Sunday, 5 August 2007
ชีวิตเริ่มมีค่า (อีกครั้ง)
ชีวิตเริ่มมีค่า (อีกครั้ง)
ได้งานแย้ววววอยู่ฝ่ายศิลปกรรม ในบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ผลิตงานโฆษณาไปสัมภาษณ์ตั้งแต่วันที่ 11 เค้าบอกว่า อาทิตย์ถัดไปจะโทรมาบอกไม่เห็นโทรมาซะที ไอ้เราก็เลยลืมๆไปซะตอนสัมภาษณ์ก็เหมือนเค้าชอบนะ แต่เค้าคงอยากได้คนถึกๆหน่อยเพราะมันต้องออกไปถ่ายรูป วาดรูป ทำ photoshopเด็กช่างศิลป์น่าจะเหมาะกว่าเมื่อวานซืน (30 กค.) เพื่อนแป้งสุดรัก(สัดๆ) โทรมาบอกว่า จะเอาเราไปเป็นฝ่ายประสานงานรายการ อสูรชายโชว์มันก็อธิบายงู้นงี้งั้นโง้น เอาเราไปโฆษณากับพี่ๆมากมายก็โอเค เรารับ เพราะออฟฟิศไม่ไกลมาก ได้ประชุมงานกับพี่พอล (สำคัญๆ) และไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน (อันนี้สำคัญกว่า)ก็ไม่รู้ว่าชาติที่แล้ว ทำเวรทำกรรมอะไรกันหนักหนาไม่รู้ไปกดขี่ใช้มันเยี่ยงทาสหรืออย่างไรชาตินี้เลยต้องตามรับใช้มันอยู่ตลอดเวลาแต่แล้ว !!!เช้าเมื่อวานนี้ บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ก็โทรมา ถามว่ายังสนใจไหมกรี๊ดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าให้เราเข้าไปคุยงานวันนี้หลังจากนั้นก็โทรไปหาแป้งเมื่อแป้งรับโทรศัพท์ ประโยคแรกที่มันพูดคือ "ม่ายยยยย ไม่นะ มึงปฏิเสธไม่ได้นะ"ขอโทษด้วยนะ แต่กูส่งนุ้ยเป็นตัวแทนละกัน มันน่าจะทำได้ดีกว่ากูวันนี้เข้าไปคุยรายละเอียดงานมีคุณฝรั่งโผล่มาคนนึง ตัวใหญ่มาก แต่พูดไทยได้ตอนสัมภาษณ์คราวก่อน คุยเฉพาะเมนหลักๆแต่ละเอียดจริงๆคือ นอกจากจะถ่ายรูป วาดรูป รีทัชรูปแล้วอาจจะต้องช่วยทำงานด้าน MS Office ทำเวบ ตัดต่อ และออกไปพบลูกค้าด้วย!!!!!!!ใช้คุ้มไปรึป่าวคะ !!!!ไม่รู้ว่าจะเครียดหรือไม่เครียดดีเครียดที่ใช้งานเราเยอะเกิน และเรียกเงินน้อยไป (พี่บ่นอยู่หลายรอบ)ถ้าจะไม่ให้เครียดเนี่ย ก็ต้องมองซะว่า ไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆเพราะตั้งแต่จบมาก็ไม่เคยได้จับงานสายที่จบบริษัทเค้าก็ดูเป็นเรื่องเป็นราว ถึงแม้พนง.จะน้อย แต่ก็มีฝรั่งพูดถึงพนง.น้อย เค้ามีอยู่ประมาณสิบคน เป็นหญิงหนึ่งคน ที่เหลือเป็นผู้ชายหมดเลย ... !!!!!!!!เราเป็นผู้หญิงคนที่สองของบริษัท เหอะๆๆๆๆตอนเดินออกจากบริษัท ก็สติแตกตามประสาสุดท้ายก็ต้องบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไรไม่ผ่านโปร ก็ไม่เป็นไรคงอยู่ไม่นาน ไม่เป็นไรเก็บความเครียดไว้ในใจ แล้วไปปลดปล่อยที่ซีคอน ซื้อหนังมา 6 เรื่อง ซื้อหนังสือมา 3 เล่ม
