Wednesday 23 April 2008

Dreams : จบสื่อสารมวลชน ปัจจุบันเป็นผู้กำกับโฆษณาหลายๆตัวโดยเฉพาะ UBC และอยากเป็นผู้กำกับหนังrate PG13 (มาคนเดียว).

LINK: http://tukmeng.spaces.live.com/?_c11_BlogPart_BlogPart=blogview&_c=BlogPart&partqs=amonth%3D9%26ayear%3D2005
30 กันยายน
It' s My Turn...!!!
สิ้นเดือนแล้วครับ จริงๆเงินเดือนผมออกไปตั้งแต่วันที่27แล้วแหละ
แต่ว่าวันนี้ถือเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนซึ่งจะมีปาร์ตี้ของชาวฟิตเนส
จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เจ้ามือก็จะหมุนเวียนไปตามความอาวุโส
และก็ถึงคิวของผมแล้วครับ หลังจากคราวที่แล้วไปกินของเค้ามาแล้ว
เดือนที่แล้วเจ้ามือเค้าพาไปเลี้ยงที่โรงเบียร์เยอรมันคันทรีเพลสรังสิตครับ
ที่นี่จะมีวงโปงลางสะออนไปเล่นทุกคืนครับตั้งแต่เวลา5ทุ่ม-ตี1ครับ
งวดนั้นมีค่าใช้จ่ายกว่า4พันบาท หาร2 เพราะมีเจ้ามือ2คนครับ
วันนี้ผมจัดเลี้ยงที่ร้านคาราโอเกะแถวๆที่ทำงานนี่แหละใกล้ดี
อีกอย่างคืออยากร้องเพลงมาตั้งนานแล้วแหละ...ชอบๆ
ไว้จะกลับมารายงานค่าใช้จ่ายอีกทีละกันครับ

กลัวจังเยย16:42 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog29 กันยายน
First Landing...(Live!!!)
อย่างที่บอกในหัวเรื่องครับว่าเป็นการLandingแรก
ของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเที่ยวบินนี้มีท่านนายก
โดยสารมาด้วยแต่ที่จริงแล้วA340ลำนี้ไม่ได้มาลงเป็นครั้งแรก
เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการซ้อมก่อนแล้ว
พูดถึงA340ก็ต้องบอกว่าใหม่สุดในการบินไทยล่ะครับ
เที่ยวบินที่ใช้จริงๆก็คือกรุงเทพ-นิวยอร์ค
แต่ถ้าอยากนั่งโดยไม่ต้องไปนิวยอร์คล่ะก็
แนะนำให้ไปเที่ยวเชียงใหม่โดยขากลับกรุงเทพ
จะมี Flight นึงที่เป็นเครื่องA340บินมาจากNewyork
และแวะรับส่งผู้โดยสารที่เชียงใหม่
ซึ่งสามารถเช็คได้ที่เว็บไซด์การบินไทย(ซึ่งนั่งมาแล้วแหละอิอิ)
เครื่องใหม่และก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย
(มีภาพประกอบที่ Photos "Going Nowhere II" ด้วยครับ)
วันนี้เลยขอร่วมเห่อสนามบินใหม่หน่อยเหอะ
เพราะว่าต้องไปอยู่(ทำงาน)ในอนาคตอันใกล้นี้แร้วครับ
ที่จริงจะว่าไปแล้ว พิธีเปิดวันนี้เหมือนการเปิดเอาฤกษ์ซะมากกว่า
จะได้ใช้ก็ปาไปปลายๆปีหน้านู้น ไหนจะต้องมีการทดสอบอะไรอีกมากมาย
บริษัท-องค์กรต่างๆก็ต้องเคลื่อนย้ายเครื่องมือเครื่องไม้ของตัวเอง
ซึ่งถ้าไม่ได้เดดไลน์ที่แน่นอนก่อนแล้วล่ะก็ มีหวังเป็นได้วุ่นวายกันแน่นอนครับ
เพราะยังไม่มีใครสามารถกำหนดได้เลยในวันนี้ แม้แต่ตัวนายกเองก็ตามเถอะ
ก็คงต้องรอกันต่อไปสำหรับสนามบินที่ใครๆต่างจับตามอง
น่าสนใจตรงที่ว่า โปรเจคสุวรรณภูมิหรือที่เราได้ยินมานานว่าหนองงูเห่านั้นใช้เวลา
กว่า45ปีตั้งแต่เริ่มคิด จนกระทั่งมาเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้
(แม่เจ้าโว้ยยยย...เมืองไทย)
เอ้าๆ ช่วยๆกันเห่อหน่อยเร้วววว18:22 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog28 กันยายน
Today Wednesday...
แบบว่าเหนื่อยมากๆ
ขณะนี้เวลา20นาฬิกา10นาที
ยังอยู่ที่ทำงานอยู่เลย...ล่วงเวลาน่ะ
เช็ค ชุดKITของเครื่อง747 ที่จะเอาไปเปลี่ยนใหม่แทนชุดเดิม
มีชิ้นส่วนมากกว่า1,000รายการที่ตต้องผ่านสายตาข้าพเจ้า
อยากบอกว่าตาลายมากๆเลยครับ
เพราะต้องเช็คแข่งกับเวลาเนื่องจากต้องการใช้ด่วน
หน่วยงานตรวจรับอย่างผมเลยต้องเร่งตรวจและรับให้ได้ทันกำหนด...
พรุ่งนี้ครับ(รีบโคตร) แต่ก็เช็คไปได้มากกว่า90%แล้วแหละ
พรุ่งนี้ค่อยเช็คต่อ

