Monday, 13 August 2007

ว่าที่นายก

ที่มา Link: http://webboard.mthai.com/5/2006-08-01/255639.html

หลังจากที่สปอตโฆษณาของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เพื่อชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำแนวใหม่แล้ว
พรรคประชาธิปัตย์ยังมีสปอตโฆษณาตามมาอีก 3 ชุด โดยมีการวางแผนไว้ว่า ชุดแรกที่ออกไปแล้วจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ "ประวัติและแนวคิดของนายอภิสิทธิ์" ความยาว 60 วินาที ออกอากาศทุกวัน จนถึงวันที่ 23 สิงหาคม ก่อนที่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดวันเลือกตั้งจะมีผลใช้บังคับ
ชุดที่ 2 เกี่ยวกับเรื่อง "ค่าครองชีพ" ความยาว 30 วินาที จะออกอากาศถึงวันที่ 7 สิงหาคม
ชุดที่ 3 "การศึกษา" และชุดที่ 4 "สุขภาพ" ความยาว 30 วินาที เริ่มออกอากาศวันที่ 8 สิงหาคม โดย 2 ชุดนี้จะสลับกันออก
โฆษณาทั้ง 4 ชุดนี้ได้ผ่านการสำรวจความคิดเห็นหรือเทสติ้งแล้วว่าจะเข้าถึงความรู้สึกของผู้รับชมได้ทุกชนชั้น
จากนี้จะมีสื่ออื่นๆ ตามมาทั้งสปอตวิทยุ และวันที่ 6 สิงหาคม พรรคประชาธิปัตย์จะจัดการประชุม *ปฏิบัติการผลักดันวาระประชาชน* ซึ่งนายอภิสิทธิ์จะมีคำประกาศออกมา และพรรคจะขึ้นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือบิลบอร์ด ที่ผ่านการสำรวจความเห็นมาแล้วเช่นกัน
เบื้องหลังการจัดทำสปอตโฆษณาครั้งนี้ มี *กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ* กรรมการบริหารพรรค เป็นหัวเรือใหญ่ มีทีมงานจากทั้งคนในพรรคและนอกพรรค มีนักคิดจากนอกพรรคบางคนที่จะมาลงสมัครในระบบรายชื่อของพรรคด้วย ใช้เวลาคิด 1 เดือน ถ่ายทำอีก 1 เดือน โดยว่าจ้างโปรดักชั่นเฮ้าส์หลายแห่ง อาทิ บริษัท ฟาร์อีสท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ฯลฯ
ส่วนงบประมาณทั้งหมดที่ใช้ในครั้งนี้มีการเปิดเผยว่าอยู่ในช่วงตัวเลข 7 หลัก แต่ 7 หลักต้นหรือปลาย ไม่มีการเปิดเผย
งานนี้....ต้องดูว่าเสียงตอบรับจะคุ้มกับตัวเลขเงินที่ต้องเสียไปหรือไม่ ..... สำรวจกระเป๋าเงิน"ปชป." หลังยิงสปอตลุยเลือกตั้งหลายคนคงได้เห็นสปอตโฆษณาตัวใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โชว์ภาพ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคว่ามีความพร้อมที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไป
ถือเป็นพรรคแรกที่โหมโรงประชาสัมพันธ์ เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ และหลังจากนี้สปอตตัวต่างๆ จะทยอยออกมา โดยจะชูนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียง
เรียกได้ว่าเรื่องนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมความพร้อมได้ดีจุดหนึ่ง...
แต่ในด้านกำลังทรัพย์คงต้องล้วงลึกไปใน "ก้นกระเป๋า" ของพรรคว่ามีความพร้อมแค่ไหน เพราะเมื่อหันไปเปิดดูยอดเงินบริจาคที่ทางพรรคประชาธิปัตย์แจ้งยอดต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
