'เอสเอฟ' คว้ารางวัล 'โรงภาพยนตร์ดีเด่น'

'เอสเอฟ' คว้ารางวัล 'โรงภาพยนตร์ดีเด่น' "โรงภาพยนตร์ชาติไหน ก็ไม่ดีเท่าโรงหนังเมืองไทย" คำยืนยันของ บ๊อบ ซันไชน์ ประธานจัดงานประชุมใหญ่ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมภาพยนตร์นานาชาติ 2548 หรือ ShoWest 2005 การันตีให้โรงหนังในเครือเอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่ว กทม. รับคำชมนี้ไปเต็มๆ และเป็นที่มาให้ เอสเอฟ (SF) คว้ารางวัลผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ ดีเด่นด้านการตลาด ชนะคู่แข่งโรงหนังทั่วโลกอย่างเหลือเชื่อ เหตุนี้โรงหนังในเครือ เอสเอฟ จึงชวนไทยรัฐไปเป็น สักขีพยานในการรับมอบรางวัล ไกลถึงเมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา คงอยากทราบเหตุผลล่ะสิว่าทำไม คุณสุวัฒน์ OSK99-4=95 และ คุณสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ผู้บริหารเอสเอฟ จึงไปคว้ารางวัลซึ่งเป็นครั้งแรกที่โรงหนังเมืองไทยได้รับเกียรติถึงปานนี้ โถ! ก็ดูพัฒนาการของโรงหนังเครือเอสเอฟโตเร็วมาก 6 ปีที่ผ่านมา นอกจากได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติแล้ว จากเคยมีส่วนแบ่งรายได้โรงหนังเพียง 3-5% ปัจจุบันมีถึง 30% จุดแข็งของโรงหนังเอสเอฟ ยังอยู่ที่การสร้างความพอใจให้ผู้ชม ด้วยการแจกแผ่นแม่เหล็กติดตู้เย็นแถมให้ทุกที่นั่ง กลายเป็นของสะสมอินเทรนด์ที่ฮิตระเบิด และงานนี้ยังมีการมอบรางวัลอื่นๆด้วย เช่น เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ได้รางวัลดาราหญิงแห่งปี ขณะที่ แมทท์ เดมอน ได้รางวัลดาราชาย ด้าน ร็อบ โคเฮน ได้รางวัลผู้กำกับแห่งปี. _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Wed Apr 06, 2005 6:34 am ชื่อกระทู้: เอสเอฟ-อีจีวี ปรับโพซิชันนิ่ง รับมือโรงหนัง "ดาวน์ทาวน์

