Monday, 13 August 2007
13 ภาพยนตร์นานาชาติ
Press Release
13 ภาพยนตร์นานาชาติ พลาดไม่ได้ เรื่องไหนจะคว้า Golden Kinnaree Awardชมให้ครบ ก่อนประกาศผล 21 มกราคม 2548
Thursday, December 30, 2004
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ คัด 13 ภาพยนตร์คุณภาพคับแก้วจากทั่วโลกเข้าชิงรางวัลกินรี ในสาขา International Competition นักดูหนังตัวจริงคอยชมได้ ตั้งแต่วันที่ 14-20 มกราคม 2548 ก่อนประกาศผลภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล ในวันศุกร์ที่ 21 มกราคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยในสาขานี้จะชิงชัยใน 4 รางวัลหลักของเทศกาล คือ ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ก่อนจะได้ชมเต็มๆในโรงภาพยนตร์ ลองทำความรู้จักเป็นการชิมลางกับทั้ง 13 เรื่อง ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
1. Being Julia
ภาพยนตร์อเมริกันที่สร้างมาจากบทละครเวทีของ W.Somerset Maugham ผ่านการเล่าขานใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์จากฝีมือการกำกับของ Istvan Szabo อีกทั้งงานนี้ยังได้นักแสดงระดับฝีมืออย่าง ANNETTE BENING มาสวมบทบาท JULIA LAMBERT นักแสดงผู้มีชื่อเสียงอย่างมากในลอนดอน ยุค 40 ด้วยภาพภายนอกเธอดูเป็นผู้ที่โชคดีประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน มีสามีซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างคอยผลักดัน แต่ความจริงกลับมีแต่การโกหกหลอกลวง ด้วยวัยที่มากขึ้น JULIA เริ่มมองหาบทที่เปลี่ยนแปลงออกไป จนเธอมาพบ Tom Fennell ชายหนุ่มที่มีอายุกว่าเกือบครึ่ง เขาหลอกใช้ JULIA เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ นี่คืองานที่กลับไปสำรวจโลกภายในจิตใจของมนุษย์ ภาพหน้าฉากบนเวทีที่สวยงาม หลังฉากอาจเต็มไปด้วยความโสมม ซึ่งตัวละครทุกตัวต้องยอมรับ และแสดงต่อไปให้จบสิ้น ล่าสุดภาพยนตร์ Being Julia ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Golden Globe ในสาขานักแสดงนำฝ่ายหญิง ประเภทหนังเพลงและหนังตลก
2.The Chorus
หรือในชื่อฝรั่งเศส “Les Choristes“ ภาพยนตร์ที่จะพาผู้ชมหวนกลับไปดื่มด่ำกับห้วงเวลาที่แสนงดงามใน (วัยเยาว์ ) อดีตอีกครั้ง ตามแบบฉบับหนังอย่าง Dead Poet Society และ Mr. Holland’s Opus
เรื่องราวของ Cle’ment Mathieu ครูสอนดนตรีผู้อุทิศชีวิตแก่ลูกศิษย์ หนังเล่าผ่านมุมมองของ Pierre Morhange วาทยากรผู้โด่งดังที่มีโอกาสกลับมาเยี่ยมเยียนบ้านเกิด แล้วบังเอิญไปพบ Diary ของ Cle’ment Mathieu ครูของตนเข้า มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่พาเขาย้อนเวลาไปสู่ชีวิตวัยเด็กอีกครั้ง
นี่คืองานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ Christophe Barratier ผู้กำกับที่ผันตัวมาจากนักประพันธ์เพลง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราได้ฟังบทเพลงที่ไพเพราะมากมาย หนังสามารถคว้ารางวัล European Composer จาก European Film 2004 นอกจากนี้หนังยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำ และเป็นตัวแทนประเทศฝรั่งเศสเข้าชิงชัยบนเวที OSCAR สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศอีกด้วย
3. clean
ภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนบทพิสูจน์ฝีมือการแสดงของ จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) นักแสดงสาวชาวฮ่องกง ด้วยบทบาทม่ายสาวใหญ่ที่เพิ่งพ้นคุก ทำให้เธอสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2004 มาครอบครอง ส่วนหนึ่งของความสำเร็จย่อมมาจากผู้กำกับอย่าง Olivier Assayas ที่สามารถร้อยเรียงเรื่องราวด้วยลีลาที่เหมือนจริง พาผู้ชมไปสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่จะต้องทำอย่างไรให้มีความสุขไปพร้อมกับถูกยอมรับจากสังคม
