความสนุกลองจดข้อธรรมะที่ธรรมะไรท์เตอร์พยายามนำเสนอในทุกตอนซึ่งมีไม่กี่ข้อ แต่เป็นแกนของหลักธรรม แล้วพยายามทำความเข้าใจหลักธรรมเพียงไม่กี่ข้อนั้นบ่อยๆ จะพบว่าตัวเองจะค่อยๆ เปลี่ยนไป คือมีความเบาเนื้อเบาตัว มีอิสรภาพ มีความสุข มีความรักในเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่งมากขึ้น
ผู้ที่ชำนาญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนมากที่สุด คือครีเอทีฟโฆษณา คือโฆษณาให้อยากบริโภคสินค้าในเป้าหมาย แต่ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ดังกล่าวสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงในทางสร้างสรรค์ได้ด้วย ในท่ามกลางวิกฤติโลกในปัจจุบันมนุษย์จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) ในตน หวังว่าครีเอทีฟโฆษณาทั้งหลายจะมีบทบาทส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานของมนุษย์กันมากขึ้น เพื่อให้สามารถฝ่าวิกฤตการณ์ไปสู่ศานติสุขได้
ประเวศ วะสี
คำนิยมโดยคุณต่อสันติสิริ
ตอนพงษ์สึกมาใหม่ๆ เค้าจะไม่เลิกพูดเรื่องธรรมมะ จนกระทั่งคนในบริษัท หรือแม้กระทั่งคนนอกบริษัทฯก็จะโทรมาถามผมว่า “พี่พงษ์เค้าเพี้ยนหรือเปล่า” แต่ผมก็ยิ้มอยู่ในใจเพราะรู้ดีว่าเขาปรกติดี เพียงแต่เค้าเพิ่งไปพบอะไรบางอย่างที่ทำให้มุมมองเขาเปลี่ยนแปลงไป และอาจจะไม่เหมือนกับคนส่วนมาก ก็จะเหมือนได้อย่างไร เรานักโฆษณาอยู่ในดงของการสร้างกิเลส เพื่อให้คนมีความสุขแบบหนึ่ง ในขณะที่พงษ์เพิ่งออกมากจากสถาบันที่พยายามกำจัดกิเลส เพื่อให้คนมีความสุขอีกแบบหนึ่ง ดีใจที่พงษ์ยังไม่เลิกรากับความตั้งใจที่จะเตือนพวกเราว่า มันมีความสุขอีกอย่างหนึ่งนะ เป็นความสุขแบบสงบ ที่ไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่เราคิด ไม่ได้อยู่แต่เฉพาะตามวัดเท่านั้น แต่ถ้าเรามีสติเราก็จะได้เริ่มค้นพบความสุขแบบนี้จากตัวเราเอง กับชีวิตประจำวัน และสิ่งธรรมดาๆที่อยู่รอบข้างเรา เช่น สบู่ เป็นต้น ถ้านี่คือความเพี้ยนในสายตาคนบางคน ผมคิดว่าโลกนี้น่าจะมีคนที่เพี้ยนแบบพงษ์มากกว่านี้
ต่อ สันติสิริExecutive Creative DirectorTBWATHAILAND
คำนิยม โดยคุณไมตรีอริยสัจจากร
“โลกเปลี่ยนแค่เราขยับ” ผม พงษ์ รู้จักกันจากศิษย์เป็นน้อง จากน้องเป็นเพื่อน จากนั้นก็ขยับปรับเปลี่ยนไปอีกสารพัดตามแต่วาระและโอกาสจะเอื้ออำนวย เราเจอกันบ่อยครั้งทางเน็ตและทางความคิด เวลาขยับให้พงษ์คนเดิมที่ผมรู้จักไปอีกหลายกระเบียด ทั้งที่ยืนและที่คิด ที่สัมผัสได้โดนๆก็จากอักษรแต่ละตัวในหนังสือเล่มนี้ ธรรม ไม่ใช่แฟชั่น ไม่มียุคสมัย ให้ผลไม่จำกัดกาล ง่ายเหมือนจับของคว่ำให้หงาย ท่านทั้งหลายจงมาดูเถิด ๒๕๐๐ ปีให้ผลอย่างไร วันนี้ก็ให้ผลไม่ต่างกัน ท่านทั้งหลายพร้อมขยับที่นั่ง ที่ยืน ที่คิดหรือยัง หามุมเหมาะๆทางความคิด “แล้วมาเปลี่ยนโลกกัน”
รัก ไมตรี อริยสัจจากรExecutive Creative DirectorSC Matchbox Co.,Ltd
คำนิยม โดยคุณสุทธิศักดิ์สุจริตตานนท์
พงศ์เป็นคนที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ เขาเป็นคนขยัน ตอนที่พงศ์บวช ผมก็คิดในใจว่าคราวนี้เขาคงต้องได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ที่ลึกซึ้งถึงธรรมะและแก่นแท้ของชีวิตแน่ ๆ จนอาจจะบวชลืม พงศ์เป็นก๊อปปี้ไรเตอร์ที่มีฝีปาก และฝีไม้ลายมือฉกาจ (แม้ว่าบางทีพวกเออีจะบอกว่าเขาปากจัด) เขาวาดภาพด้วยคำได้ดีเยี่ยม ตอนที่ร่วมงานกัน เวลาที่เราคิดหนังโฆษณา ผมมักจะให้พงศ์เขียนเป็นสคริปสปอตวิทยุก่อนเสมอ เพราะมันไม่มีภาพ แล้วทุกครั้งที่เขาเขียน... ก็โดนทุกทีครับ ทั้งตอบโจทย์ ทั้งฮา ลองคิดดูสิครับว่า เมื่อเอาคนที่เขียนอะไรก็โดน มารวมกับการเข้าถึงธรรมะแล้วผลลัพธ์จะเท่ากับอะไร? เฉลยให้ก็ได้... คำตอบก็คือ “เรื่องธรรมโดน” ไงครับ (ที่จริงแล้วเขาตั้งชื่อหนังสือเองนะครับ......ไม่ใช่ผม) ได้อ่านแล้วมีสติขึ้นเยอะเลยครับ!
สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ Chairman & CCO BBDO Bangkok