ได้งานแย้ววววอยู่ฝ่ายศิลปกรรม ในบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ผลิตงานโฆษณาไปสัมภาษณ์ตั้งแต่วันที่ 11 เค้าบอกว่า อาทิตย์ถัดไปจะโทรมาบอกไม่เห็นโทรมาซะที ไอ้เราก็เลยลืมๆไปซะตอนสัมภาษณ์ก็เหมือนเค้าชอบนะ แต่เค้าคงอยากได้คนถึกๆหน่อยเพราะมันต้องออกไปถ่ายรูป วาดรูป ทำ photoshopเด็กช่างศิลป์น่าจะเหมาะกว่าเมื่อวานซืน (30 กค.) เพื่อนแป้งสุดรัก(สัดๆ) โทรมาบอกว่า จะเอาเราไปเป็นฝ่ายประสานงานรายการ อสูรชายโชว์มันก็อธิบายงู้นงี้งั้นโง้น เอาเราไปโฆษณากับพี่ๆมากมายก็โอเค เรารับ เพราะออฟฟิศไม่ไกลมาก ได้ประชุมงานกับพี่พอล (สำคัญๆ) และไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน (อันนี้สำคัญกว่า)ก็ไม่รู้ว่าชาติที่แล้ว ทำเวรทำกรรมอะไรกันหนักหนาไม่รู้ไปกดขี่ใช้มันเยี่ยงทาสหรืออย่างไรชาตินี้เลยต้องตามรับใช้มันอยู่ตลอดเวลาแต่แล้ว !!!เช้าเมื่อวานนี้ บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ก็โทรมา ถามว่ายังสนใจไหมกรี๊ดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าให้เราเข้าไปคุยงานวันนี้หลังจากนั้นก็โทรไปหาแป้งเมื่อแป้งรับโทรศัพท์ ประโยคแรกที่มันพูดคือ "ม่ายยยยย ไม่นะ มึงปฏิเสธไม่ได้นะ"ขอโทษด้วยนะ แต่กูส่งนุ้ยเป็นตัวแทนละกัน มันน่าจะทำได้ดีกว่ากูวันนี้เข้าไปคุยรายละเอียดงานมีคุณฝรั่งโผล่มาคนนึง ตัวใหญ่มาก แต่พูดไทยได้ตอนสัมภาษณ์คราวก่อน คุยเฉพาะเมนหลักๆแต่ละเอียดจริงๆคือ นอกจากจะถ่ายรูป วาดรูป รีทัชรูปแล้วอาจจะต้องช่วยทำงานด้าน MS Office ทำเวบ ตัดต่อ และออกไปพบลูกค้าด้วย!!!!!!!ใช้คุ้มไปรึป่าวคะ !!!!ไม่รู้ว่าจะเครียดหรือไม่เครียดดีเครียดที่ใช้งานเราเยอะเกิน และเรียกเงินน้อยไป (พี่บ่นอยู่หลายรอบ)ถ้าจะไม่ให้เครียดเนี่ย ก็ต้องมองซะว่า ไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆเพราะตั้งแต่จบมาก็ไม่เคยได้จับงานสายที่จบบริษัทเค้าก็ดูเป็นเรื่องเป็นราว ถึงแม้พนง.จะน้อย แต่ก็มีฝรั่งพูดถึงพนง.น้อย เค้ามีอยู่ประมาณสิบคน เป็นหญิงหนึ่งคน ที่เหลือเป็นผู้ชายหมดเลย ... !!!!!!!!เราเป็นผู้หญิงคนที่สองของบริษัท เหอะๆๆๆๆตอนเดินออกจากบริษัท ก็สติแตกตามประสาสุดท้ายก็ต้องบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไรไม่ผ่านโปร ก็ไม่เป็นไรคงอยู่ไม่นาน ไม่เป็นไรเก็บความเครียดไว้ในใจ แล้วไปปลดปล่อยที่ซีคอน ซื้อหนังมา 6 เรื่อง ซื้อหนังสือมา 3 เล่ม