4. Don’t Move
ผลงานกำกับลำดับที่สองของ Serigo Castellitto นักแสดงผู้คร่ำหวอดในแวดวงภาพยนตร์อิตาลี ด้วยการดัดแปลงนวนิยายในชื่อเดียวกันของภรรยาตัวเอง Margaret Mazzantini ซึ่งเธอก็รับหน้าที่เขียนบทในเรื่องนี้เช่นกัน
Don’t Move เปิดฉากขึ้นเมื่อ Angela สาวน้อยวัย 15 ประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาล โดยทีมแพทย์ที่ทำการรักษาทราบว่าเธอคือลูกสาวของ Timoteo ศัลยแพทย์ฝีมือดี ซึ่งรับบทโดย Serigo Castellitto ในระหว่างที่รอผลการผ่าตัดของลูกสาวอยู่นั้น ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขามาหลายสิบปีก็เริ่มปรากฏขึ้นเป็นเรื่องราวย้อนกลับพาผู้ชมไปสัมผัสถึงเรื่องรักสามเส้าซึ่งจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
หนังยังมาพร้อมกับฝีมือการแสดงของนักแสดงสาวอย่าง Penelope Cruz ในบทของหญิงสาวชั้นต่ำที่เคยมีสัมพันธ์สวาทกับ Timoteo ซึ่งได้รับคำชมจากนักวิจารณ์มากมาย และตัวหนังเองยังสามารถคว้ารางวัล Un Certain Regard จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2004 รางวัล Best European Actress จาก European Film 2004 รวมถึงรางวัล David di Donatello Awards in Rome 2004 สาขานักแสดงนำฝ่ายชายและฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม
5. INNOCENCE VOICES
หนังสัญชาติ MEXICAN ผลงานการกำกับของ LUIS MANDOKI เจ้าของผลงานอย่าง When a Man Loves a Woman (1994) Message in a Bottle (1999) Angel Eyes (2001)
สำหรับ INNOCENT VOICES ถือเป็นการหวนกลับมาทำหนังในบ้านเกิดอีกครั้ง ของ MANDOKI หลังห่างหายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใน Hollywood นานกว่า 17 ปี ภาพยนตร์มาพร้อมเรื่องราวความเลวร้ายของสงครามกลางเมืองใน El Salvador ยุค 80 เล่าผ่านมุมมองของ Chava เด็กน้อยวัย 11 ปี ที่เห็นหมู่บ้านตัวเองย่อยยับลงไปอย่างช้า ๆ แต่เพราะการสู้รบที่ยืดเยื้อออกไป ทำให้กองทัพของรัฐบาล El Salvador ลงมือลักพาตัวเด็ก ๆ ในหมู่บ้านมาฝึกเพื่อเสริมกำลังทัพให้เข็มแข็ง ท่ามกลางบรรยากาศที่มีแต่ความสิ้นหวังนี้ กลับสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Berto ลุงของ Chava เดินทางมายังหมู่บ้าน พร้อมให้วิทยุสื่อสารและสอนจูนคลื่นวิทยุใต้ดินที่เปิดแต่เพลงปฏิวัติ บทเพลงเหล่านี้ได้เติมเชื้อไฟแห่งความหวัง ให้เขาต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายต่อไป
จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การเลือกใช้ภาษาภาพที่คมคาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดด้วยภาพรองเท้าบู๊ตของทหารกำลังย่ำโคลน สลับกับใบหน้าเด็กที่เศร้าสร้อย หรือภาพเหล่าทหารเข่นฆ่าผู้คนท่ามกลางสายฝนที่เย็นฉ่ำ การใช้สัญลักษณ์สองอย่างที่ขัดแย้งกันเพื่อเสียดสีเย้ยหยันนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ LUIS MANDOKI ที่หาตัวจับยาก จนได้รับเชิญเข้าร่วมงาน TORONTO INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2004
INNOCENT VOICES จึงเป็นหนังที่บอกเล่าวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของคนตัวเล็ก ๆ ในสังคม แม้ต้องเผชิญหน้ากับภาวะเลวร้ายที่สุดในชีวิตก็ตาม
6. The Motorcycle Diaries
ภาพยนตร์ฝั่งลาติน ผลงานการกำกับของ Walter Salles ผู้กำกับชาวบราซิล ที่เคยมีหนังโดดเด่นอย่าง Central Station ในปีนี้เขากลับมาพร้อมกับผลงานในแนวทาง Road Movie ที่ดัดแปลงจากบันทึกของ Che Guevara นักปฎิวัติผู้ทรงอิทธิพลของโลกท่านหนึ่ง ตัวหนังเล่าถึงการออกเดินทางสู่อเมริกาใต้ด้วยมอเตอร์ไซค์ ครั้งที่ Che ยังเป็นนักศึกษาแพทย์วัย 23 รับบทโดย Gael Garcia ( Y Tu Mamam Tambien , Amores Perros ) และเพื่อนเขา Albeto Gaannado เรื่องราวระหว่างที่พวกเขาทั้งสองพบเห็นได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นผู้พลิกผันประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถคว้ารางวัลทางเทคนิค จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2004 คว้ารางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม จาก New York Film Online ล่าสุดได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำ
7. Old Boy
ภาพยนตร์จากแดนกิมจิ ผลงานการกำกับของป้าก ชางวุก ที่เคยสร้างความเกรียวกราวมาแล้วในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2004 ด้วยการคว้ารางวัลกรังปรีซ์ จูรีส์ ตัวหนังดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ TSUCHIYA GARON ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โอ แด-ซู (OH Dae - Soo) พ่อบ้านที่มีชีวิตสุดแสนธรรมดา กับครอบครัวที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างกลับพลิกผัน เมื่อเขาถูกลักพาตัวมาขัง อีกทั้งภรรยาและลูกสาวถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากสาเหตุใด แด–ซูเฝ้าเก็บงำความแค้นไว้ จน 15 ปีต่อมา เขาถูกปล่อยตัวพร้อมการติดต่อลึกลับที่นำพาไปสู่การการล้างแค้นและการหาเหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด
นี่คือภาพยนตร์แห่งการทวงหนี้แค้นที่ผสมผสานความหฤโหดคละเคล้าความหฤหรรษ์ได้อย่างกลมกล่อม ชนิดที่คอหนังระดับ HARD CORE ไม่ควรพลาด
8. Red Dust
ภาพยนตร์แนว Courtroom Drama ว่าด้วยเรื่องราวหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตยในยุคแรกของแอฟริกา เนื้อหาหนังอ้างอิงถึงคณะกรรมการไกล่เกลี่ยและค้นหาความจริง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า TRC มีหน้าที่เยียวยาความเจ็บปวดทางจิตใจของประชาชนในช่วงที่ถูกปกครองโดยคนผิวขาว เป้าหมายของ TRC นั้นไม่ต้องการเอาผิดกับผู้ใด แต่ต้องการให้รับสารภาพเพื่อนำไปสู่การยอมรับความจริงที่ทุกคนต่างเผชิญอยู่ร่วมกัน
หนังนำเสนอในรูปแบบของสารคดีและเรื่องแต่งสลับกันไป ผ่านการสอบสวน Drik Hendricks อดีตนายตำรวจที่เคยทำทารุณธรรมต่อคนผิวดำ นี่ถือเป็นการชิมลางงานหนังครั้งแรกของ Tom Hooper ผู้กำกับชาวอังกฤษ แต่งานทางโทรทัศน์เขาคือผู้กำกับที่ฝากผลงานระดับรางวัลไว้มากมาย อาทิเช่น Cold Feet , East Enders และเรายังจะได้ชมฝีมือการแสดงของ Hilary Swank เจ้าของรางวัลออสการ์จากเรื่อง Boys Don’t Cry ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย Red Dust ได้รับเกียรติฉายเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพ 2005
9. The Sea Inside
ภาพยนตร์สเปน ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Spaniard Ramon Sampedro อดีตต้นกลเรือที่เป็นอัมพาตมานานกว่า 30 ปี โดยตัวหนังเล่าถึงความสัมพันธ์ของ Ramon Sampedro กับผู้หญิงอีกสองคนที่มีบทบาทต่อชีวิตของเขา นั่นคือ Julia ทนายความที่คอยช่วยเหลือเพื่อเรียกร้องสิทธิ และ Rosa หญิงสาวชาวบ้านที่โน้มน้าวให้เขาเชื่อว่าการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่ล้ำค่า แม้ว่าตัวเขาเองมุ่งมั่นที่จะตาย แต่สำหรับทุกคนที่อยู่รอบข้างแล้ว เขากลับเป็นพลังใจที่ทำให้ทุกคนทำสิ่งต่าง ๆ นี่คือหนังทำให้เราได้รู้จักธรรมชาติของความรัก อิสรภาพ และความงดงามแห่งชีวิต ผู้กำกับ Alejandro Amenabar หวนกลับมาทำหนังในประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จในแวดวง Hollywood มาแล้วจากหนังอย่าง The Other
10. The Shutter
