“เคทีซี มือดี มีคนเห็น”

เคทีซี” ในฐานะผู้จัดการประกวดสปอตทีวี-วิทยุ ภายใต้โครงการ “เคทีซี มือดี มีคนเห็น” ร่วมกับแฟต เรดิโอ ปลื้มกระแสตอบรับเยี่ยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าประกวดเกือบ 200 ชิ้น จากฝีมือของนิสิต-นักศึกษาหลากหลายสาขาวิชากว่า 300 ทีมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ยืนยันเจตนารมย์กล้านำผลงานความคิดที่สดใหม่ของเยาวชนไปใช้จริง เพื่อโปรโมทแคมเปญการตลาดมูลค่าถึง 500 ล้านบาท “ช้อปแล้ว แลกเลย” ฉีกกฎใช้ ฉีกกฎแลกคะแนนสะสม หวังให้เด็กไทยได้พิสูจน์ฝีมือให้ประจักษ์แก่สายตาคนทั้งประเทศ โดยจะออกอากาศทางทีวีและวิทยุตลอดเดือนสิงหาคมนี้ เล็งเดินหน้าจัดโครงการเพื่อเยาวชนต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สำหรับผลงานชนะเลิศการประกวดโฆษณาทีวี ได้แก่ ‘หลุดยุค’ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ส่วนผลงานชนะเลิศการประกวดโฆษณาทางวิทยุได้แก่ ‘หงัก’ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการ “เคทีซี มือดี มีคนเห็น” จัดขึ้นในปีนี้เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการเยาวชนที่เคทีซีได้มุ่งให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ทั้งโครงการที่เคทีซีริเริ่มขึ้นเองและทำต่อเนื่องมากว่า 4 ปีแล้ว อย่างโครงการ Learn & Earn @ KTC ที่เปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ระดับปวช.ขึ้นไปเข้ามาร่วมทำงานกับเคทีซีหลังเวลาว่างจากการเรียน หรือการช่วยเหลือสนับสนุนองค์กรทางสังคมต่างๆ ในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับเยาวชน สำหรับโครงการ “เคทีซี มือดี มีคนเห็น” ซึ่งเป็นการประกวดงานโฆษณาทางทีวีและวิทยุ มีความพิเศษต่างจากการประกวดทั่วไป ตรงที่เคทีซีต้องการเปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ค้นหาความสามารถทางด้านความคิดสร้างสรรค์ และพิสูจน์ฝีมือในการทำงานโฆษณากันอย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือ เคทีซีเป็นเวทีแรกและเวทีเดียวในขณะนี้ ที่กล้านำผลงานของน้องๆ มาใช้โปรโมทแคมเปญการตลาด “ช้อปแล้ว แลกเลย” ฉีกกฎใช้ ฉีกกฎแลกคะแนนสะสม ที่มีมูลค่าถึง 500 ล้านบาทอีกด้วย” “สำหรับโครงการ “เคทีซี มือดี มีคนเห็น” ถือว่าได้ผลตอบรับที่น่าพอใจ มีผลงานโฆษณาทีวีและวิทยุส่งเข้ามาประกวดเกือบ 200 ชิ้น แบ่งเป็นโฆษณาทีวี 93 ชิ้น และโฆษณาวิทยุ 88 ชิ้น ซึ่งเป็นฝีมือของนิสิต นักศึกษาหลายสาขาวิชาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศถึงกว่า 300 คน หรือเกือบ 100 ทีม อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งต้องยอมรับว่าเยาวชนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติอื่น มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าแสดงออก และมีทักษะในการสื่อสารที่ดี เพียงแต่ขาดโอกาสและช่องทางในการนำเสนอความสามารถตนเองออกมาให้คนทั่วไปได้รับรู้” “ผลงานโฆษณาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ พิจารณาตัดสินจากความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก โดยไม่จำกัดเทคนิคและวิธีการ แต่สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจนให้ผู้ชมหรือผู้บริโภคได้รับรู้ถึงแนวคิดใหม่ของคะแนนสะสมเคทีซีที่มีมูลค่ามากกว่า และสร้างทัศนคติใหม่ของการแลกคะแนนสะสมในแบบฉบับของเคทีซี ซึ่งแลกได้เร็วกว่า ดีกว่า และเลือกได้เองโดยไม่ต้องมีแคตตาล็อก โดยมีคณะกรรมการตัดสินจากผู้ทรงคุณวุฒิในวงการสื่อทั้งโฆษณา ทีวี วิทยุ และทีมผู้กำกับภาพยนตร์ร่วมกันตัดสิน อาทิ ยุทธนา บุญอ้อม พงศ์ไพบูลย์ สิทธิคู ครีเอทีฟจากคอนแทร็คท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง และผู้กำกับภาพยนตร์ไทยกลุ่ม 365 ฟิล์ม ได้แก่ คมกฤษ ตรีวิมล วิทยา ทองอยู่ยง นิธิวัฒน์ ธาราธร และทรงยศ สุขมากอนันต์” “สำหรับทีมชนะเลิศประเภทโฆษณาทางทีวี ได้แก่ “หลุดยุค” จากทีมไข่หิน มหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ ประสานมิตร ได้รับทุนการศึกษา 1 แสนบาท เกียรติบัตรและโล่เกียรติคุณ รองชนะเลิศ 2 รางวัลๆละ 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่เกียรติคุณ ได้แก่ “สมุดสติ๊กเกอร์” จากทีมชิง ชิง ชิลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ “แลก” จากทีม Depth of feel feat. Salmon มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆละ 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ “เลข 99” จากทีมบ้านเต้ย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ “จิ๊กซอว์” จากทีมลาซ่า จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนทีมชนะเลิศประเภทโฆษณาทางวิทยุ ได้แก่ “หงัก” จากทีมดอก มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับทุนการศึกษา 50,000 บาท เกียรติบัตรและโล่เกียรติคุณ รองชนะเลิศ 2 รางวัล ๆ ละ 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่เกียรติคุณ ได้แก่ “ข้ามแบรนด์” จากทีม Smoothly-Head มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ “พูดจนเหนื่อย” จากทีม Adapter มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆละ 10,000 บาท พร้อม เกียรติบัตร ได้แก่ “พ่อตาใจง่าย” จากทีม Faithidea 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และ “ประท้วง” จากทีม Lucky Man จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ทีมชนะเลิศทั้งสองประเภทยังจะได้เดินทางไปร่วมงาน “แอด เอเชีย 2007 เชจู" (Adasia 2007 Jeju) ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2550 โดยเคทีซีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับพร้อมที่พัก 4 คืน 5 วัน รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท” “รางวัลที่สำคัญและยิ่งใหญ่อีกหนึ่งรางวัลที่เคทีซีตั้งใจมอบให้คือ ผลงานโฆษณาทั้งทีวีและวิทยุที่ผ่านการคัดเลือกติดอันดับ 5 รางวัลแรก จะถูกนำไปขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อ โดยจะออกอากาศเผยแพร่ทางสถานีวิทยุและทีวีทุกช่องตลอดเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อโปรโมทแคมเปญการตลาดเคทีซีที่ยิ่งใหญ่สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง “ช้อปแล้ว แลกเลย” ซึ่งเรามั่นใจว่า การที่ผลงานของเยาวชนกลุ่มนี้ได้รับคัดเลือกให้นำไปใช้จริงในธุรกิจ จะทำให้นิสิต-นักศึกษาเกิดความภาคภูมิใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น และเสริมสร้างกำลังใจให้พวกเขาเติบโตและกล้าที่จะเผชิญกับโลกการทำงานจริง อีกทั้งยังเป็นก้าวแรกในการที่จะช่วยพัฒนาวงการโฆษณาเมืองไทยให้มีศักยภาพและแข่งขันกับนานาประเทศได้อีกด้วย สำหรับผลงานทั้งหมดที่ส่งเข้ามาประกวดในโครงการ “เคทีซี มือดี มีคนเห็น” ทางเคทีซีขอขอบคุณที่นักศึกษาได้สละเวลามาร่วมกันคิดสร้างสรรค์งานเสมือนเราอยู่ในองค์กรเดียวกัน และหวังว่าจะสร้างสรรค์ผลงานที่ดีเข้ามาประกวดอีกในปีต่อ ๆ ไป” “เคทีซีจะยังคงมุ่งเน้นการทำโครงการเพื่อเยาวชนต่อไปอย่างจริงจังในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะโครงการ “เคทีซี มือดี มีคนเห็น” โดยจะพัฒนารูปแบบให้เหมาะสมกับเยาวชนในหลากหลายกลุ่ม และหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งกลุ่มเยาวชนและผู้บริโภค เพราะนอกจากจะได้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียแปลกใหม่ในการผลิตสื่อให้ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคแล้ว ยังได้มุมมองความต้องการในส่วนของผู้บริโภคแลกเปลี่ยนกลับมาอีกด้วย โดยเฉพาะการสร้างความคุ้นเคยกับแบรนด์เคทีซีในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นได้อีกทางหนึ่ง” นายนิวัตต์กล่าวสรุป