Sunday, 5 August 2007
“วิกฤติ” และ “โอกาส” ของป้ายโฆษณา
“วิกฤติ” และ “โอกาส” ของป้ายโฆษณา
กฤษณนัยย์ พิยารังสรรค์ในยามที่เศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศตกต่ำ ธุรกิจต่างๆ ก็จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน บ้างก็ไปเร็ว บ้างก็ไปช้าต่างกันไป
“โฆษณา” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่โดนแรงกระทบไปด้วย แต่ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจนว่าโฆษณาไป “ก่อน” หรือ “หลัง”
เพราะทุกครั้งที่ผมคุยกับเพื่อนในแวดวงต่างๆ เขาก็บอกว่า “ไม่มีเงินซื้อโฆษณา” แต่ว่าคุยกับเพื่อนที่อยู่ในวงการโฆษณาเขาก็บอกว่า “เศรษฐกิจจะตกยังไง สินค้ายังต้องขายของกันอยู่ดี” ไม่รู้ว่าเป็น “โฆษณาชวนเชื่อ” รึเปล่า
ฟังไปก็เหมือน “ไก่” กับ “ไข่” ตกลงแล้วอะไรเกิดก่อนกัน สรุปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี
แต่ที่แน่ๆ ที่ไหนมี “วิกฤติ” สิ่งที่ตามมาคือ “โอกาส”
ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง โปรดักชั่นเฮ้าส์ที่โด่งดังในยุคนั้น ก็คือ แม็ทชิ่งสตูดิโอ เป็นยุคที่ตี๋แมทชิ่ง ได้สยายปีกอย่างเต็มสตรีม โฆษณาทุนสูงที่เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ทั้งก็อตซิล่า เต่าเรียกแม่ ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมาจาก แม็ทชิ่งสตูดิโอ ทั้งนั้น
ตอนนั้น ตี๋ แมทชิ่ง เดินหน้าด้วยสัญชาตญาณของเขา ใช้ความคุ้นเคย ทั้ง ลด แลก แจก แถม อย่างเต็มที่และไม่เป็นระบบ ช่วงนั้นต้องเรียกว่า “บริการดี ตี๋จัดให้”
แต่พอฟองสบู่แตก ตี๋ก็กระเจิง เพราะว่าสิ่งที่แม็ทชิ่งทำไป ล้วนแล้วแต่กลับเป็นหอกทิ่มแทงตัวเอง ทำให้ชอกช้ำระกำหัวใจในตอนนี้
ตอนที่วิกฤติที่สุด “โอกาส” ดันมาตกอยู่ที่ “ฟิโนมิน่า” โปรดักชั่นเฮ้าส์น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ตัวจริงเสียงจริง เพราะมา “เงียบ” แต่ “แรง”
ฟิโนมิน่าฉายแนวคิดหนังโฆษณาแบบ “ฮา ชอตเดียว” ใช้ทุนต่ำ ขายแก๊ก ถ่ายทำชอตน้อยที่สุด เท่ากับใช้เงินทำโปรดักชั่นและซื้อสื่อ “น้อย” ที่สุดแต่ได้ประโยชน์ “มาก” ที่สุด ลูกค้าเลยติดฟิโนมิน่าอย่างงอมแงมและลืมพี่ตี๋ แมทชิ่งในที่สุด
ทีนี้เราลองมาดูสื่อโฆษณาอีกชนิดที่ลงทุนไม่มากนัก เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากและหลากหลาย เราจะใช้ประโยชน์อย่างไรกับสื่อชนิดนี้ได้มากที่สุด
สื่อที่ว่า คือ “ป้ายโฆษณา”
แม้ว่า “ป้ายโฆษณา” จะเป็นอริกับท่านสมัคร แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสื่อที่ดีอีกสื่อหนึ่ง เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะลองแนะนำการเลือกทำเลวางป้ายโฆษณาตามหลักฮวงจุ้ยดีไหมล่ะครับ