ภาพยนตร์สยองขวัญสายพันธุ์ใหม่กับผู้กำกับเลือดใหม่อย่าง ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และบรรจง ปิสัญธนะกูล จากผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาบริษัทฟีโนมีน่า สู่การทำหนังใหญ่เต็มตัวครั้งแรก ตัวหนังได้รับแรงบันดาลใจ จากภาพเหตุการณ์ 14 ตุลา รวมถึงภาพอันลึกลับจากอินเตอร์เน็ต พัฒนามาสู่บทภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวความลี้ลับของเงาประหลาดบนภาพถ่าย ที่ท้ายสุดนำไปสู่ความสยองขวัญอันน่าสะพรึงกลัว ตัวหนังเองสามารถสร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2547
11. The Syrian Bride
หนังแนวตลกเสียดสีที่ว่าด้วยความขัดแย้งระหว่างอาหรับและอิสราเอล ผ่านเรื่องราวของ Mona สาวสวยประจำหมู่บ้านมุสลิมนิกาย Druze ที่ต้องถูกส่งตัวไปแต่งงานกับดาราทีวีฝั่งซีเรีย แต่ด้วยความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้งานแต่งของเธอเต็มไปด้วยความอลหม่าน เพราะหากเธอข้ามผ่านไปซีเรียเมื่อใดจะต้องทิ้งพาสปอร์ตและไม่สามารถหวนกลับมายังหมู่บ้านมุสลิมที่ปกครองโดยอิสราเอลได้ เรื่องราวทั้งหมดนำไปสู่ความขัดแย้ง อารมณ์ขันแบบแสบสันต์จากการร่วมมือกันระหว่าง Eran Riklis ผู้กำกับชาวอิสราเอล และ Suha Arraf ผู้เขียนบทสาวชาวปาเลสไตน์ ที่สามารถสร้างอารมณ์ขันปนรันทดไปกับชะตากรรมของ Mona ได้อย่างไม่ชี้นำคนดู อีกทั้งแฝงเน้นแนวคิดเรื่องสตรีนิยมไว้อย่างแนบเนียน นอกจากนี้ตัวหนังยังสามารถคว้ารางวัล FIPRESCI JURY และ ECUMENICAL JURY จาก Montreal World Film Festival ครั้งที่ 28 ประเทศแคนาดา มาครอบครองได้สำเร็จ
12. Vera Drake
การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง MIKE LEIGH (Secret & Lies) หนนี้มาพร้อมกับงานที่เต็มไปด้วยประเด็นร้อน ๆ หมิ่นเหม่ศีลธรรมอีกเช่นเคย ว่าด้วยเรื่องราวในยุค 50 ของเมือง London เมื่อ Vera Drake (Imelda Staunton) หญิงวัยกลางคนที่มีชีวิตแสนธรรมดา รับจ้างทำความสะอาดบ้านของคนร่ำรวยไปวัน ๆ แต่กลับมีความลับที่เก็บงำไว้ นั่นคือการรับจ้างทำแท้งเถื่อน โดยเธอเชื่ออย่างจริงใจว่าสิ่งที่ทำคือการช่วยเหลือผู้อื่น นี่คือภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างศีลธรรม กฎหมาย และความถูกผิด ที่ถ่ายทอดออกมาด้วยลีลาที่เหมือนจริง อีกทั้งยังเป็นงานจากฝั่งอังกฤษที่ไปคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Golden Lion จากเทศกาลภาพยนตร์เวนิส 2004 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบนเวทีลูกโลกทองคำ และที่น่าจับตามองอย่างมากบนเวที OSCAR ปีหน้า โดยเฉพาะในสาขานักแสดงนำฝ่ายหญิง ที่กวาดรางวัลในสาขาเดียวกันนี้มาแทบทุกเทศกาลที่เข้าร่วม
13. Zelary
ภาพยนตร์จากสาธารณรัฐเชค ที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสอุ่นไอแห่งรักที่ครุกรุ่นท่ามกลางสมรภูมิรบ ผ่านเรื่องราวของ Eliska อดีตนักศึกษาแพทย์ที่ต้องผันมาตัวเป็นนางพยาบาล และคอยช่วยเหลือพวกที่ต่อต้านนาซีอย่างลับ ๆ จนกระทั่งเธอได้ช่วยชีวิต Joza พรานป่าผู้ได้รับบาดเจ็บ และแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มก่อตัวขึ้น แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อพวกนาซีรู้ถึงปฏิบัติการลับของพวกเธอ ดังนั้น Joza จึงได้รับการร้องขอให้พา Eliska หนีไปสู่ชีวิตใหม่ที่เมือง Zelary แม้จะล้าหลังดังเมืองที่ถูกสาปให้เวลาหยุดนิ่งไว้ แต่สำหรับ Eliska มันคือการเรียนรู้ที่พอใจกับวิถีชีวิตที่ต่างออกไป นี่จึงเป็นหนังที่แสดงให้เห็นว่าความรัก ความงดงามสามารถเบ่งบานในสภาวะโหดร้ายลำเค็ญได้เสมอ
ภาพยนตร์รักโรมานซ์อิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายอัตชีวประวัติเรื่อง Jozova Hanule ของควิตา เลกาโตวา ส่วนฉบับของภาพยนตร์นั้นกำกับโดย Ondrej Trojan ผู้เคยเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และนักแสดง อีกทั้งตัวหนังยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar ในปี 2003 สาขา Best Foreign Language Film อีกด้วย