ม่ายหวายแร้วววววววว......คร้าบบบบบบบ
ลาเลยดีกั่ว20:17 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog26 กันยายน
The World Is Full of Crashing Bores...
ถามว่าอัพเดทBlogครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?
คำตอบก็อยู่ข้างล่างนี่เอง 19SEPคือวันจันทร์ที่แล้วอ่ะนะ
สัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์แห่งความโศกสลดสิ้นดี
เมื่อได้ทราบข่าว2นาวิกโยธินถูกฆ่าเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมทารุณ
ถูกพันธนาการและมิอาจปัดป้องขัดขืนได้ แถมเป็นพื้นที่ที่นายทหารทั้ง2
อยู่ร่วมกับชาวบ้านมาเป็นเวลานานซึ่งน่าจะคุ้นเคยกันดี
แต่ทำไมจุดจบมันเกินกว่าจะเชื่อว่านี่เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย!!!
ผมไม่โทษชาวบ้านตันหยงลิมอ
แต่ผมขอประณามกลุ่มผู่ลงมือโดยไม่ขอนำเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้อง
เพราะหากเรามีความเชื่อร่วมกันว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนทำดีแล้ว
เราก็ควรที่จะไม่คิดถึงความแตกต่างตรงนั้น
ในเมื่อมนุษย์ทุกคนในโลกมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน
หากมีหนทางต่างกันเท่านั้นเอง.......
และถ้าถามผมว่าอยากมีงานศพที่มีเกียรติยิ่งเทียบงานของทั้ง2ท่านนั้นหรือไม่
คำตอบก็คือ...อยากมากๆแต่...ผมคงปฏิเสธที่จะมีฉากจบเช่นนั้นแน่นอน
จึงอยากสดุดีท่านผู้เสียสละทั้ง2 ผมมิอาจเทียบเคียง
และขอให้ท่านจงไปสู่สุขคติด้วยเทิด