ป้ายโฆษณา ต้องวางไว้ทางสามแพร่ง โค้งถนน ทางขึ้นสะพาน
เหตุที่ต้องเลือกจุดนี้ก็เพราะว่าเป็นที่ที่มี “ชี่แรง” เพราะว่าป้ายโฆษณาเหมือนกับร้านค้า ต้องอาศัย “ชี่” เช่นเดียวกัน ยิ่งที่แรงเช่นที่มีอุบัติเหตุบ่อย รถติดมากๆ แสดงว่าที่ตรงนั้น “แรง” เลือกวางป้ายโฆษณาได้เลย
แต่ห้ามวางป้ายโฆษณาไว้ในทิศตะวันตก เพราะตั้งแต่ช่วงตั้งแต่เที่ยงวันถึงเย็น เป็นเวลาที่คนจะเห็นมากที่สุด แต่ถ้าวางทิศตะวันตกแสงแดดจะส่องมาข้างหลังป้าย ทำให้เกิดเป็น “เงา” มืด เห็นข้อความหรือภาพไม่เด่นชัด ป้ายโฆษณาของคุณจะเป็นเพียงที่ “บังแดด” ดีๆ เท่านั้นเอง
คาถาสำหรับป้ายโฆษณาตามหลักฮวงจุ้ยมีดังนี้ “ใหญ่ เด่น ชัด จัด สว่าง”
ใหญ่ คือ ขนาดของป้ายยิ่งใหญ่ยิ่งได้เปรียบ
เด่น คือ มีจุดเด่นในภาพไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรหรือภาพ
ชัด คือ ต้องคำนึงถึงการเห็นของคนสายตาปกติว่าเห็นชัดไหม ถ้าขับรถเร็วจะอ่านทันไหม
จัด คือ สีสันต้องจัดจ้าน ไม่มืดครึ้ม
สว่าง คือ ไม่ว่าจะวางจุดไหน ใช้แสงจากธรรมชาติ หรือแสงจากไฟ ต้องคำนึงถึงความสว่างให้มาก
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะเห็นป้ายโฆษณาร้างเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องตกใจนะครับ ที่ไหนมี “วิกฤติ” ที่นั่นย่อมมี “โอกาส”
กฤษณนัยย์ พิยารังสรรค์ในยามที่เศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศตกต่ำ ธุรกิจต่างๆ ก็จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน บ้างก็ไปเร็ว บ้างก็ไปช้าต่างกันไป
“โฆษณา” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่โดนแรงกระทบไปด้วย แต่ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจนว่าโฆษณาไป “ก่อน” หรือ “หลัง”
เพราะทุกครั้งที่ผมคุยกับเพื่อนในแวดวงต่างๆ เขาก็บอกว่า “ไม่มีเงินซื้อโฆษณา” แต่ว่าคุยกับเพื่อนที่อยู่ในวงการโฆษณาเขาก็บอกว่า “เศรษฐกิจจะตกยังไง สินค้ายังต้องขายของกันอยู่ดี” ไม่รู้ว่าเป็น “โฆษณาชวนเชื่อ” รึเปล่า
ฟังไปก็เหมือน “ไก่” กับ “ไข่” ตกลงแล้วอะไรเกิดก่อนกัน สรุปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี
แต่ที่แน่ๆ ที่ไหนมี “วิกฤติ” สิ่งที่ตามมาคือ “โอกาส”
ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง โปรดักชั่นเฮ้าส์ที่โด่งดังในยุคนั้น ก็คือ แม็ทชิ่งสตูดิโอ เป็นยุคที่ตี๋แมทชิ่ง ได้สยายปีกอย่างเต็มสตรีม โฆษณาทุนสูงที่เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ทั้งก็อตซิล่า เต่าเรียกแม่ ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมาจาก แม็ทชิ่งสตูดิโอ ทั้งนั้น