13 ภาพยนตร์นานาชาติ พลาดไม่ได้ เรื่องไหนจะคว้า Golden Kinnaree Awardชมให้ครบ ก่อนประกาศผล 21 มกราคม 2548
Thursday, December 30, 2004
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ คัด 13 ภาพยนตร์คุณภาพคับแก้วจากทั่วโลกเข้าชิงรางวัลกินรี ในสาขา International Competition นักดูหนังตัวจริงคอยชมได้ ตั้งแต่วันที่ 14-20 มกราคม 2548 ก่อนประกาศผลภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล ในวันศุกร์ที่ 21 มกราคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยในสาขานี้จะชิงชัยใน 4 รางวัลหลักของเทศกาล คือ ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ก่อนจะได้ชมเต็มๆในโรงภาพยนตร์ ลองทำความรู้จักเป็นการชิมลางกับทั้ง 13 เรื่อง ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
1. Being Julia
ภาพยนตร์อเมริกันที่สร้างมาจากบทละครเวทีของ W.Somerset Maugham ผ่านการเล่าขานใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์จากฝีมือการกำกับของ Istvan Szabo อีกทั้งงานนี้ยังได้นักแสดงระดับฝีมืออย่าง ANNETTE BENING มาสวมบทบาท JULIA LAMBERT นักแสดงผู้มีชื่อเสียงอย่างมากในลอนดอน ยุค 40 ด้วยภาพภายนอกเธอดูเป็นผู้ที่โชคดีประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน มีสามีซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างคอยผลักดัน แต่ความจริงกลับมีแต่การโกหกหลอกลวง ด้วยวัยที่มากขึ้น JULIA เริ่มมองหาบทที่เปลี่ยนแปลงออกไป จนเธอมาพบ Tom Fennell ชายหนุ่มที่มีอายุกว่าเกือบครึ่ง เขาหลอกใช้ JULIA เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ นี่คืองานที่กลับไปสำรวจโลกภายในจิตใจของมนุษย์ ภาพหน้าฉากบนเวทีที่สวยงาม หลังฉากอาจเต็มไปด้วยความโสมม ซึ่งตัวละครทุกตัวต้องยอมรับ และแสดงต่อไปให้จบสิ้น ล่าสุดภาพยนตร์ Being Julia ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Golden Globe ในสาขานักแสดงนำฝ่ายหญิง ประเภทหนังเพลงและหนังตลก
2.The Chorus
หรือในชื่อฝรั่งเศส “Les Choristes“ ภาพยนตร์ที่จะพาผู้ชมหวนกลับไปดื่มด่ำกับห้วงเวลาที่แสนงดงามใน (วัยเยาว์ ) อดีตอีกครั้ง ตามแบบฉบับหนังอย่าง Dead Poet Society และ Mr. Holland’s Opus
เรื่องราวของ Cle’ment Mathieu ครูสอนดนตรีผู้อุทิศชีวิตแก่ลูกศิษย์ หนังเล่าผ่านมุมมองของ Pierre Morhange วาทยากรผู้โด่งดังที่มีโอกาสกลับมาเยี่ยมเยียนบ้านเกิด แล้วบังเอิญไปพบ Diary ของ Cle’ment Mathieu ครูของตนเข้า มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่พาเขาย้อนเวลาไปสู่ชีวิตวัยเด็กอีกครั้ง
นี่คืองานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ Christophe Barratier ผู้กำกับที่ผันตัวมาจากนักประพันธ์เพลง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราได้ฟังบทเพลงที่ไพเพราะมากมาย หนังสามารถคว้ารางวัล European Composer จาก European Film 2004 นอกจากนี้หนังยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำ และเป็นตัวแทนประเทศฝรั่งเศสเข้าชิงชัยบนเวที OSCAR สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศอีกด้วย
3. clean
ภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนบทพิสูจน์ฝีมือการแสดงของ จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) นักแสดงสาวชาวฮ่องกง ด้วยบทบาทม่ายสาวใหญ่ที่เพิ่งพ้นคุก ทำให้เธอสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2004 มาครอบครอง ส่วนหนึ่งของความสำเร็จย่อมมาจากผู้กำกับอย่าง Olivier Assayas ที่สามารถร้อยเรียงเรื่องราวด้วยลีลาที่เหมือนจริง พาผู้ชมไปสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่จะต้องทำอย่างไรให้มีความสุขไปพร้อมกับถูกยอมรับจากสังคม
4. Don’t Move