เรื่องสลดที่2เกิดแถวบ้านนี่เอง
เพราะไม่น่าเชื่อว่าฝนหยุดตกมาเป็นอาทิตย์แล้วแต่ว่า...............
ถนนทางเข้าหมู่บ้านผมยังเจือกมีน้ำท่วมขังอยู่เลยแถมเริ่มเหม็นเน่า...
"บ้าที่สุดดดดด!!!"
ได้ทราบข่าวทีหลังว่าแถวรอบๆสนามบินหนองงูเห่า(สุวรรณภูมิ)ท่วมขังกันไปตามๆกัน
เหตุเพราะในการสร้างสนามบินนั้นต้องถมหนองน้ำซึ่งเคยใช้เก็บกักน้ำกรุงเทพมาก่อน
และตัวสนามบินเองก็ทำหน้าที่เสมือนเขื่อนกั้นทางน้ำไหลอีกด้วย...เยี่ยมจริงๆ(พับผ่าสิ)
นี่ถ้าฝนไม่ตกขนาดเมื่ออาทิตย์ก่อนก็คงไม่รู้ว่ามีเรื่องบัดสบแบบนี้...โดยมีทางแก้ไขที่ว่า
จะขุดคลองระบายน้ำเพิ่มแต่...
"เมื่อไหร่จะเสร็จล่ะครับเพ่!!! แค่สนามบินพี่ยังเอาตัวไม่รอดกันเลย"
ซึงผมได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังครั้งนี้ไปแล้วเต็มๆคือ
1. น้ำเข้ารถทางด้านล่าง(เพิ่งรู้ว่าน้ำเข้าได้)
2. รถเหม็นเลยต้องอาศัยฉีดน้ำหอมดับกลิ่นเอา(เสียตังค์อิก)
3. ต้องขับรถเข้า-ออกหมู่บ้านทางด้านหลังซึ่งใช้ระยะทางมากกว่าเดิม12กิโล
(เปลืองน้ำมันมากขึ้นอย่างแน่นอน)
"ฟักออฟที่สูดดดดด"

เรื่องสลดที่3 เป็นข่าวพายุริต้าพัดเข้า'เมกา
แต่ข่าวที่ได้รับกลับเป็นคำเตือนเรื่องราคาน้ำมันจะขึ้นอีกเพราะมีโรงกลั่นน้ำมัน
ในแถบที่พายุจะเข้า............................................................
...นี่มันเข้าข่าย...."ใกล้จะบ้าเข้าไปทุกทีแล้วนะครับท่านผู้ชม!!!"
เมื่อคืนคุยกับพ่อเรื่องติดถังแก็สเป็นรอบที่13
ถามไปว่า "ขอติดแค่หมื่นสามได้ปะ?"
คำตอบที่ได้รับมีการอ้างอิงถึงระบบความปลอดภัยเล็กน้อยว่า
"แล้วถ้ามันเอาถังเก่ามาติดให้ล่ะ...เอาปะ?"
หูยยยยย...เซ็งเรยยยย

นี่แค่เรื่องน่าเศร้าและน่าเซ็งหลักๆที่เกิดขึ้นกับผมในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมานะครับ
ไม่นับเรื่องท้องผูก-แม่งอน(แม่-งอน ไม่ใช่ แม่ง-อน นะครับ)
ตังค์ไม่พอใช้...อ้อ!!!ใช่สิมีเรื่องบอลแพ้อีกด้วยครับ
พี่แมนยูแพ้คาบ้านต่อทีมแปล็คเบิร์น 1-2 อุบาทว์เลยครับเพราะลูกที่2นั้น
เล่นพลาดกันเอง ถึงกะนอนไม่หลับไปเลย

แต่ก็ไม่ใช่จะมีแต่ความเซ็งนะครับ มันยังพอจะมีเซอร์ไพ้รซ์อยู่บ้างละครับ
ก็เมื่อเย็นวันศุกร์ได้ไปเดินเซ็น-พร้าว(เซ็นทรัล+ลาดพร้าว)ครั้งแรกในรอบ4เดือน
ก็ได้พบสาวน้อยนางนึง เธอใส่ชุดนิสิต กะลังเดินออกมาจากห้องน้ำ
เพื่อกลับเข้าไปในร้านอาหารที่ผมและเพื่อนกะลังเข้าไป
"เฮ้...น้องยุ้ย...!!!" ผมทักน้องคณะคนนั้นโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เจอกันใน
สถานที่เช่นนี้(ห้าง) เราต่างแปลกใจเล็กน้อยและพูดคุยถึงความเป็นมา
ก่อนที่จะแยกย้ายไปประจำที่ของแต่ละคน

