Tuesday, 29 April 2008
Cannes Travel : กรกฎา ทำให้นึกถึงปารีสค่ะ ขอเล่าความเดิมเมื่อไปฝรั่งเศสครั้งแรก
Cannes Festival
25/07/2006 12:31
Posted by creativegirl in France
กรกฎา ทำให้นึกถึงปารีสค่ะ ขอเล่าความเดิมเมื่อไปฝรั่งเศสครั้งแรก
ตอนนั้นดิฉันเป็นครีเอทีฟกรุุ้ปเฮด ตำแหน่งภาษาไทยไม่มี ขืนแปลผู้ฟังจะ้ปวดหัวเปล่า เราเรียกง่ายๆว่ากลุ่มหัวค่ะ คือแทนที่จะทำงานเป็นคู่ก็กลับต้องมีลูกน้องให้ปกครองปวดหัว ก้เรียกว่าปวดหัวเป็นกลุ่มๆ ได้รับรางวัลจากเอเจนซี่เพราะทำงานหนัก หัวหน้ารักใคร่และลูกค้าชื่นชม ด้วยการส่งไปเที่ยวเมืองคานส์ ออกเสียงจริงๆภาษาฝรั่งเศสก็ ..เมืองกานน์ค่ะ
เรียนโทภาษาฝรั่งเศสมา พอถึงวันต้องใช้จริงๆก็รู้ว่า แค่อ่านออก แต่ฟังทีวีจับความแทบไม่ได้เลย ไม่เหมือนภาษาอังกฤษซึ่งได้ใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เราลงเครื่องที่สนามบินในปารีส แล้วนั่งรถใต้ดินจากสนามบินมาโผล่ที่กลางกรุงเลย
บอกเสียก่อนว่าดิฉันน่ะ ไม่สามารถเรียกเมืองนี้ว่าแพรีสหรอกนะคะ นักเรียนไทยที่นั่นคนไหนไม่เรียกปารีส อยู่ๆไปก็รู้เองว่าเด๋อ..บรรพบุรุษเราเรียกกรุงปารีส กรุงลอนดอนมา ลูกหลานจะมาดัดจริตเปลี่ยนมันจะกระไรอยู่ เหมือนฝรั่งเรียกเราตามสำเนียงตัวเองว่าแบงค่อก ทำยังไง้ก็ไม่บางกอก นายกฯทุกกคนยังไม่มีใครบ้าจี้ไปบอกให้ฝรั่งหันมาเรียกว่ากรุงเทพ ยกเว้นฝรั่งที่มีเมียไทย
กรุงปารีสเช้าๆเหงาชมัด ดูยิ่งใหญ่ ทันสมัย แทรกความขลังอลังการ เรากำลังมะงุมมะงาหราตามแผนที่ที่เพื่อนชื่อยายเพชรติดมือมา หัวหน้าเราชื่อวุธ กับน้องชายชื่อวิทย์ซึ่งติดมาด้วย แล้วก็มีเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก ตี๋แบบตาสองชั้น มารับเพชรเพื่อไปอะปั๊ทเตอมองต์ที่จองไว้ เพชรบอกว่า มาปารีสอยู่โรงแรมไม่ไหว มาสี่คนไปอยู่อะ๊ปั๊ทเตอมองต์จะคุ้มกว่า
แล้วก็เหมือนอยู่บ้านเลย นอนกันสบาย แต่ไม่ค่อยได้มีเวลานอนเท่าไรนัก คุณวุธนั้นเคยมาแล้ว และไม่อยากไปไหน ส่วนยายเพชรคนสวยซึ่งเป็นกลุ่มหัวเหมือนกันก็ไปกับน้องชาย ดิฉันมีหน้าที่พานายวิทย์เที่ยว โธ่ มีแผนที่เมทโทรอยู่ในมือแล้วขอเวลาวันเดียวก็ปรุ
นายวิทย์เป็นน้องที่ดีมาก สุภาพ สนุก เชื่อฟังเป็นอันดี มาสายศิลปะค่ะ พูดกันรู้เรื่องพี่ว่าไงก็ว่าตามกัน ดิฉันพยายามทำเวลามาก ตื่นเช้าคว้าแผนที่และเล่าเรื่องประวัติเมืองปารีสและสถานที่สำคัญให้ฟังแล้วก็ตกลงกันว่าจะไปไหนบ้าง