พบว่ามียอดบริจาคทั้งสิ้น 21.05 ล้านบาท แยกเป็นผู้บริจาครายใหญ่ๆ 1 แสนบาทขึ้นไป อาทิ นายดุสิต ปิยะทัต บริจาค 100,000 บาท, นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ บริจาค 250,000 บาท, นายอนุรักษ์ สิมสวัสดิ์ 500,000 บาท, นายยุพ นานา 500,000 บาท, นายณรงค์ศักดิ์ ปัทมปาณีวงศ์ 5,000,000 บาท, บริษัท ยนตรกิจอินเตอร์เซลล์ จำกัด 250,000 บาท, บริษัท โตโยต้าพิษณุโลก จำกัด 100,000 บาท, บริษัท ซีเวลล์ โพร์เซ่น ฟู้ด 500,000 บาท, บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด 200,000 บาท, บริษัท ซี.อาร์.ซี การท่าเรือ จำกัด 150,000 บาท บริษัท อันดามัน ซีฟู้ด จำกัด 500,000 บาท, บริษัท จันทบุรี โฟรเซ่นฟู้ด จำกัด 500,000 บาท, บริษัท เวลล์ แอนโก ยูนิเวอร์ส จำกัด 500,000 บาท
บริษัท อุตสาหกรรมมิตรเกษตร จำกัด 500,000 บาท, บจ.บริหารสินทรัพย์ ท่าเรือดอนสัก-เกาะสมุย 500,000 บาท, บริษัท ระยอง เพียวริฟายเออร์ จำกัด 500,000 บาท, บริษัท ชีพโก้ จำกัด (มหาชน) 500,000 บาท, บริษัท ซี.พี.อินเตอร์ฟู้ด จำกัด 1,000,000 บาท, บริษัท แอ๊ดว้านซ์ ฟาร์มา จำกัด 500,000 บาท, บริษัท สตาร์มาร์เกตติ้ง จำกัด 1,000,000 บาท, บริษัท เกษตรภัณฑ์ อุตสาหกรรม จำกัด 500,000 บาท
นายนพดล ธรรมวัฒนะ 200,000 บาท, นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม 100,000 บาท, นายวิเชษฐ บัณฑุวงศ์ 100,000 บาท, นพ.กิติพันธ์ วิสุทธารมณ์ 100,000 บาท, นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ 580,000 บาท, นายธนา ชีรวินิจ 250,000 บาท
บริษัท นิวเดเคค จำกัด 500,000 บาท, บริษัท ดีพร้อมภัณฑ์ จำกัด 150,000 บาท, บมจ.มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนท์ 100,000 บาท, บริษัท นันยางเท็กซ์ไทล์ จำกัด 500,000 บาท, บริษัท เอบีซี เทคโนโลยี จำกัด 500,000 บาท, บริษัท ทริโอไบรท์ จำกัด 100,000 บาท, บริษัท สหกรรมกรกิจ จำกัด 125,000 บาท, บริษัท วีรวรรณ จำกัด 125,000 บาท, บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 500,000 บาท, บริษัท อีเกิลไทย จำกัด 500,000 บาท, บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด 1,000,000 บาท
นายธนา ชีรวินิจ 205,000 บาท, นายต่อตระกูล ยมนาค 1,500 บาท, นายพินิจ กาญจนชูศักดิ์ 2,000 บาท, นายจงสฤษดิ์ คุ้นวงศ์ 300,000 บาท และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ 130,000 บาท
เห็นตัวเลขผู้บริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงว่ายังมีความหวังเพราะบรรดานายทุนพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนพรรคอยู่ แต่หากจะเอาไปเปรียบเทียบกับพรรคคู่แข่งอย่างพรรคไทยรักไทยแล้ว คงจะเทียบกันยาก...
เพราะแค่ผู้บริจาครายเดียวนามคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แค่ขยับกระเป๋าก็มีเงินเข้าพรรคไทยรักไทยหลักร้อยล้านบาทแล้ว...