ซึ่งเรื่องแค่นี้ผมก็ถือว่าเป็นความสุขและสีสันอย่างหนึ่งของชีวิตแล้วครับ
การที่ได้เจอกับใครสักคนที่เรารู้จักหรือรู้สึกดีๆด้วยบนพื้นโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล
มันเป็นความน่าจะเป็นที่มีเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้น้อยเหลือเกิน
การที่เรามีชีวิตร่วมกับคนหลายล้านคนบนโลกใบนี้
แม้ว่าในหนึ่งวันเราจะได้พบได้เจอคนมากมาย
แต่คนเหล่านั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับต้นหญ้าหรือแมลง
ที่เราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากมาย
ฉะนั้นการมีเพื่อนมีคนที่เรารู้จักผูกพันด้วยนั้น
มันจึงช่วยแต่งเติมให้ชีวิตคนเรามีสีสันมากขึ้น
ไม่งั้นผมคงไม่มีเรื่องอะไรจะมาร่ายยาวซะขนาดนี้หรอก...จริงไม๊ล่ะ




18:14 เพิ่มข้อคิดเห็น อ่านข้อคิดเห็น (1) ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog19 กันยายน
Dude Sweet on Friday Night...
เอ่อ...ไม่ได้อัพเดทมา2คืนก็เลยขอเหมาลงวันนี้ทีเดียวเลยละกัน
ก็จะเน้นคืนวันศุกร์เป็นส่วนหย่ายและแถมอัลบั้มรูปให้อีกอัน(ลงทุนสุดๆ)
ก็จบลงอย่างเมามันส์กับปาร์ตี้ DudeSweet ที่รอคอย
งานนี้เราโทรชวนทั้งเพื่อนมัธยมปลายจนถึงมหาลัยเลยทีเดียว
ก่อนอื่นต้องเกริ่นนิดนึงว่าปาร์ตี้นี้เค้าจะเปิดแต่
เพลงแนวอินดี้อัลเทอร์นาทีฟจากฝั่งอังกฤษเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งจะหาฟังตามผับทั่วไปไม่ค่อยได้
(หาฟังยาก...ที่เปิดบ้างอีกที่ก็มีParking Toys)
มีดีเจของDude'เปิดตลอดทั้งคืนแต่จะเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆเดือนละครั้ง
เพลงที่เปิดส่วนใหญ่ก็รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง
แต่เป็นเพลงจังหวะมันส์ๆโดดๆเด้งๆได้
เราไปถึงร้านแต่หัวค่ำ(2ทุ่มกว่าๆ)พร้อมอาร์สและแฟน
ฝนตกโปรยลงมาให้รำคาญเล่นๆซะงั้น คนยังไม่มาเท่าไหร่ตอนนั้น
จะมีก็แต่กลุ่มผู้จัดและเพื่อนพ้องซะมากกว่าเลยยังไม่ต้องซื้อบัตรผ่านประตู
และได้โต๊ะที่ใกล้ฟลอร์ที่สุดด้วย
นั่งคุยซักพักเจ้าเอ๋เพื่อนที่เกษตรก็มา มีคนทยอยมาเรื่อยๆ
ดีเจเปิดเพลงคลอไปไม่ให้ร้านเงียบ
นั่งคุยกันไม่เท่าไหร่มารู้สึกตัวอีกทีประชาชนก็เต็มร้านซะแล้ว
ดีเจเริ่มเปิดเพลงในจังหวะที่เข้มข้น
ประชาชนก็เริ่มเต้นและกระโดดตามอย่างบ้าคลั่ง
ยิ่งเพลงไหนถูกใจกลุ่มไหน กลุ่มนั้นก็จะร้องและเต้นอย่างสุดเหวี่ยง
แม้คนจะเบียด อากาศจะร้อนสักเพียงใด
ก็ดูเหมือนจะไม่ทำให้ความสนุกลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้นตามความดึก
ประมาณว่ายิ่งดึกยิ่งแด๊นซ์

พอ5ทุ่ม...เพื่อนปุ๋ย(แหลม)ก็มาถึงพร้อมกับหยุย
ปุ๋ยเป็นเพื่อนมัธยมที่มีลักษณะนิสัยอย่างที่เห็นในอัลบั้มแหละครับ
นั่นคืออารมณ์สนุกเค้าหล่ะคืนนั้น...แต่ถ้าวันไหนอารมณ์บูดขึ้นมา
หน้ามันจะมองดูคล้าย"อ้น-อีน"อย่างแยกแยะไม่ออก
(อิอิพูดจริงๆนะเพื่อนๆยืนยัน)
และแล้วเพื่อนต่างกลุ่มของเราก็ได้มาจอยกันในปาร์ตี้Dude-Sweetนี้นี่เอง