ประชาชาติธุรกิจรายงาน วันที่ 04 เมษายน 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 3676 (2876) หน้า 21 เอสเอฟ-อีจีวี ปรับโพซิชันนิ่ง รับมือโรงหนัง "ดาวน์ทาวน์" ทะลัก ! http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat.php?show=1&selectid=02mar03040448§ionid=0207&select_date=2005/04/04 แต่ไหนแต่ไรมาทำเลในย่านใจกลางเมืองบริเวณสี่แยกราชประสงค์ หรือที่คนทั่วไปมักเรียกติดปากว่า "ดาวน์ทาวน์" นั้นถือเป็นทำเลเงินทำเลทอง และนับวันจะยิ่งเป็นเงินเป็นทองและมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการศูนย์การค้า เอ็นเตอร์เทน เมนต์ ฯลฯ ต่างก็ยังจับจองพื้นที่กันเป็นว่าเล่น และเชื่อว่าหลังจาก "สยามพารากอน-เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา" 2 โครงการยักษ์เปิดให้บริการยิ่งจะทำให้การแข่งขันของภาคธุรกิจในย่านนี้ทวีองศาเดือดอีกหลายเท่าตัวแน่ โดยเฉพาะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะแค่โรงหนังที่มีอยู่ ณ ขณะนี้ก็ปาเข้าไปร่วม 50 โรง อาทิ เอสเอฟ มาบุญครอง 8 โรง แกรนด์ อีจีวี สยามดิสคัฟเวอรี่ 7 โรง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา 6 โรง อีจีวี บิ๊กซี ราชดำริ 10 โรง เอสเอฟ ดิ เอ็มโพเรียม 7 โรง รวมทั้งโรงหนัง เอเพ็กซ์ สยาม สกาล่าเจ้าดั้งเดิมอีกจำนวนหนึ่ง นี่ยังไม่รวมกับโรงหนังที่กำลังจะเกิดใหม่อีกเกือบ 40 โรงที่โครงการสยามพารากอน ศูนย์การค้าหรูเลิศอลังการที่มีแผนจะเปิดโรงหนังค่าย "เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์" ประมาณ 15 โรง และโครงการเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา ที่มีแผนจะเปิดโรงหนังค่ายเอสเอฟอีกประมาณ 18-20 โรง รวมคร่าวๆ แล้วในย่านนี้จะมีโรงหนังเปิดให้บริการร่วม 100 โรงเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้ประกอบการโรงหนังต่างต้องหาแนวทางในการบริหารจัดการตัวเอง ด้วยการจัดวางโพซิชันนิ่งโรงหนังในเครือให้มีความชัดเจนและสอดรับกับกลุ่มเป้าหมายกันระลอกใหญ่ "สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ OSK99-4=95" ประธานกรรมการ บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ซีเนม่า ได้พูดถึงการจัดวางโพซิชันนิ่งโรงหนังในเครือในย่านดาวน์ทาวน์ที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว 2 โครงการ คือ ศูนย์การค้ามาบุญครอง และดิ เอ็มโพเรียม และกำลังจะเปิดใหม่ที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา ว่า แต่ละค่ายก็จะจับตลาดคนละกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว และในส่วนของ "เอสเอฟ" เองก็ได้วางโพซิชันนิ่งของโรงที่แตกต่างกัน เอสเอฟ มาบุญครองจะเน้นจับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา เอสเอฟ ดิเอ็มโพเรียม จะเน้นลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์และนักท่องเที่ยว ส่วนเอสเอฟ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา เน้นจับกลุ่มคนทำงาน และนักท่องเที่ยวบางส่วน เทียบกับโรงหนังของค่ายเมเจอร์ ที่สยามพารากอน เอสเอฟ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา จะออกแนวเทรนดี้กว่า เป็นไปตามสไตล์ของศูนย์การค้า และเมื่อถามว่า โรงหนังในย่านดาวน์ทาวน์ โอเวอร์ซัพพลายหรือไม่ "สุวัฒน์" บอกว่า ไม่ได้มองว่า โอเวอร์ซัพพลาย เพราะทำเลนี้เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว แถมยังจะดีขึ้นในแง่ของความสะดวกในการเดินทาง "การแข่งขันเราเลี่ยงไม่ได้ แต่เราพยายามเลือกศูนย์ที่มีศักยภาพ ส่วนใครจะอยู่หรือใครจะไปผมว่ามันขึ้นอยู่กับโพลิซีของคนทำงาน" สุวัฒน์ย้ำ ไม่เพียงแค่นี้ ล่าสุด "เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์" ยังได้เตรียมการบริหารโครงการในเครือข่ายของตัวเอง ซึ่งรวมถึงโรงหนังในเครือข่ายของ "อีจีวี" ด้วย โดยประเดิมด้วยการปรับเอาโรงละครบางกอก เธียเตอร์ มาไว้ในโครงการของอีจีวี สาขาราชดำริเพื่อสร้างจุดขายใหม่ "ชาญศักดิ์ ศิริวัฒนชาติ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด บอกว่า แนวทางการปรับตัวดังกล่าวนั้นเป็นการตอบโจทย์นโยบายที่ว่า "More than a cinema" คือมีบันเทิงที่หลากหลายรูปแบบนั่นเอง ประกอบกับอีจีวี ราชดำริ ตั้งอยู่ในทำเลที่มีการแข่งขันสูง การปรับเอาโรงละครเข้ามาจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ทางหนึ่ง ที่สำคัญกลุ่มที่มาบริหารโรงละคร Bangkok Theatre @ Metropolis นั้นเป็นกลุ่มของ "ดารกา วงศ์ศิริ" ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงละครกรุงเทพ "เรามั่นใจแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคจะหันมาทางละครเวทีและโชว์บิสซิเนสเพิ่มมากขึ้น และเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นเทรนด์ใหม่ของไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ" และไม่เพียงแค่ "ละครเวที" เท่านั้น แต่โรงละครแห่งนี้จะยังสามารถรองรับธุรกิจโชว์ คอนเสิร์ต ฯลฯ ที่จะเข้ามาเช่าสถานที่จัดการแสดงได้อีกทางหนึ่งด้วย เป็นการทำโรงหนังให้เป็นเอ็นเตอร์เทน เมนต์คอมเพล็กซ์ที่ไม่เพียงแค่ "หนัง" เท่านั้น พร้อมจัดวางโพซิชันนิ่งใหม่ในแต่ละจุดให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Sat Apr 09, 2005 12:04 am ชื่อกระทู้: เมเจอร์ฯ-เอสเอฟคุมเข้มโรงหนังหลังบึ้มสงขลา

(กรอบบ่าย) - ข่าวสด หน้า 9< - วันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2548 ปีที่ 14 ฉบับที่ 5244 เมเจอร์ฯ-เอสเอฟคุมเข้มโรงหนังหลังบึ้มสงขลา นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ OSK99-4=95 กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการศูนย์การค้าที่บริษัทได้เข้าไปเปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คสัญญาณความถี่ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถ ส่วนสาขาที่ จ.ภูเก็ต ได้มีการวางระบบความปลอดภัยเช่นเดียวกับกรุงเทพฯ ด้านนายอนวัช องค์วาสิฎฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 จุด ที่ จ.สงขลา ทำให้ภาครัฐเข้ามาให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยในแหล่งชุมชนมากขึ้น ในส่วนของบริษัทได้มีการพูดคุยกับภาครัฐในเรื่องของการวางระบบการรักษาความปลอดภัยภายหลังจากเกิดเหตุ เนื่องจากโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์มีประชาชนเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ดังนั้นบริษัทจึงได้มีการเพิ่มมาตรการการระวังภัยด้วยการติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม พร้อมกับขอความร่วมมือพนักงานช่วยกันสอดส่องดูแลความผิดปกติภายในโรงภาพยนตร์ _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Wed Nov 09, 2005 6:22 am ชื่อกระทู้:

โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ OSK114 Pakpoom Wongphoom ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” การศึกษา สวนกุหลาบฯ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต สาขาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ผลงาน ภาพยนตร์สั้นวิทยานิพนธ์เรื่อง “หลวงตา” ได้รับรางวัลช้างเผือก ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยมประเภทนักศึกษา จากงานเทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ 4 ประจำปี 2543 และในปีเดียวกันก็ได้รับรางวัลภาพยนตร์สั้น และผู้กำกับยอดเยี่ยม จากงาน Bangkok Film Festival ครั้งที่ 3 หลังจากจบการศึกษา ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาบริษัทฟิโนมีนา จำกัด ก่อนมีผลงานกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรก “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” ซึ่งประสบความสำเร็จทางด้านรายได้มากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา ................................................................................................................ คงเดช จาตุรันรัศมี OSK108 Khongdej Jaturanratsamee ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สยิว” , “เฉิ่ม” การศึกษา สวนกุหลาบฯ สถาบันเทคโนฯพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อดีต สมาชิกวงสี่เต่าเธอ ผลงาน หลากหลายรูปแบบทั้งมิวสิกวิดีโอ หนังสั้น งานก๊อปปี้ไรท์เตอร์ อ่านสปอตโฆษณา ทำเพลงโฆษณา เพลงประกอบภาพยนตร์ เริ่มต้นทำภาพยนตร์เรื่องแรกโดยเป็นผู้กำกับฯ เรื่อง “สยิว” ร่วมกับเกียรติ ศงสนันทน์ หลังจากนั้นเขียนบทภาพยนตร์ให้กับ “The Letter” ก่อนที่จะมีผลงานกำกับฯ เรื่อง “เฉิ่ม” ที่มา: http://www.nokialifeisamovie.com/moviegallery.htm http://www.thaifilmdb.com/th/pp00009 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย songwut110 เมื่อ Mon Jul 31, 2006 10:22 pm,


songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Tue May 09, 2006 11:18 pm ชื่อกระทู้:

