Thursday 17 April 2008

Dreams : ฝันอยากเป็นนักเขียนบท

“มาเฟียที่รัก” เจาะกึ๋นนักเขียนพันธุ์ละอ่อน

จีราวัฒน์ คงแก้ว
จากเรื่องสนุกๆ ที่เพื่อนๆ รบเร้าให้ลองเขียน กลายมาเป็นนิยายฮอตฮิตของเหล่าวัยรุ่นสาวก "Z-Girl" ค่ายสถาพรบุ๊คส์ ก่อนที่ผู้จัดหน้าใหม่อย่าง นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช จะซื้อลิขสิทธิ์ไปทำเป็นละครทางช่อง 3 จนฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง เรื่องราวไม่ธรรมดาของน้อง "ผักบุ้ง-พรทิวา หอมชู" วัยรุ่นสายพันธุ์ใหม่ บนเส้นทางนักเขียนที่ไม่ได้มีแค่โชคชะตาให้ก้าวข้าม


แม้ละครจะจบไปแล้ว แต่ถึงวันนี้ยังมีคนพูดถึงความน่ารัก โรแมนติก ของ "เฉินหลิง กับ ผักบุ้ง" ในเรื่อง "มาเฟียที่รัก" ละครพิสูจน์ฝีมือการเป็นผู้จัดเรื่องแรกของ นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช

เบื้องหลังความหรรษาของละคร มีภาพนักเขียนวัยใส ใหม่ถอดด้าม "ผักบุ้ง-พรทิวา หอมชู" นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะคุรุศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยบูรพา

ถนนนักเขียนของพรทิวา ถูกปูทางมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กหญิงผักบุ้ง

วันว่างจากการเรียน เธอใช้จินตนาการเขียนนิยายสนุกแนวแฟนตาซี เจ้าหญิง เจ้าชาย ตามถนัด ยิ่งมีเพื่อนช่วยอ่าน ช่วยวิจารณ์ เพิ่มอรรถรสงานนักเขียนสมัครเล่น

งานเขียนถูกพัฒนาไป ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เขียนสิ่งที่เธอชอบไม่หยุดนิ่ง

"จากที่เขียนเรื่องเจ้าหญิงเจ้าชาย แนวแฟนตาซีมาตลอด วันหนึ่งเพื่อนๆ ก็บอกว่า ไม่เอาแล้ว ไม่อยากอ่านแนวนี้แล้ว อยากได้แนวมาเฟียบ้าง เหมือนโยนโจทย์มาให้ว่าอยากได้ประมาณ โหด หื่น และ ฮา ด้วย ก็เลยลองปรับงานเขียนตัวเองมาทางนี้”

การเปลี่ยนจากแนวถนัดมารับโจทย์ของเพื่อนๆ น้องผักบุ้งเริ่มศึกษางานเขียนแนวนี้ พร้อมๆ กับหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ จนมาประทับใจกับผลงานของ “ซิงเหมย” นักเขียนวัยเพียง 15 ปี ที่เริ่มต้นด้วยการเขียนเรื่องลงในเวบไซต์เด็กดีดอทคอม จนมีผลงานตีพิมพ์หลายต่อหลายเล่ม

"น้องเขาเป็นนักเขียนในดวงใจเลย เพราะเขียนเรื่องได้สนุก ทำพล็อตให้เราอยากติดตามได้ จึงเริ่มมาเขียนงานของตัวเองบ้าง แล้วลองเขียนลงในเวบไซต์เด็กดีดอทคอม"

"มาเฟียที่รัก" ค่อยๆ มีชีวิตขึ้น จากแรงบันดาลใจใกล้ๆ ตัว เธอบอกตรงว่า อยากเป็นนางเอก ก็เลยตั้งชื่อนางเอกว่า "ผักบุ้ง" ส่วนพระเอกและตัวละครอื่นๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาจีน ก็อาศัยถามจากเพื่อนๆ ที่เป็นลูกหลานคนจีนเอา

จากเริ่มต้นจนจบเรื่อง ใช้เวลาเขียนประมาณ 3-5 เดือน

หลังผลงานถูกเผยแพร่ในเวบไซต์เด็กดีดอทคอม น้องผักบุ้งบอกเราว่า แรกๆ แทบไม่มีคนอ่าน 5 ตอนแรก มีคนอ่านเพียง 5 คนเท่านั้น