เบสิคของคนที่มาปารีสครั้งแรก ก็ต้องตามสูตร เราไปแวร์ซาย ดูจนเกือบอ้วก เพราะทั้งใหญ่และสวยจนน่าเบื่อ รูปฝาผนังแล้วฝาผนังอีก สวยๆๆๆๆ น่าตื่นเต้นจนเบื่อๆๆๆๆ แต่ความที่หิววิญญาณฝรั่งเศส เพราะเรียนมามาก แต่ความรู้จริงๆแล้วคืนครูไปหมด เลยต้องดูค่ะ สังเกตนายวิทย์เริ่มเบื่อแล้ว
พออกมาที่สวนตุยเลอรี และตริอานง กลับมีความสุขกว่า ดิฉันสงสัยว่าตัวเองคงเป็นสาวคันทรี่ ชอบและชินกับต้นไม้ มากกว่าในพระราชวังอันหรูหรา
ถ่ายรูปให้นายวิทย์ตลอด รูปออกมานายวิทย์ดูหล่อมาก แต่พอมาดูรูปของตัวเอง ร้องจ๊าก บนหัวมีช่องว่างกว้างเกิน แขนขาด ต้นไม้เอียง คอมโพสไม่เอาไหน
เลยบอกว่า นี่ น้องวิทย์ ขอร้อง หัดรู้จักheadroomและcompositionบ้าง จบศิลปะมาได้ไง
ตอนหลังน้องวิทย์กลายมาเป็นลูกน้องดิฉันค่ะ ที่รู้งานมากจนดิฉันโปรโมทให้เป็นกลุ่มหัวและแอสโซ ซึ่งย่อมาจากแอสโซชิเอท น่ะ
ทำให้ลูกน้องหนุ่มอีกคนที่จบจากฝรั่งเศสเสียใจ
วันที่ติดใจคือไปลูฟวร์ ดูจนหมดสภาพอีกเหมือนกัน ครั้งหลังที่ไปลูฟวร์อีก เริ่มจับทางถูก บอกเพื่อนรักที่ไปด้วยว่า เลือกดูอย่างเดียว ที่คิดว่า ไม่ได้ดูแล้วจะตายให้ได้ ดูแบบช้าๆ สบายๆ แล้วมีความสุขค่ะ
ดิฉันพาวิทย์ ตามเก็บแหล่งท่องเที่ยวต่างๆแบบใช้เมทโทรเป็นพาหนะ ไม่ค่อยได้เดินมากเหมือนเที่ยวหลัง ที่แสนจะสบายและอยู่ตัว
วิธีเที่ยวปารีสอีกแบบที่ลอง คือล่องแม่น้ำ แต่ว่าบางจุดก็ต้องเดินนะคะ คนเก่งปารีสมีเยอะ ดิฉันแค่ไปดมๆตามประสา เพราะจุดหมายจริงๆคือไปเมืองกานน์น่ะ ไปดูเขาประกวดโฆษณากัน ค่าลงทะเบียนแพงมาก ไม่อยากรู้ เพราะบริษัทจ่าย รวมถึงโรงแรมก็ให้อยู่ที่ๆคลาสสิคมาก คือritz carlton
เพชรกับดิฉัน แยกกันนอนคนละห้อง ห้องนอนก็ใหญ่ซะไม่มี ห้องน้ำกับห้องนอนเล่นไล่จับกับเล่นซ่อนหากันได้ค่ะ แอร์เย็นเฉียบ คืนหนึ่งไม่สบายมาก ปวดศีรษะ กินยาเสร็จต้องไปนอนกับเพชร ..หลับสนิทเลย ตื่นมาหายเป็นปลิดทิ้ง บางทีดิฉันก็อ้อนเพื่อนเป็นเหมือนกันค่ะ
จากปารีสนี่ มากานน์เราต้องบินไปลงนีซนะคะ แล้วนั่งรถมาอีกต่อ
เมืองกานน์ที่ดิฉันเห็น รู้สึกว่า ก็แพงดีค่ะ อาติโช้กอร่อย เพชรเขามีแฟนฝรั่งอยู่แล้วจึงแกะกินสบายใจทีละกลีบๆ คุ้นๆ ส่วนดิฉันนั้นชอบอาหารฝรั่งเศสเพราะสมัยเรียน ได้อาจารย์ดี หัดให้เรารู้จักชื่นชมศิลปะในอาหารฝรั่งเศสมาก่อน ยังไงก็ตาม วันที่สอง ก็ชวนวิทย์ คุณวุธ และเพชรไปหม่ำอาหารเวียดนามและลาวกัน โอ๊ย..อร่อยดีเด้อ ได้พูดไทยกับเจ้าของร้านด้วย