บทของเรื่อง"เพื่อนสนิท"เขียนโดย ปริเยศ คุ้มฉายา OSK110 ครับ .................................................................... พี่คมภิญญ์ เข็มกำเนิด OSK102 (บุตรชาย อ.บุญเลิศ [ในภาพเล็ก] ครูเก่าผู้เคยสอนพระพุทธศาสนาที่สวนกุหลาบฯ) ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่อง "ก้านกล้วย" ( http://www.khankluay-themovie.com/ ) .. http://www.osknetwork.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3019#19543 ข่าวสด วันที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5640 หน้า 19 อุปสรรค"ก้านกล้วย"รวมพลคนทำ "ทีมงานในเรื่องจะประกอบด้วยหลายฝ่ายครับ" คมภิญญ์ เข็มกำเนิด ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่อง "ก้านกล้วย" เกริ่น จากนั้นก็อรรถาธิบายว่า "เริ่มตั้งแต่การเขียนสคริปต์แตกเป็นสตอรี่บอร์ด พากย์เสียงและตัดต่อโดยที่ยังเป็นภาพนิ่ง ส่งต่อให้ฝ่ายศิลป์ออกแบบคาแร็กเตอร์ ออกแบบแบ๊คกราวน์ของอยุธยาหรือหงสาวดี จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของทีมแอนิเมเตอร์ที่ทำให้ตัวละครมีชีวิตและเพิ่มเติมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ตัวผมทำหน้าที่ดูภาพรวมของหนัง แต่จะเน้นไปที่ตัวบทและสตอรี่บอร์ด เพราะถือเป็นจุดแรกที่สำคัญ ใช้เวลากว่า 3 ปีกว่าจะเป็นก้านกล้วย ถ้าถามว่าความยากหรืออุปสรรคอยู่ที่ไหน ผมว่าอยู่ที่การรวมคนนะ เพราะเป็นครั้งแรกของทุกคน อย่างตัวผมแม้เคยทำงานแอนิเมชั่นที่ต่างประเทศมาก่อน แต่เราเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเราเต็มๆ กับทีมงานส่วนใหญ่ก็ยังใหม่ไม่มีประสบการณ์ แต่เมื่อถึงวันนี้ก็พอใจครับ ออกมาได้สมจินตนาการของทุกคน" Web Site: http://www.khankluay-themovie.com/ ก้านกล้วย " (Khan Kluay) ผลิต/จัดจำหน่ายโดย : กันตนา แอนนิเมชั่น, ฉายครั้งแรกปี :2549 เรื่องย่อ : วีรบุรุษผู้มี 4 ขา 2 งา และ 1 งวง ช้างศึกผู้สร้างเกียรติประวัติสูงสุดให้แก่ช้างไทย ในฐานะช้างคู่พระบารมีแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งสงครามยุทธหัตถี ชื่อของเขาคือ “เจ้าพระยาปราบหงสาวดี” หรืออีกนามหนึ่งว่า... “ก้านกล้วย” นี่คือเรื่องราวการเติบโตของช้างเชือกหนึ่ง จากลูกช้างซุกซน ใช้ชีวิตอิสระอยู่ท่ามกลาง ป่าลึก แต่แล้ว...ด้วยความอยากรู้เรื่องของพ่อที่หายไปได้นำเขาออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ผ่านหลากหลายเหตุการณ์ซึ่งให้บทเรียนใหม่ๆ เปลี่ยนให้เขากลายเป็นช้างที่กล้าแกร่ง เต็มไปด้วยพละ กำลัง ในขณะที่จิตใจกลับอ่อนโยน บรรดาตัวละครต่างๆที่เขาได้พบระหว่างการเดินทาง อาทิเช่น จิ๊ดริด - นกพิราบสื่อสารขี้โม้, ชบาแก้ว ช้างสาวผู้น่ารักและแสนงอน, ติ่งรูและรถถังช้างรุ่นพี่และรุ่นอาซึ่งเขาได้พบในหมู่บ้าน, บุญเรือง - ช้างศึกแห่งเมืองหลวงและที่สำคัญ แสงดา - แม่ซึ่งก้านกล้วยจากมา ล้วนเป็นส่วนที่เข้ามาเติมเต็มสร้างสีสันและความสนุกสนาน พร้อมกันนั้นก็ให้บทเรียนต่างๆ ซึ่งเป็นเสมือนการเตรียมความพร้อม ให้เขาก้าวสู่การเป็นช้างศึกเชือกสำคัญในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์และการได้พบกับผู้คนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระนเรศวร มหาราชผู้เกรียงไกรของชาติไทย, ลุงมะหูด - หัวหน้าครูฝึกช้าง, มังคุด - เด็กมนุษย์ตัวน้อยผู้บริสุทธิ์สดใส และ ฯลฯ ยังทำให้ก้านกล้วยได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพระหว่างคนและช้าง อันนำไปสู่การเสียสละตัวเอง โดยเดินหน้าเข้าสู่สงครามอย่างนักรบผู้กล้า เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาเคยทำมาเมื่อครั้งอดีตสุดท้าย ขณะอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ และต้องเผชิญหน้ากับศัตรูผู้น่าเกรงขามเขาก็ได้รับบทเรียนครั้งสำคัญที่สุด นั่นก็คือการเอาชนะความกลัวในจิตใจตัวเอง เมื่อมีชัยเหนือตัวเองก็ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้เขาพรั่นพรึงได้อีกต่อไป และจุดนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็นช้างผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แม้จุดหมายแรกคือการตามหาพ่อแต่ในที่สุดก้านกล้วยกลับได้พบสิ่งที่มีความหมายยิ่งกว่า นั่นก็คือมิตรภาพ ความกล้าหาญและความเสียสละ ซึ่งอยู่ในตัวเขาเอง เป็นจิตวิญญาณ ของพ่อที่อยู่ กับเขามายาวนาน และนี่คือบทสรุปที่ล้ำค่ายิ่ง สำหรับการเดินทางของเขาในครั้งนี้ ที่มาบางส่วน: http://www.thaicinemix.com/movies/ThaiMovie.asp?movie_id=362 http://www.khankluay-themovie.com/ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย songwut110 เมื่อ Wed Jan 17, 2007 10:10 am,

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Wed May 10, 2006 12:42 am ชื่อกระทู้:

กำหนดการเข้าฉาย 18 พฤษภาคม 2549 รูปแบบ ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น 3 มิติ แนวภาพยนตร์ ดราม่า – คอเมดี้ จัดจำหน่ายโดย บริษัทสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด บริษัทดำเนินงานสร้าง บริษัท กันตนาแอนนิเมชั่น จำกัด กำกับภาพยนตร์ คมภิญญ์ เข็มกำเนิด OSK102 -- ฝีมือของและประสบการณ์ของ พี่คมภิญญ์ นั้นไม่ต้องห่วงเพราะเคยทำงานกับวอล์ทดีสนีย์ และ บลูสกาย สตูดิโอ มาแล้ว อาทิ ทาร์ซาน (Tarzan), ไอซ์เอจ (Ice Age) หรือ แอตแลนติส (Atlantis) บทภาพยนตร์ คมภิญญ์ เข็มกำเนิด OSK102 และ จรูญพร ปรปักษ์ประลัย ดนตรีประกอบ ชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์ ควบคุมงานสร้างแอนิเมชั่น ศิริพร เมฆอโนทัย และ ชญานิน เลี่ยวไพโรจน์ กำกับศิลป์ ทวีลาภ ศรีวุฒิวงศ์ More Info: http://www.deknang.com/index.php?option=content&task=view&id=360&Itemid=2 http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/khankluay/kk.html http://www.thaicinema.org/kit05kankluai.asp


songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Mon Jul 31, 2006 10:29 pm ชื่อกระทู้:

รวมผู้กำกับดังตัดสินมิวสิควิดีโอ Fat Awards คลื่น 104.5 FAT RADIO ชวนผู้กำกับฝีมือดี อาทิ ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้กำกับหนังโฆษณา บริษัท หับโห้หิ้น และภาพยนตร์เรื่อง “สตรีเหล็ก”, จิระ มะลิกุล ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “15 ค่ำ เดือน 11”,ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้ควบคุมงานสร้าง บริษัทบาแรมยู,ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ บริษัทอาวอง จำกัด และ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “ฟ้าทลายโจร” ร่วมเป็นกรรมการตัดสิน การประกาศผลรางวัล “FAT AWARDS” สาขา ADIDAS BEST MUSIC VEDIO (มิวสิควีดีโอยอดเยี่ยม) ที่สถาบันดนตรี GEN-X ACADEMY เมื่อวันก่อน ซึ่งมิวสิควีดีโอที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ “มาทำไม” ของธงไชย แมคอินไตย ซึ่งกำกับโดย ณัฐพล มุกขัน, “รักคือสายลม” จอนห์นี่ อันวา กำกับโดย คมภิญญ์ (คำป้อน) เข็มกำเนิด OSK102, “HAPPINESS IS” MODERN DOG กำกับโดย วิศุทธิ์ พรนิมิต OSK112 และ “THESE LITTLE SONGS” พรู กำกับโดย อลงกต เอื้อไพบูลย์ ส่วนการประกาศผลรางวัล “FAT AWARDS”ทั้ง 16 สาขา มีขึ้นในวันอังคารที่ 25 มีนาคม 49 ณ ลานกลางแจ้ง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่มา: http://www.eotoday.com/cgi/news_music/show.php?id=2831

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Fri Aug 04, 2006 12:52 pm ชื่อกระทู้:

คุ้นๆว่าผู้ช่วย ผกก ของเรื่องวัยอลวน ๔ ก็อาจเป็นเด็กสวนฯนะครับ มีท่านใดสามารถช่วย confirm ได้มะครับ

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Thu Aug 31, 2006 6:40 pm ชื่อกระทู้:

"เด็กชายแฮมเบอร์เกอร์" จากฝีมือการกำกับของ ศิวดล ระถี OSK111 ได้รับรางวัลวิจิตรมาตรา (หนังสั้นที่โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง) ในงานเทศกาลภาพยนตร์สั้น หรือ "เทศกาลภาพยนตร์สั้นและวิดีโอไทยครั้งที่ 10" ปีนี้ (2549) จัดโดยมูลนิธิหนังไทย "ภาพยนตร์สั้น" หรือ "หนังสั้น" ที่ส่งเข้าร่วมประกวดปีนี้มีมากถึง 332 เรื่อง อีกทั้งผลการตัดสินปรากฏว่า รางวัลนักแสดง ตกเป็นของ อภิสิทธิ์ จำปานวน จากเรื่องเดียวกันนี้ -- "เด็กชายแฮมเบอร์เกอร์" ของศิวดล ระถี OSK110 ที่มา: http://www.komchadluek.net/2006/08/31/s001_42714.php?news_id=42714 _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Thu Aug 31, 2006 6:42 pm ชื่อกระทู้:

"เด็กชายแฮมเบอร์เกอร์" จากฝีมือการกำกับของ ศิวดล ระถี OSK111 ได้รับรางวัลวิจิตรมาตรา (หนังสั้นที่โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง) ในงานเทศกาลภาพยนตร์สั้น หรือ "เทศกาลภาพยนตร์สั้นและวิดีโอไทยครั้งที่ 10" ปีนี้ (2549) จัดโดยมูลนิธิหนังไทย "ภาพยนตร์สั้น" หรือ "หนังสั้น" ที่ส่งเข้าร่วมประกวดปีนี้มีมากถึง 332 เรื่อง อีกทั้งผลการตัดสินปรากฏว่า รางวัลนักแสดง ตกเป็นของ อภิสิทธิ์ จำปานวน จากเรื่องเดียวกันนี้ -- "เด็กชายแฮมเบอร์เกอร์" ของศิวดล ระถี OSK111 ที่มา: http://www.komchadluek.net/2006/08/31/s001_42714.php?news_id=42714
Production House ฟีโนมีนา Flim Director สาธิต กาลวันตวานิช OSK91 Agency เดนท์สุ (ประเทศไทย) Creative Group Head พิสุทธิ์ วงศ์พันธ์ ขอขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติ ๖๐ ปี รายละเอียดผู้จัดทำ ชุดที่ 2 “ธุลีของแผ่นดิน” เรื่องราวของเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่ เธอชื่อ มาลัยรัตน์ มั่นสัมฤทธิ์ ผู้ใช้ชีวิตอย่างอยากลำบากกับแม่ผู้เป็นอัมพาตและป่วยหนัก อาศัยอยู่ในยุ้งข้าวของเพื่อนบ้าน ที่ ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร ชีวิตที่แร้นแค้นจนแทบกลั่นน้ำตาทานต่างข้าว ไร้เงินทองที่จะเยียวยารักษามารดา ด้วยความกตัญญู เธอเลือกที่จะเขียนจดหมายที่ไร้การจ่าหน้า ไร้ซองและไร้แสตมป์ เพื่อขอความช่วยเหลือ วันแล้ววันเล่าที่เธอรอคอยอย่างเลือนรางจนแทบสิ้นหวัง แต่ในที่สุดความปิติก็เอ่อล้นในหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอ เมื่อมีจดหมายตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการเพื่อแสดงเจตจำนงช่วยเหลือครอบครัวเธอ ภาพจดหมายของมาลัยรัตน์ปรากฏบนโต๊ะทรงงานของในหลวง ทำให้ใครหลายคนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “พ่อมองเห็นเราเสมอ” ไม่ว่าเราจะเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ ของแผ่นดินก็ตาม เบื้องหลัง “พ่อมองเห็นเราเสมอ” นักแสดงคือเจ้าของเรื่อง โดยมาลัยรัตน์และแม่แสดงเอง จึงสามารถถ่ายทอดสีหน้าแววตาได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ โดยถ่ายทำที่หัวดง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ พิสุทธิ์ถึงกับบอกว่า เป็นอากาศที่ร้อนสุดๆ แต่ทีมงานทุกคนก็ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ .................................................................... ชื่อภาพยนตร์ :สายพระเนตรอัจริยะ ผู้กำกับ : สาธิต กาลวันตวานิช OSK91 ความยาว : 60 วินาที และ 30 วินาที บริษัทเจ้าของสินค้า : บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผลิตภัณฑ์ : บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัทตัวแทนโฆษณา : บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ออกความคิดโฆษณา : นภดล ศรีเกียรติขจร, เอกณรงค์ วิจิตรทฤษฏี, เตวิท จริยานุกูลพันธ์ ผู้ควบคุมการผลิต : ยุทธพงศ์ วรานุเคราะห์โชค วัตถุประสงค์ • เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องใจมหาวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ แคมเปญโฆษณา • ภาพยนตร์โฆษณา โทรทัศน์ ความยาว 60/30 วินาที • สื่อสิ่งพิมพ์ แนวความคิด เมื่อหลายสิบปีก่อน ใครจะรู้ว่า…บนผืนแผ่นดินแห่งอีสาน นอกจากความทุรกันดารของผืนดินที่แตกระแหงแล้ว ท่ามกลางความอดอยากยากแค้นนั้นกลับอุดมสมบูรณ์ไปด้วยงานศิลป์ชิ้นเอกจากฝีมือของชาวบ้าน มรดกแห่งความงามที่ถูกเรียกขานกันว่า”ผ้าไหมมัดหมี่” แต่เมื่อวันหนึ่งที่องค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ แม่ฟ้าแห่งไทย ทรงเสด็จไปถึงและได้ทอดพระเนตรเห็นความงามอันทรงคุณค่านั้น ตำนานแห่งความยิ่งใหญ่ของผ้าไหมจึงถูกประกาศก้องให้ชาวโลกได้รู้ รวมทั้งอนาคตที่ยั่งยืนของชาวบ้านก็ได้เริ่มต้นขึ้นนับจากวันนั้น นี่คือที่มาของแนวความคิด ซึ่งถูกสร้างสรรค์เป็นภาพยนตร์โฆษณาเพื่อเทอดพระเกียรติองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระราชวโรกาส ครบรอบ 72 พรรษา ซึ่งจัดทำโดยบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่จำกัด เรื่องราวจากเหตุการณ์จริงเมื่อ 32 ปีก่อน ถูกถ่ายทอดผ่านคำบอกเล่าของคุณวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ ชาวบ้าน 1 ในเจ็ดคนแรกที่ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายผ้าไหมแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จเยี่ยมพสกนิกรที่กิ่งอำเภอนาหว้า จ.นครพนม ตอนนั้น หลังจากทราบข่าวว่าพระองค์จะเสด็จมา ชาวบ้านตื่นเต้นกันใหญ่ ต่างพากันนำของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ไปถวาย รวมทั้งคุณวงเดือนด้วย แต่เนื่องจากตนเองเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ จึงไม่รู้ว่าจะนำอะไรไปถวายพระองค์ท่านดี สุดท้ายก็นึกขึ้นได้ว่าที่บ้านมีผ้าไหมมัดหมี่ผืนหนึ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จึงได้ตัดสินใจนำของชิ้นนั้นไปถวาย ความปลาบปลื้มใจที่สุดในชีวิตของคุณวงเดือน มิใช่เพียงเพราะพระองค์ท่านทรงรับผ้าไหมมัดหมี่ไปในวันนั้น แต่เพราะสายพระเนตรอัจฉริยะที่ทรงมองเห็นความงามซึ่งซ่อนอยู่ในผืนผ้าไหมมัดหมี่ได้เป็นจุดกำเนิดที่ยิ่งใหญ่แห่งตำนานแห่งศิลปาชีพ ฯ ที่ทั่วโลกกล่าวขานถึง และนำมาซึ่งอนาคตที่ดีตลอดกาลของชาวบ้านหลายแสนครอบครัวเฉกเช่นในปัจจุบัน รวมทั้งครอบครัวของคุณวงเดือนด้วย ทั้งหมดคือความซาบซึ้งใจที่บอกเล่าได้ไม่รู้จบ ถึงพระอัจฉริยะ พระปรีชาญาณ และน้ำพระราชหฤทัยอันเมตตา แห่งองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “พระผู้ทรงเกิดมาเพื่อสร้าง” อย่างแท้จริง ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.adintrend.com/show_ad.php?id=837 http://www.positioningmag.com/magazine/Details.aspx?id=50086&menu=magazine,advertising http://positioningmag.com/prnews/prnews.aspx?id=24476 http://www.sarakadee.com/feature/2003/08/index.htm _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Mon Oct 16, 2006 12:06 am ชื่อกระทู้:

พี่ Seabreeze OSK109 แจ้งมาว่า... ดูแผ่น DVD แก๊งชะนีฯ ที่เพิ่งซื้อมา ...เปิดดู เจอฉากเปิดหนังสือรุ่น เขาเอาสมานมิตร 108 ไปเข้าฉากครับ ...เห็นตึกยาว ในภาพ ก้อเฮ้ยยย พอถ่ายเจาะใกล้ๆ อ้าวเฮ้ยอีก... นั่น ม.502 OSK109.....เขาเอาภาพหมู่ 502 เป็นห้องพระเอกเลย แค่ตัดหัวมาแปะทับ ...มี อ.คำน้อย โภชนสมบูรณ์ ด้วยครับ...ในหนังเห็นชัดๆ ...ฉายในโรง คงไม่ทันสังเกต เพราะไว ...ดีวีดี เลย หยุดภาพดูได้ครับ ...และไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับเพราะในหนัง เขาจับผิดว่า พระเอกไม่ใช่ชายตามธรรมชาติที่มาจาก ร.ร.ชายล้วน... _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Mon Oct 23, 2006 2:05 am ชื่อกระทู้:

“พี่ตั๊ว OSK92” ปลุกระดม!!! ถึงเวลาผู้หญิงต้องสู้ ใน อำมหิต พิศวาส -- ผลงานเรื่องใหม่ จากค่ายสหมงคลฟิล์ม ภายใต้การกำกับและแสดงโดย พี่ตั๊ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง OSK92 อดีตดรัมเมเยอร์ของวงดุริยางค์สวนกุหลาบฯ --> http://osknetwork.com/modules.php?name=News&file=read_article&sid=1470&mode=&order=0&thold=0
songwut110 บันทึก:
พี่ Seabreeze OSK109 แจ้งมาว่า... ดูแผ่น DVD แก๊งชะนีฯ ที่เพิ่งซื้อมา ...เปิดดู เจอฉากเปิดหนังสือรุ่น เขาเอาสมานมิตร 108 ไปเข้าฉากครับ ...เห็นตึกยาว ในภาพ ก้อเฮ้ยยย พอถ่ายเจาะใกล้ๆ อ้าวเฮ้ยอีก... นั่น ม.502 OSK109.....เขาเอาภาพหมู่ 502 เป็นห้องพระเอกเลย แค่ตัดหัวมาแปะทับ ...มี อ.คำน้อย โภชนสมบูรณ์ ด้วยครับ...ในหนังเห็นชัดๆ ...ฉายในโรง คงไม่ทันสังเกต เพราะไว ...ดีวีดี เลย หยุดภาพดูได้ครับ ...และไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับเพราะในหนัง เขาจับผิดว่า พระเอกไม่ใช่ชายตามธรรมชาติที่มาจาก ร.ร.ชายล้วน...พี่ Seabreeze OSK109 บันทึก: " ใครได้ดู หนังแก๊งชะนี กับอีแอบ ฉากเปิด หนังสือรุ่น ตอนพี่ก้อง เรียน มัธยมชายล้วนบ้าง ใช้หนังสือรุ่นของ osk 108 ครับ " ไม่รู้ว่า ตอนไปดูที่โรงหนัง น่าจะได้เห็นกัน พอดี ไม่ได้ไปดูที่โรง ซื้อ DVD มาดู เลยหยุดภาพนิ่งดูได้ ผิดภาพหมู่ ด้านหลังคุ้นๆ ตึกยาวนี่หว่า ภาพจากหนังครับ ช่วงที่ สี่สาว เปิดหนังสือรุ่นดู