"ตอนเอาลงเด็กดีแรกๆ แทบไม่มีคนอ่านเลย เอาลงไป 5 ตอน แล้วไปเที่ยวเชียงใหม่ กลับมาเจอคนเข้ามาดูแค่ 5 คน เราคิดว่าบางทีมันอาจไม่สนุกก็ได้ แต่ก็ยังไม่ท้อ พยายามเขียนลงไปเรื่อยๆ จนค่อยๆ เห็นการพัฒนา พอลงไป 20 ตอน ก็มีคนอ่านเพิ่มมากขึ้น จาก 5 คน ก็เป็นหลายร้อย ทำให้มีกำลังใจที่จะเขียนต่อไป"

จากงานเขียนออนไลน์ ใช้เวลาไม่นาน "มาเฟียที่รัก" ก็ได้รับการติดต่อจากสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ ให้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก ภายใต้สำนักพิมพ์ของวัยรุ่นอย่าง Z-Girl โดยตีพิมพ์มาแล้วถึง "5 ครั้ง" ยอดรวมกว่าหมื่นเล่ม โดยได้รับค่าลิขสิทธิ์มาตรฐานที่ 10% ของยอดขาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายของนักเขียนหน้าใหม่ที่จะได้รับการรวมเล่มนิยายถึงระดับ "หมื่นเล่ม"

เพียงไม่นานหนังสือที่นิยมกันในกลุ่มวัยรุ่น "มาเฟียที่รัก" เป็นที่กล่าวขวัญขึ้นอีกครั้ง หลังถูกนำไปเป็นละครทางโทรทัศน์

"เคยเปรยๆ กับแม่ว่า ถ้าหนังสือของหนูได้ไปทำเป็นละครก็ดีสินะ จะต้องดีมากแน่ๆ พอย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยบูรพา แม่โทรศัพท์มาบอกว่ามีคนติดต่อมาขอซื้อลิขสิทธิ์ มาเฟียที่รัก ไปทำเป็นละครของช่อง 3 นะ เขาจะนัดให้ไปคุย ตอนนั้นก็ยังนึกว่าแม่คงอำ แต่ปรากฏว่าเรื่องจริง ก็ดีใจและตื่นเต้นมาก"

หลังการไปพบกับผู้จัดอย่าง "นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช" และทีมงาน ทำให้น้องผักบุ้งรู้เหตุผลที่ทำให้งานเขียนของเธอเข้าตากรรมการ จนกลายมาเป็นละครในครั้งนี้

"พี่นกเล่าว่า เดินไปร้านหนังสือ แล้วเห็นชื่อเรื่องนี้สะดุดตาดี บอกว่าละครแนวนี้ในบ้านเรายังไม่มีนะ พอเปิดอ่านดูก็เจอบทนางเอกทติ๊งต๊องดี ฉากที่พี่เขาประทับใจเป็นฉากที่มิ้นท์ กับผักบุ้ง บังเอิญนั่งเครื่องบินกลับจากฮ่องกงเที่ยวเดียวกัน ทั้งสองเดินสวนกัน แต่ไม่ได้เจอหน้ากัน พี่เขาบอกนึกภาพออกเลยฉากนี้ จึงคิดจะทำเป็นละคร"

หลังตกลง น้องผักบุ้งเป็นนักเขียนที่มีค่าตัว (จากลิขสิทธิ์) เรือนแสนบาท

เมื่อเริ่มมีรายได้เข้ามา เงินก้อนโตที่ถ้าคิดจะใช้ก็คงหมดไปได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่น้องผักบุ้งทำ คือ ยกให้คุณแม่เป็นคนบริหารจัดการทั้งหมด ส่วนเธอก็เอาเวลามาฝึกฝนงานเขียนต่อไป