วันนั้น ฝรั่งเศสแข่งบอลโลกกับบราซิล ปรากฎว่า ฝรั่งเศสชนะ เมืองกานน์ทั้งเมืองมีชีวิตชีวาฉับพลัน.. ไปผับไหน ได้เฮกันลั่น คนฝรั่งเศสออกมาขับรถเปิดประทุนฉุยฉายทั่วเมือง โดยเฉพาะถนนริมหาด สาวไทยก็มันไปกับเขาด้วยค่ะ
เรื่องของแฟชั่น อยู่ในจิตวิญญาณของเพชร เธอจะใช้เวลาเดินดูของนานมากๆ ดิฉันซึ่งไม่ชอบซื้อของเลย แต่ไปบ้าอย่างอื่นแทน เดินๆเบื่อๆ ได้เสื้อแจ็คเก็ตผ้าไหมฝรั่งเศสเนื้อเบามาหนึ่งตัว สีอมม่วงน้ำเงิน สวยมากค่ะ ใส่แล้วไม่เสียใจ แต่ที่มีความสุขคือเดินตลาดผลไม้ ซื้อผลไม้มาตุนในตู้เย็น เช่นเชอรี่ พีช อร่อยดี
เราต้องลงทะเบียนเข้าไปดูหนังวันแรกที่มีพิธีเปิด และเข้าไปอีกทีวันมีพิธีปิด รวมทั้งไปงานกลางคืนที่มีดินเนอร์พาร์ตี้ แล้วจุดพลุกันสนุกสนาน สวยงาม เราไปนั่งร่วมโต๊ะกับเอเจนซี่จากชาติแสกนดิเนเวียนค่ะ ซึ่งมากันมากเลย
Cannes Festival
25/07/2006 12:31 Posted by creativegirl in France
Special Thank: For Nice BLOG Creadit Link: http://blog.trekkingthai.com/creativegirl/2006/07/25/camping-cannes-festival/
25/07/2006 12:31
Posted by creativegirl in France
กรกฎา ทำให้นึกถึงปารีสค่ะ ขอเล่าความเดิมเมื่อไปฝรั่งเศสครั้งแรก
ตอนนั้นดิฉันเป็นครีเอทีฟกรุุ้ปเฮด ตำแหน่งภาษาไทยไม่มี ขืนแปลผู้ฟังจะ้ปวดหัวเปล่า เราเรียกง่ายๆว่ากลุ่มหัวค่ะ คือแทนที่จะทำงานเป็นคู่ก็กลับต้องมีลูกน้องให้ปกครองปวดหัว ก้เรียกว่าปวดหัวเป็นกลุ่มๆ ได้รับรางวัลจากเอเจนซี่เพราะทำงานหนัก หัวหน้ารักใคร่และลูกค้าชื่นชม ด้วยการส่งไปเที่ยวเมืองคานส์ ออกเสียงจริงๆภาษาฝรั่งเศสก็ ..เมืองกานน์ค่ะ
เรียนโทภาษาฝรั่งเศสมา พอถึงวันต้องใช้จริงๆก็รู้ว่า แค่อ่านออก แต่ฟังทีวีจับความแทบไม่ได้เลย ไม่เหมือนภาษาอังกฤษซึ่งได้ใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เราลงเครื่องที่สนามบินในปารีส แล้วนั่งรถใต้ดินจากสนามบินมาโผล่ที่กลางกรุงเลย
บอกเสียก่อนว่าดิฉันน่ะ ไม่สามารถเรียกเมืองนี้ว่าแพรีสหรอกนะคะ นักเรียนไทยที่นั่นคนไหนไม่เรียกปารีส อยู่ๆไปก็รู้เองว่าเด๋อ..บรรพบุรุษเราเรียกกรุงปารีส กรุงลอนดอนมา ลูกหลานจะมาดัดจริตเปลี่ยนมันจะกระไรอยู่ เหมือนฝรั่งเรียกเราตามสำเนียงตัวเองว่าแบงค่อก ทำยังไง้ก็ไม่บางกอก นายกฯทุกกคนยังไม่มีใครบ้าจี้ไปบอกให้ฝรั่งหันมาเรียกว่ากรุงเทพ ยกเว้นฝรั่งที่มีเมียไทย