ตอนนั้น ตี๋ แมทชิ่ง เดินหน้าด้วยสัญชาตญาณของเขา ใช้ความคุ้นเคย ทั้ง ลด แลก แจก แถม อย่างเต็มที่และไม่เป็นระบบ ช่วงนั้นต้องเรียกว่า “บริการดี ตี๋จัดให้”
แต่พอฟองสบู่แตก ตี๋ก็กระเจิง เพราะว่าสิ่งที่แม็ทชิ่งทำไป ล้วนแล้วแต่กลับเป็นหอกทิ่มแทงตัวเอง ทำให้ชอกช้ำระกำหัวใจในตอนนี้
ตอนที่วิกฤติที่สุด “โอกาส” ดันมาตกอยู่ที่ “ฟิโนมิน่า” โปรดักชั่นเฮ้าส์น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ตัวจริงเสียงจริง เพราะมา “เงียบ” แต่ “แรง”
ฟิโนมิน่าฉายแนวคิดหนังโฆษณาแบบ “ฮา ชอตเดียว” ใช้ทุนต่ำ ขายแก๊ก ถ่ายทำชอตน้อยที่สุด เท่ากับใช้เงินทำโปรดักชั่นและซื้อสื่อ “น้อย” ที่สุดแต่ได้ประโยชน์ “มาก” ที่สุด ลูกค้าเลยติดฟิโนมิน่าอย่างงอมแงมและลืมพี่ตี๋ แมทชิ่งในที่สุด
ทีนี้เราลองมาดูสื่อโฆษณาอีกชนิดที่ลงทุนไม่มากนัก เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากและหลากหลาย เราจะใช้ประโยชน์อย่างไรกับสื่อชนิดนี้ได้มากที่สุด
สื่อที่ว่า คือ “ป้ายโฆษณา”
แม้ว่า “ป้ายโฆษณา” จะเป็นอริกับท่านสมัคร แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสื่อที่ดีอีกสื่อหนึ่ง เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะลองแนะนำการเลือกทำเลวางป้ายโฆษณาตามหลักฮวงจุ้ยดีไหมล่ะครับ
ป้ายโฆษณา ต้องวางไว้ทางสามแพร่ง โค้งถนน ทางขึ้นสะพาน
เหตุที่ต้องเลือกจุดนี้ก็เพราะว่าเป็นที่ที่มี “ชี่แรง” เพราะว่าป้ายโฆษณาเหมือนกับร้านค้า ต้องอาศัย “ชี่” เช่นเดียวกัน ยิ่งที่แรงเช่นที่มีอุบัติเหตุบ่อย รถติดมากๆ แสดงว่าที่ตรงนั้น “แรง” เลือกวางป้ายโฆษณาได้เลย
แต่ห้ามวางป้ายโฆษณาไว้ในทิศตะวันตก เพราะตั้งแต่ช่วงตั้งแต่เที่ยงวันถึงเย็น เป็นเวลาที่คนจะเห็นมากที่สุด แต่ถ้าวางทิศตะวันตกแสงแดดจะส่องมาข้างหลังป้าย ทำให้เกิดเป็น “เงา” มืด เห็นข้อความหรือภาพไม่เด่นชัด ป้ายโฆษณาของคุณจะเป็นเพียงที่ “บังแดด” ดีๆ เท่านั้นเอง
คาถาสำหรับป้ายโฆษณาตามหลักฮวงจุ้ยมีดังนี้ “ใหญ่ เด่น ชัด จัด สว่าง”
ใหญ่ คือ ขนาดของป้ายยิ่งใหญ่ยิ่งได้เปรียบ
เด่น คือ มีจุดเด่นในภาพไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรหรือภาพ
ชัด คือ ต้องคำนึงถึงการเห็นของคนสายตาปกติว่าเห็นชัดไหม ถ้าขับรถเร็วจะอ่านทันไหม
จัด คือ สีสันต้องจัดจ้าน ไม่มืดครึ้ม
สว่าง คือ ไม่ว่าจะวางจุดไหน ใช้แสงจากธรรมชาติ หรือแสงจากไฟ ต้องคำนึงถึงความสว่างให้มาก
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะเห็นป้ายโฆษณาร้างเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องตกใจนะครับ ที่ไหนมี “วิกฤติ” ที่นั่นย่อมมี “โอกาส”