ผลงานกำกับลำดับที่สองของ Serigo Castellitto นักแสดงผู้คร่ำหวอดในแวดวงภาพยนตร์อิตาลี ด้วยการดัดแปลงนวนิยายในชื่อเดียวกันของภรรยาตัวเอง Margaret Mazzantini ซึ่งเธอก็รับหน้าที่เขียนบทในเรื่องนี้เช่นกัน
Don’t Move เปิดฉากขึ้นเมื่อ Angela สาวน้อยวัย 15 ประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาล โดยทีมแพทย์ที่ทำการรักษาทราบว่าเธอคือลูกสาวของ Timoteo ศัลยแพทย์ฝีมือดี ซึ่งรับบทโดย Serigo Castellitto ในระหว่างที่รอผลการผ่าตัดของลูกสาวอยู่นั้น ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขามาหลายสิบปีก็เริ่มปรากฏขึ้นเป็นเรื่องราวย้อนกลับพาผู้ชมไปสัมผัสถึงเรื่องรักสามเส้าซึ่งจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
หนังยังมาพร้อมกับฝีมือการแสดงของนักแสดงสาวอย่าง Penelope Cruz ในบทของหญิงสาวชั้นต่ำที่เคยมีสัมพันธ์สวาทกับ Timoteo ซึ่งได้รับคำชมจากนักวิจารณ์มากมาย และตัวหนังเองยังสามารถคว้ารางวัล Un Certain Regard จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2004 รางวัล Best European Actress จาก European Film 2004 รวมถึงรางวัล David di Donatello Awards in Rome 2004 สาขานักแสดงนำฝ่ายชายและฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม
5. INNOCENCE VOICES
หนังสัญชาติ MEXICAN ผลงานการกำกับของ LUIS MANDOKI เจ้าของผลงานอย่าง When a Man Loves a Woman (1994) Message in a Bottle (1999) Angel Eyes (2001)
สำหรับ INNOCENT VOICES ถือเป็นการหวนกลับมาทำหนังในบ้านเกิดอีกครั้ง ของ MANDOKI หลังห่างหายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใน Hollywood นานกว่า 17 ปี ภาพยนตร์มาพร้อมเรื่องราวความเลวร้ายของสงครามกลางเมืองใน El Salvador ยุค 80 เล่าผ่านมุมมองของ Chava เด็กน้อยวัย 11 ปี ที่เห็นหมู่บ้านตัวเองย่อยยับลงไปอย่างช้า ๆ แต่เพราะการสู้รบที่ยืดเยื้อออกไป ทำให้กองทัพของรัฐบาล El Salvador ลงมือลักพาตัวเด็ก ๆ ในหมู่บ้านมาฝึกเพื่อเสริมกำลังทัพให้เข็มแข็ง ท่ามกลางบรรยากาศที่มีแต่ความสิ้นหวังนี้ กลับสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Berto ลุงของ Chava เดินทางมายังหมู่บ้าน พร้อมให้วิทยุสื่อสารและสอนจูนคลื่นวิทยุใต้ดินที่เปิดแต่เพลงปฏิวัติ บทเพลงเหล่านี้ได้เติมเชื้อไฟแห่งความหวัง ให้เขาต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายต่อไป
จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การเลือกใช้ภาษาภาพที่คมคาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดด้วยภาพรองเท้าบู๊ตของทหารกำลังย่ำโคลน สลับกับใบหน้าเด็กที่เศร้าสร้อย หรือภาพเหล่าทหารเข่นฆ่าผู้คนท่ามกลางสายฝนที่เย็นฉ่ำ การใช้สัญลักษณ์สองอย่างที่ขัดแย้งกันเพื่อเสียดสีเย้ยหยันนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ LUIS MANDOKI ที่หาตัวจับยาก จนได้รับเชิญเข้าร่วมงาน TORONTO INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2004
INNOCENT VOICES จึงเป็นหนังที่บอกเล่าวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของคนตัวเล็ก ๆ ในสังคม แม้ต้องเผชิญหน้ากับภาวะเลวร้ายที่สุดในชีวิตก็ตาม
6. The Motorcycle Diaries
ภาพยนตร์ฝั่งลาติน ผลงานการกำกับของ Walter Salles ผู้กำกับชาวบราซิล ที่เคยมีหนังโดดเด่นอย่าง Central Station ในปีนี้เขากลับมาพร้อมกับผลงานในแนวทาง Road Movie ที่ดัดแปลงจากบันทึกของ Che Guevara นักปฎิวัติผู้ทรงอิทธิพลของโลกท่านหนึ่ง ตัวหนังเล่าถึงการออกเดินทางสู่อเมริกาใต้ด้วยมอเตอร์ไซค์ ครั้งที่ Che ยังเป็นนักศึกษาแพทย์วัย 23 รับบทโดย Gael Garcia ( Y Tu Mamam Tambien , Amores Perros ) และเพื่อนเขา Albeto Gaannado เรื่องราวระหว่างที่พวกเขาทั้งสองพบเห็นได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นผู้พลิกผันประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถคว้ารางวัลทางเทคนิค จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2004 คว้ารางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม จาก New York Film Online ล่าสุดได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำ
7. Old Boy
ภาพยนตร์จากแดนกิมจิ ผลงานการกำกับของป้าก ชางวุก ที่เคยสร้างความเกรียวกราวมาแล้วในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2004 ด้วยการคว้ารางวัลกรังปรีซ์ จูรีส์ ตัวหนังดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ TSUCHIYA GARON ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โอ แด-ซู (OH Dae - Soo) พ่อบ้านที่มีชีวิตสุดแสนธรรมดา กับครอบครัวที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างกลับพลิกผัน เมื่อเขาถูกลักพาตัวมาขัง อีกทั้งภรรยาและลูกสาวถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากสาเหตุใด แด–ซูเฝ้าเก็บงำความแค้นไว้ จน 15 ปีต่อมา เขาถูกปล่อยตัวพร้อมการติดต่อลึกลับที่นำพาไปสู่การการล้างแค้นและการหาเหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด
นี่คือภาพยนตร์แห่งการทวงหนี้แค้นที่ผสมผสานความหฤโหดคละเคล้าความหฤหรรษ์ได้อย่างกลมกล่อม ชนิดที่คอหนังระดับ HARD CORE ไม่ควรพลาด
8. Red Dust
ภาพยนตร์แนว Courtroom Drama ว่าด้วยเรื่องราวหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตยในยุคแรกของแอฟริกา เนื้อหาหนังอ้างอิงถึงคณะกรรมการไกล่เกลี่ยและค้นหาความจริง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า TRC มีหน้าที่เยียวยาความเจ็บปวดทางจิตใจของประชาชนในช่วงที่ถูกปกครองโดยคนผิวขาว เป้าหมายของ TRC นั้นไม่ต้องการเอาผิดกับผู้ใด แต่ต้องการให้รับสารภาพเพื่อนำไปสู่การยอมรับความจริงที่ทุกคนต่างเผชิญอยู่ร่วมกัน
หนังนำเสนอในรูปแบบของสารคดีและเรื่องแต่งสลับกันไป ผ่านการสอบสวน Drik Hendricks อดีตนายตำรวจที่เคยทำทารุณธรรมต่อคนผิวดำ นี่ถือเป็นการชิมลางงานหนังครั้งแรกของ Tom Hooper ผู้กำกับชาวอังกฤษ แต่งานทางโทรทัศน์เขาคือผู้กำกับที่ฝากผลงานระดับรางวัลไว้มากมาย อาทิเช่น Cold Feet , East Enders และเรายังจะได้ชมฝีมือการแสดงของ Hilary Swank เจ้าของรางวัลออสการ์จากเรื่อง Boys Don’t Cry ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย Red Dust ได้รับเกียรติฉายเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพ 2005
9. The Sea Inside
ภาพยนตร์สเปน ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Spaniard Ramon Sampedro อดีตต้นกลเรือที่เป็นอัมพาตมานานกว่า 30 ปี โดยตัวหนังเล่าถึงความสัมพันธ์ของ Ramon Sampedro กับผู้หญิงอีกสองคนที่มีบทบาทต่อชีวิตของเขา นั่นคือ Julia ทนายความที่คอยช่วยเหลือเพื่อเรียกร้องสิทธิ และ Rosa หญิงสาวชาวบ้านที่โน้มน้าวให้เขาเชื่อว่าการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่ล้ำค่า แม้ว่าตัวเขาเองมุ่งมั่นที่จะตาย แต่สำหรับทุกคนที่อยู่รอบข้างแล้ว เขากลับเป็นพลังใจที่ทำให้ทุกคนทำสิ่งต่าง ๆ นี่คือหนังทำให้เราได้รู้จักธรรมชาติของความรัก อิสรภาพ และความงดงามแห่งชีวิต ผู้กำกับ Alejandro Amenabar หวนกลับมาทำหนังในประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จในแวดวง Hollywood มาแล้วจากหนังอย่าง The Other
10. The Shutter