ก่อนกลับหอ แวะร้านหนังสือ เจอเล่มนี้ Pornovel ของ พอดีเรากำลังอยากอ่านนิยายภาษาไทยเลยเปิดดู คนเขียน (ปองวุฒิ๑๑๘) เรียนการตลาดนะ แต่ตอนเรียนจบเขียนนิยายเรื่องได้ 9 เล่ม กับเรื่องสั้นอีก 29 เรื่อง Pornovel นี้ เป็นเรื่องที่ 7 ที่เขียน แต่เป็นเรื่องแรกที่ได้พิมพ์รวมเล่ม ตั้ง 9 เล่มอ่ะ ไม่ใช่ง่ายนะน่ะ ด้วยความอยากรู้มากว่าคนเขียนสมัยนี้จะมีฝีมือขนาดไหน เลยซื้อมาเลย ถึงหอปุ๊บก็อ่านเลยด้วย อ่านตั้งแต่ประมาณ 6 โมงมั้ง กะว่าจะอ่านหน่อยเดียว แต่ไปๆมาๆก็... จนจบเลยวันนั้น กว่าจะได้นอนเลยเที่ยงคืน และวันรุ่งขึ้นก็ป่วยหนักกว่าเดิม แต่ก็คุ้มนะที่อ่าน Pornovel ปองวุฒิ รุจิระชาคร หนังสือในชุด The First Hand สำนักพิมพ์ a book สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ด ราคา : 170.00 บาท ราคาพิเศษ : 162.00 บาท ISNB : 9749296699 --> http://www.msu.ac.th/ubook/www/category.asp?catid=1 เรื่องนี้เกี่ยวกับผู้ชายคนนึงที่อยากจะเป็นนักเขียน แต่ด้วยความที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองด้วย เลยจำเป็นต้องไปพระเอกหนังโป๊ ถึงเนื้อเรื่องที่จะแหวกแนว เรารู้สึกว่าส่วนที่สำคัญไม่ใช่เนื้อเรื่อง แต่เป็นมุมมองของคนเขียนที่แทรกอยู่ ไม่ได้แทรกเนียนเท่าไหร่ด้วย บอกกันตรงๆเลยนั่นแหละ แต่หลายอย่างเป็นความคิดที่น่าสนใจดีและแสดงให้เห็นว่าคนเขียนมีมุมมองที่กว้างและลึกพอสมควร ใครที่สนใจนิยายร่วมสมัยที่มีสาระ ไม่น้ำเน่า แอบติดเรทนิดๆ ก็น่าลองอ่าน ถึงจะพูดไม่ได้ว่าดีเลิศ – หลายตอนอ่านแล้วขัดจิตจริงๆ บางตอนก็ไม่ได้สมเหตุสมผลเอาซะเลย – แต่ก็เขียนได้ดีในระดับนึง ทำให้อยากอ่านเรื่องอื่นๆที่เค้าเขียนว่าจะเป็นแบบไหนและก็น่าติดตามว่าจะสามารถพัฒนาฝีมือไปได้มากกว่านี้หรือไม่ ดีใจนะเนี่ย ที่นักเขียนรุ่นใหม่ก็เก่งเหมือนกัน posted by ambiguous, at 2005-06-24 18:57:52ที่มา: http://www.thaifilm.com/shortFilmDetail.asp?id=55 http://ambiguous.exteen.com/category-review http://content.kapook.com/cgi-bin/artman/exec/view.cgi?archive=1969&num=28485 http://www.webroon.com/~sk118/list1_06_database.htm _________________If a fool would persist in his folly, he would become wise. - WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)

songwut110สุดยอดแฟนพันธุ์แท้รุ่นทีู่่: 110เข้าร่วมเมื่อ: Jul 21, 2003ตอบ: 7097
ตอบ: Fri Nov 03, 2006 5:28 pm ชื่อกระทู้:

เอสเอฟจับมือกสิกรเอาใจคอหนัง ลดราคาตั๋วทุกพุธเริ่มเดือนพ.ย.นี้ เอสเอฟ ซีเนม่า จับมือกสิกรไทย จูงใจลูกค้าออกแคมเปญวัน "เค เดย์" ด้วยการให้ส่วนลดผู้ชมภาพยนต์ทุกวันพุธในราคา 80 บาททุกที่นั่ง เริ่มแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ถึงมีนาคมปีหน้า พร้อมแถมชุดป๊อปคอร์นฟรีหากชำระด้วยบัตรเครดิต นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ OSK99 ประธานกรรมการบริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จับมือร่วมกับธนาคารกสิกรไทย (เคแบงก์) เปิดตัววัน "เค เดย์" ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าของเอสเอฟและเคแบงก์ได้รับสิทธิประโยชน์ในการชมภาพยนตร์และความบันเทิงอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยสามารถดูหนังในวันพุธ ทุกเรื่อง ทุกรอบ ในราคาพิเศษ 80 บาททุกที่นั่ง เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ถึงเดือนมีนาคม 2550 คาดว่าจะกระตุ้นความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น เพราะปกติวันพุธจะมีลูกค้าน้อยกว่าวันอื่นๆ ด้านนายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การจับมือกันครั้งนี้จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ได้อย่างทั่วถึง โดยลูกค้าของธนาคารที่ชำระค่าชมภาพยนตร์ด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตทุก 2 ที่นั่ง จะได้รับเค คอมโบ ฟรี ซึ่งมีน้ำอัดลม 1 แก้ว และป๊อปคอร์นขนาดกลาง 1 กล่อง