กรุงปารีสเช้าๆเหงาชมัด ดูยิ่งใหญ่ ทันสมัย แทรกความขลังอลังการ เรากำลังมะงุมมะงาหราตามแผนที่ที่เพื่อนชื่อยายเพชรติดมือมา หัวหน้าเราชื่อวุธ กับน้องชายชื่อวิทย์ซึ่งติดมาด้วย แล้วก็มีเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก ตี๋แบบตาสองชั้น มารับเพชรเพื่อไปอะปั๊ทเตอมองต์ที่จองไว้ เพชรบอกว่า มาปารีสอยู่โรงแรมไม่ไหว มาสี่คนไปอยู่อะ๊ปั๊ทเตอมองต์จะคุ้มกว่า
แล้วก็เหมือนอยู่บ้านเลย นอนกันสบาย แต่ไม่ค่อยได้มีเวลานอนเท่าไรนัก คุณวุธนั้นเคยมาแล้ว และไม่อยากไปไหน ส่วนยายเพชรคนสวยซึ่งเป็นกลุ่มหัวเหมือนกันก็ไปกับน้องชาย ดิฉันมีหน้าที่พานายวิทย์เที่ยว โธ่ มีแผนที่เมทโทรอยู่ในมือแล้วขอเวลาวันเดียวก็ปรุ
นายวิทย์เป็นน้องที่ดีมาก สุภาพ สนุก เชื่อฟังเป็นอันดี มาสายศิลปะค่ะ พูดกันรู้เรื่องพี่ว่าไงก็ว่าตามกัน ดิฉันพยายามทำเวลามาก ตื่นเช้าคว้าแผนที่และเล่าเรื่องประวัติเมืองปารีสและสถานที่สำคัญให้ฟังแล้วก็ตกลงกันว่าจะไปไหนบ้าง
เบสิคของคนที่มาปารีสครั้งแรก ก็ต้องตามสูตร เราไปแวร์ซาย ดูจนเกือบอ้วก เพราะทั้งใหญ่และสวยจนน่าเบื่อ รูปฝาผนังแล้วฝาผนังอีก สวยๆๆๆๆ น่าตื่นเต้นจนเบื่อๆๆๆๆ แต่ความที่หิววิญญาณฝรั่งเศส เพราะเรียนมามาก แต่ความรู้จริงๆแล้วคืนครูไปหมด เลยต้องดูค่ะ สังเกตนายวิทย์เริ่มเบื่อแล้ว
พออกมาที่สวนตุยเลอรี และตริอานง กลับมีความสุขกว่า ดิฉันสงสัยว่าตัวเองคงเป็นสาวคันทรี่ ชอบและชินกับต้นไม้ มากกว่าในพระราชวังอันหรูหรา
ถ่ายรูปให้นายวิทย์ตลอด รูปออกมานายวิทย์ดูหล่อมาก แต่พอมาดูรูปของตัวเอง ร้องจ๊าก บนหัวมีช่องว่างกว้างเกิน แขนขาด ต้นไม้เอียง คอมโพสไม่เอาไหน
เลยบอกว่า นี่ น้องวิทย์ ขอร้อง หัดรู้จักheadroomและcompositionบ้าง จบศิลปะมาได้ไง
ตอนหลังน้องวิทย์กลายมาเป็นลูกน้องดิฉันค่ะ ที่รู้งานมากจนดิฉันโปรโมทให้เป็นกลุ่มหัวและแอสโซ ซึ่งย่อมาจากแอสโซชิเอท น่ะ
ทำให้ลูกน้องหนุ่มอีกคนที่จบจากฝรั่งเศสเสียใจ
วันที่ติดใจคือไปลูฟวร์ ดูจนหมดสภาพอีกเหมือนกัน ครั้งหลังที่ไปลูฟวร์อีก เริ่มจับทางถูก บอกเพื่อนรักที่ไปด้วยว่า เลือกดูอย่างเดียว ที่คิดว่า ไม่ได้ดูแล้วจะตายให้ได้ ดูแบบช้าๆ สบายๆ แล้วมีความสุขค่ะ