"ที่ผ่านมาเขียนหนังสือทุกวัน วันไหนไม่เขียนก็ต้องอ่านทบทวน เขียนเยอะมาก ที่เหลืออยู่เป็นไฟล์ก็ไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง พยายามปรับพยายามพัฒนาต่อไป ทำให้งานของตัวเองต่างจากคนอื่น อย่างการทำให้เรื่องดูหนักขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตัวโกงก็จะโกงหนักกว่านิยายวัยรุ่นทั่วไป รวมถึงหาข้อมูลเพิ่มขึ้น ยอมรับว่า ตอนที่เขียนมาเฟียที่รัก ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นหนังสือจริงๆ ตอนนั้นยังหาข้อมูลไม่มาก บางชื่อสถานที่ก็ยังเขียนผิด มาปรับแก้ไขก็ตอนตีพิมพ์แล้ว แต่เรื่องหลัง อย่างที่เขียนเกี่ยวกับเกาหลี ก็เริ่มหาข้อมูลจากเวบไซต์ และเพื่อนๆ ที่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ และศึกษาภาษาเกาหลีที่ถูกต้อง แล้วนำมาเขียน ให้ได้เรื่องที่สมจริงขึ้น"

จากมาเฟียที่รัก ทุกวันนี้ น้องผักบุ้งมีงานเขียนที่ตีพิมพ์ไปแล้ว 6 เล่ม จาก 3 เรื่อง คือ มาเฟียที่รัก, รักใสใสของคุณชายนายกระจอก และ ร้ายนักรักไม่รักช่วยบอกหน่อย ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนนักอ่านของเธออย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายต่อไป เธอบอกเราว่า อยากอยู่ในวงการขีดๆ เขียนๆ ต่อไป เพราะเป็นงานที่เธอรัก และมีความสุขกับมัน อย่างการเขียนบทโทรทัศน์ ส่วนฝันสูงสุดถ้าเป็นได้ ก็อยากเป็น "ผู้กำกับละคร" กับเขาสักเรื่อง

แม้จะยังเด็ก แต่นักเขียนพันธุ์ใหม่ของพวกเรา ก็มีเวทีสร้างเงินสร้างทองให้ตัวเองได้ โดยอาศัยความพยายาม ความมุ่งมั่น การขยันฝึกฝน ฝึกปรือฝีมืออย่างสม่ำเสมอ สำหรับนักเขียนรุ่นพี่อย่าง "ปิยะพร ศักดิ์เกษม" เจ้าของนิยายคุณภาพ ที่นำมาทำเป็นละครหลายต่อหลายเรื่อง ได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า

“สิ่งที่ได้จากการเขียนนิยาย อาจมีเรื่องของเงิน เป็นผลตอบแทน แต่อาชีพนี้มันต่างจากอาชีพอื่น ตรงที่ต้องเริ่มต้นด้วยความรัก การได้เขียนก็เป็นการแสดงความรักออกไป เมื่อมีโอกาสได้เขียนคืออาการตอบโจทย์ตลอดทั้งชีวิตของเราแล้ว ส่วนค่าตอบแทนหรือชื่อเสียง มันเป็นแค่กำไรชีวิตที่ตามมาเท่านั้น อย่าเริ่มต้นด้วยการอยากได้เงินหรืออยากดัง"

นี่คือเส้นทางฝันของนักเขียนหน้าใหม่ที่เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจ ตกผลึกงานเขียนคุณภาพที่ได้รับการการันตีจากผู้อ่าน ผู้จัดละคร และผู้ชมพร้อมๆ กัน

.......................

Key to success

เส้นทางนักเขียนพันธุ์ใหม่

๐ ฝึกเขียนบ่อยๆ ให้คนใกล้ตัวช่วยวิจารณ์

๐ พัฒนางานเขียนแนวใหม่ๆ

๐ เผยแพร่ผลงานผ่านเวบไซต์

๐ ศึกษาข้อมูลให้น้ำหนักกับงานเขียน

๐ ฝึกฝน ฝึกปรือ สม่ำเสมอ ไม่หยุดนิ่ง

๐ เริ่มต้นจากความรัก อย่าเริ่มจากอยากรวยหรืออยากดัง


เรื่อง : จีราวัฒน์ คงแก้ว cheerawat@nationgroup.com

วันที่: 2007-11-19 00:00:00

LINK: http://www.bangkokbizweek.com/20071102/smallbiz/index.php?news=column_25007725.html