Sunday, 5 August 2007

ความสุขจากงานโฆษณา (ที่ไม่ใช่รางวัล)

ความสุขจากงานโฆษณา (ที่ไม่ใช่รางวัล)
ถ้าคุณอยาก...ผมช่วยคุณได้ ประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ผมพบความสุขกับรางวัลที่ไม่ต้องขึ้นเวที เป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่มีคนโฆษณาคนไหนไม่อยากได้รางวัล ผมเชื่ออย่างนั้น โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ยังเข้าใจว่า รางวัลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างอนาคต จนทุ่มกำลังเซลสมองทั้งหมดเพื่อรางวั๊ลรางวัลอ่ะ ขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวจะเหลยให้ฟังตอนท้าย ผมเคยหลงรักไอเดีย copy ad ของผมชิ้นหนึ่ง ผมชอบมัน ผมอยากส่งมัน มันทำง่าย แล้วผมก็เชื่อว่า มันน่าจะได้รางวัล ผมจึงลงมือทำมัน แล้วผมก็เดินทางไปหาลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่ได้ brief หรือสั่งมา นั่นแหล่ะครับ ... มันก็ scam ดีๆ นี่เอง แต่พอผมได้เสนอ layout กับลูกค้า ท่าทีของพวกเขา ทำให้ผมประหลาดใจ ผมมีความสุขตั้งแต่ยังขายงานไม่ผ่าน จำได้ว่า หลังจากผมฝากงานไว้ที่ออฟฟิศบนชั้น 4 ของตึกแถวย่านคลองเตย ไม่กี่วันต่อมา ก่อนที่ผมจะรับคำอนุมัติ เพราะต้องให้คณะกรรมการพิจารณาก่อน คุณผู้หญิงวัยสูงกว่าที่อยู่ทางอีกฝั่ง ของสายโทรศัพท์บอกกับผมว่า “ขอบคุณมากค่ะ ดีใจมาก เพราะยอมรับว่าไม่ค่อยไม่ใครสนใจที่จะช่วยเราเลย...”ลืมบอกไป ลูกค้าผมรายนี้คือ องค์กรช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในภาวะเครียด อยากฆ่าตัวตาย สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย The Samaritans Thailand ครับ ทั้งๆ ที่ยังขายงานไม่ผ่าน แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นอย่างประหลาดที่กลางอก เหมือนได้ก้าวข้ามประตูมิติแห่งกิเลสความอยากสู่บ้านของผู้คนที่ทำอะไรไป...ไม่ใช่เพื่อตัวเอง เสียสละเพื่อคนอื่น ทำงานที่ไม่มีใครฝันอยากทำ
แต่เป็นงานที่ต้องทำ เพราะถ้าไม่มีพวกเขาทุกปี จะมีคนจบชีวิตตัวเองอีกเป็นร้อยเป็นพัน เพราะไม่มีใครสักคนรับฟัง...ความทุกข์...ของพวกเขา
หลังจากจบการสนทนากับท่านผู้อำนวยการ ผมเริ่มรู้สึกว่า “แล้วผม...เป็นตัวกันอะไรเนี่ย”
สาบานได้ว่าในความอยากช่วยเหลือผ่านการนำเสนอการทำ ad ฟรีของผมมันเจือด้วยเป้าหมายแห่งความอยากพิชิตรางวัลแต่...ผมไม่กล้า...ไม่กล้าบอกท่านผอ.ว่าผมคิดอย่างนั้นเพราะมันไม่คู่ควรกับภาระกิจที่มีค่าของพวกเขาเลย
ในที่สุด มันก็ขายผ่าน และได้ถูกผลิตขึ้นมาจะด้วยความรับผิดชอบหรือปมแห่งความรู้สึกผิดหรืออะไรก็มิทราบ ผมลงมือทำทุกอย่างเพื่อให้งานของผมส่งสารไปยังประชาชนมากที่สุดมากกว่าแค่โต๊ะพิจารณาของกรรมการงานประกวด ผมรู้อย่างเดียว...ผมต้องทำ
ผมติดต่อ a day เพื่อของลงฟรีซึ่งพี่โหน่ง บก.ก็เมตตาอนุเคราะห์ผมตัดสินใจพิมพ์โปสเตอร์ (จำไม่ได้ว่า 1 พันหรือ 2 พันแผ่น)เพื่อมอบให้สะมาริตันส์ไว้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ส่วนตัวผมเองกับน้องเต้ยที่ช่วยกันทำงานชิ้นนี้ก็แบ่งกันไปคนละร้อยสองร้อยแผ่น เพื่อเดินเท้า...แปะเอง
กลางดึกคืนหนึ่ง ณ สยามแสควร์คุณจะเห็นชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าคนหนึ่งเดินอยู่บริเวณนั้นเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเพื่อติดโปสเตอร์สีดำที่มีตัวอักษรสีแดงเขียนว่า
ถ้าคุณอยากตายเราช่วยคุณได้ สมาคมสะมาริตันส์ สายด่วนช่วยชีวิต โทร.
ท้ายที่สุด งานชิ้นนี้ ก็คว้ารางวัลมาได้พอสมควรแต่รางวัลที่ผมภูมิใจที่สุด คือ กระดาษใบนี้ครับ
....
นี่คือใบประกาศรางวัลที่ผมรักที่สุดซึ่งผมยังเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานเสมอหากมีโอกาสได้พบกับน้องๆ หน้าใหม่ในวงการผมก็มักจะนำการ์ดกระดาษใบนี้ขึ้นมายื่นให้เขาอ่าน...พร้อมบอกเล่าความเป็นมาของมัน
รางวัล...สำคัญต่อชีวิต...จริงๆ หรือ ?ใช่ รางวัลยังเป็นสิ่งสำคัญแต่ที่สำคัญกว่า มันขึ้นอยู่กับว่าใจของเราจะเลือกมองและยอมรับ...อะไรหรือสิ่งใด...คือรางวัลอันทรงคุณค่าที่แท้จริง
เอาเข้าจริงๆ จะบอกว่านี่ไม่ใช่รางวัลก็คงไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นหากจะไม่เรียกว่ารางวัลก็คงจะใจร้ายเกินไปแม้อาจเป็นรางวัลที่ไม่มีเวทีใดในโลกจัดไม่ว่าเพราะไม่มีใครเห็นค่าหรือยากแก่การตัดสิน
แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ มันเป็นรางวัลที่ไม่เหมือนใครในโลกเมื่อถึงวันที่คุณได้รับรางวัลแบบนี้กับตัวเองเมื่อไหร่แล้วคุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมเขียนแม้เจ้านายจะไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้แถม ranking ก็ยังอยู่อันดับพันกว่าเหมือนเดิมแต่สำหรับผม มันช่างเป็นรางวัลที่ยากจะลืม...จริงๆ
SCAM WHY ? WHY SCAM ?หวังว่าคงได้พบคำตอบของคำถามบ้างนะครับสุดท้ายนี้ ยังขอยืนยันว่า...รักคนอ่านทุกคน(จ๊ะ)