ภาพยนตร์สยองขวัญสายพันธุ์ใหม่กับผู้กำกับเลือดใหม่อย่าง ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และบรรจง ปิสัญธนะกูล จากผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาบริษัทฟีโนมีน่า สู่การทำหนังใหญ่เต็มตัวครั้งแรก ตัวหนังได้รับแรงบันดาลใจ จากภาพเหตุการณ์ 14 ตุลา รวมถึงภาพอันลึกลับจากอินเตอร์เน็ต พัฒนามาสู่บทภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวความลี้ลับของเงาประหลาดบนภาพถ่าย ที่ท้ายสุดนำไปสู่ความสยองขวัญอันน่าสะพรึงกลัว ตัวหนังเองสามารถสร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2547
11. The Syrian Bride
หนังแนวตลกเสียดสีที่ว่าด้วยความขัดแย้งระหว่างอาหรับและอิสราเอล ผ่านเรื่องราวของ Mona สาวสวยประจำหมู่บ้านมุสลิมนิกาย Druze ที่ต้องถูกส่งตัวไปแต่งงานกับดาราทีวีฝั่งซีเรีย แต่ด้วยความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้งานแต่งของเธอเต็มไปด้วยความอลหม่าน เพราะหากเธอข้ามผ่านไปซีเรียเมื่อใดจะต้องทิ้งพาสปอร์ตและไม่สามารถหวนกลับมายังหมู่บ้านมุสลิมที่ปกครองโดยอิสราเอลได้ เรื่องราวทั้งหมดนำไปสู่ความขัดแย้ง อารมณ์ขันแบบแสบสันต์จากการร่วมมือกันระหว่าง Eran Riklis ผู้กำกับชาวอิสราเอล และ Suha Arraf ผู้เขียนบทสาวชาวปาเลสไตน์ ที่สามารถสร้างอารมณ์ขันปนรันทดไปกับชะตากรรมของ Mona ได้อย่างไม่ชี้นำคนดู อีกทั้งแฝงเน้นแนวคิดเรื่องสตรีนิยมไว้อย่างแนบเนียน นอกจากนี้ตัวหนังยังสามารถคว้ารางวัล FIPRESCI JURY และ ECUMENICAL JURY จาก Montreal World Film Festival ครั้งที่ 28 ประเทศแคนาดา มาครอบครองได้สำเร็จ
12. Vera Drake
การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง MIKE LEIGH (Secret & Lies) หนนี้มาพร้อมกับงานที่เต็มไปด้วยประเด็นร้อน ๆ หมิ่นเหม่ศีลธรรมอีกเช่นเคย ว่าด้วยเรื่องราวในยุค 50 ของเมือง London เมื่อ Vera Drake (Imelda Staunton) หญิงวัยกลางคนที่มีชีวิตแสนธรรมดา รับจ้างทำความสะอาดบ้านของคนร่ำรวยไปวัน ๆ แต่กลับมีความลับที่เก็บงำไว้ นั่นคือการรับจ้างทำแท้งเถื่อน โดยเธอเชื่ออย่างจริงใจว่าสิ่งที่ทำคือการช่วยเหลือผู้อื่น นี่คือภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างศีลธรรม กฎหมาย และความถูกผิด ที่ถ่ายทอดออกมาด้วยลีลาที่เหมือนจริง อีกทั้งยังเป็นงานจากฝั่งอังกฤษที่ไปคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Golden Lion จากเทศกาลภาพยนตร์เวนิส 2004 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบนเวทีลูกโลกทองคำ และที่น่าจับตามองอย่างมากบนเวที OSCAR ปีหน้า โดยเฉพาะในสาขานักแสดงนำฝ่ายหญิง ที่กวาดรางวัลในสาขาเดียวกันนี้มาแทบทุกเทศกาลที่เข้าร่วม
13. Zelary
ภาพยนตร์จากสาธารณรัฐเชค ที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสอุ่นไอแห่งรักที่ครุกรุ่นท่ามกลางสมรภูมิรบ ผ่านเรื่องราวของ Eliska อดีตนักศึกษาแพทย์ที่ต้องผันมาตัวเป็นนางพยาบาล และคอยช่วยเหลือพวกที่ต่อต้านนาซีอย่างลับ ๆ จนกระทั่งเธอได้ช่วยชีวิต Joza พรานป่าผู้ได้รับบาดเจ็บ และแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มก่อตัวขึ้น แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อพวกนาซีรู้ถึงปฏิบัติการลับของพวกเธอ ดังนั้น Joza จึงได้รับการร้องขอให้พา Eliska หนีไปสู่ชีวิตใหม่ที่เมือง Zelary แม้จะล้าหลังดังเมืองที่ถูกสาปให้เวลาหยุดนิ่งไว้ แต่สำหรับ Eliska มันคือการเรียนรู้ที่พอใจกับวิถีชีวิตที่ต่างออกไป นี่จึงเป็นหนังที่แสดงให้เห็นว่าความรัก ความงดงามสามารถเบ่งบานในสภาวะโหดร้ายลำเค็ญได้เสมอ
ภาพยนตร์รักโรมานซ์อิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายอัตชีวประวัติเรื่อง Jozova Hanule ของควิตา เลกาโตวา ส่วนฉบับของภาพยนตร์นั้นกำกับโดย Ondrej Trojan ผู้เคยเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และนักแสดง อีกทั้งตัวหนังยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar ในปี 2003 สาขา Best Foreign Language Film อีกด้วย
Labels:
News : International Movie