ดิฉันพาวิทย์ ตามเก็บแหล่งท่องเที่ยวต่างๆแบบใช้เมทโทรเป็นพาหนะ ไม่ค่อยได้เดินมากเหมือนเที่ยวหลัง ที่แสนจะสบายและอยู่ตัว
วิธีเที่ยวปารีสอีกแบบที่ลอง คือล่องแม่น้ำ แต่ว่าบางจุดก็ต้องเดินนะคะ คนเก่งปารีสมีเยอะ ดิฉันแค่ไปดมๆตามประสา เพราะจุดหมายจริงๆคือไปเมืองกานน์น่ะ ไปดูเขาประกวดโฆษณากัน ค่าลงทะเบียนแพงมาก ไม่อยากรู้ เพราะบริษัทจ่าย รวมถึงโรงแรมก็ให้อยู่ที่ๆคลาสสิคมาก คือritz carlton
เพชรกับดิฉัน แยกกันนอนคนละห้อง ห้องนอนก็ใหญ่ซะไม่มี ห้องน้ำกับห้องนอนเล่นไล่จับกับเล่นซ่อนหากันได้ค่ะ แอร์เย็นเฉียบ คืนหนึ่งไม่สบายมาก ปวดศีรษะ กินยาเสร็จต้องไปนอนกับเพชร ..หลับสนิทเลย ตื่นมาหายเป็นปลิดทิ้ง บางทีดิฉันก็อ้อนเพื่อนเป็นเหมือนกันค่ะ
จากปารีสนี่ มากานน์เราต้องบินไปลงนีซนะคะ แล้วนั่งรถมาอีกต่อ
เมืองกานน์ที่ดิฉันเห็น รู้สึกว่า ก็แพงดีค่ะ อาติโช้กอร่อย เพชรเขามีแฟนฝรั่งอยู่แล้วจึงแกะกินสบายใจทีละกลีบๆ คุ้นๆ ส่วนดิฉันนั้นชอบอาหารฝรั่งเศสเพราะสมัยเรียน ได้อาจารย์ดี หัดให้เรารู้จักชื่นชมศิลปะในอาหารฝรั่งเศสมาก่อน ยังไงก็ตาม วันที่สอง ก็ชวนวิทย์ คุณวุธ และเพชรไปหม่ำอาหารเวียดนามและลาวกัน โอ๊ย..อร่อยดีเด้อ ได้พูดไทยกับเจ้าของร้านด้วย
วันนั้น ฝรั่งเศสแข่งบอลโลกกับบราซิล ปรากฎว่า ฝรั่งเศสชนะ เมืองกานน์ทั้งเมืองมีชีวิตชีวาฉับพลัน.. ไปผับไหน ได้เฮกันลั่น คนฝรั่งเศสออกมาขับรถเปิดประทุนฉุยฉายทั่วเมือง โดยเฉพาะถนนริมหาด สาวไทยก็มันไปกับเขาด้วยค่ะ
เรื่องของแฟชั่น อยู่ในจิตวิญญาณของเพชร เธอจะใช้เวลาเดินดูของนานมากๆ ดิฉันซึ่งไม่ชอบซื้อของเลย แต่ไปบ้าอย่างอื่นแทน เดินๆเบื่อๆ ได้เสื้อแจ็คเก็ตผ้าไหมฝรั่งเศสเนื้อเบามาหนึ่งตัว สีอมม่วงน้ำเงิน สวยมากค่ะ ใส่แล้วไม่เสียใจ แต่ที่มีความสุขคือเดินตลาดผลไม้ ซื้อผลไม้มาตุนในตู้เย็น เช่นเชอรี่ พีช อร่อยดี
เราต้องลงทะเบียนเข้าไปดูหนังวันแรกที่มีพิธีเปิด และเข้าไปอีกทีวันมีพิธีปิด รวมทั้งไปงานกลางคืนที่มีดินเนอร์พาร์ตี้ แล้วจุดพลุกันสนุกสนาน สวยงาม เราไปนั่งร่วมโต๊ะกับเอเจนซี่จากชาติแสกนดิเนเวียนค่ะ ซึ่งมากันมากเลย
Cannes Festival
25/07/2006 12:31 Posted by creativegirl in France
Special Thank: For Nice BLOG Creadit Link: http://blog.trekkingthai.com/creativegirl/2006/07/25/camping-cannes-festival/