มีใครบอกไว้ว่าเราสามารถใช้ดนตรีเชื่อมสัมพันธ์ได้และมันก็จริง
คนที่มาในคืนนั้นมาร่วมเสพเสียงเพลงที่พวกเค้าชื่นชอบกันจริงๆ
ไม่มีกรณีเหยียบเท้าแล้วมีเรื่องเหมือนอย่างในผับอื่นๆ
ไม่รู้ว่าบรรยายอะไรต่อแล้วอยากให้ดูรูปมากกว่า
เพราะมันได้อารมณ์กว่าเยอะ
ก็คงได้แต่เฝ้ารอปาร์ตี้ครั้งต่อไปอย่างใจจดจ่อ
และก็ไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะมากันอีกหรือเปล่า
เพราะเกรงใจที่มันไม่ใช่เพลงที่คุ้นหูอ่ะนะ
ล่าสุดอาร์สรับปากว่าจะไปปาร์ตี้หน้าด้วย
และไอ้แหลมก็ไม่น่าพลาด
ไอ้ไก่ที่อยู่ลอนดอนย้ำให้ถ่ายรูปงานให้มันดูด้วย
และก็ได้ทำให้แล้วนะเฟ้ย
(หวังว่าเอ็งกลับมาเมื่อไหร่ไว้เราไปกัน...ห้ามเบี้ยว!!!)

เมาไม่ขับ หลับในปั๊มดีที่สุดครับ ท่านผู้โชม....มมมมมม
18:43 เพิ่มข้อคิดเห็น อ่านข้อคิดเห็น (1) ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog16 กันยายน
A Couple Hours To Go
ยังไม่ถึงเวลาดีพี่ก็กรึ่มๆพอได้แร้วววว
วันนี้มีนัดกะเพื่อนไปปาร์ตี้ DudeSweet แถวๆซอยหลังสวน(ลุม) ได้อารมณ์สุดๆแร้วตอนนี้
เพราะมีงานเลี้ยงเกษืยณึคั่นเวลา เบียร์สิงห์ไม่รู้กี่แก้วที่ตกลงท้อง กะว่าเข้าร้านแล้วไม่ต้องสั่งเพิ่มก็กลมกลืนสุดๆ ขออย่างเดียว...ขอไม่ให้ฝนตกเป็นพอ ไม่งั้นเละแน่เรย
ไว้จะถ่ายรูปในงานมาอวดละกันนะจ้ะ ตอนนี้ขอทำใจนิดนึงเด๋วจะได้บึ่งไปซอยหลังสวนในบัดดล นัดเพื่อนๆไว้แล้วเจอที่นั่นเลย งานนี้ไม่รู้เป็นไง แต่เมารอไปแล้ว...สู้เค้า...เมาไมขับ
เพี้ยง...!!! ขออย่าให้ฝนตกเรยนะคร้าบบบบ ไม่รู้จะเรียกใครมาช่วยปักตระไคร้...เฮ้อ...

See Ya...
16:39 เพิ่มข้อคิดเห็น อ่านข้อคิดเห็น (1) ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog15 กันยายน
Yesterday Morning...
เฮ้ย...!!! น้ำท่วมหน้าบ้าน
เป็นคำอุทานที่ค่อนข้างจะฮิตในช่วงนี้
พยายามกระเสือกกระสนขับรถออกไปทำงานท่ามกลางห่าฝนและน้ำท่วมขัง สักพักใด้ยินเสียงผู้โดยสารท่านนึงตะโกนมาว่า"พี่เหม่ง....งงงง น้ำเข้ารถ!!!"
มองเห็นน้ำนองที่วางเท้าคนนั่งหลัง "บ้า...จริงๆ" (พยายามอุทานอย่างสุภาพแต่ในใจคิดถึงคำว่า"เอี้ย...แล้ว") งุนงงว่ามันเข้ามาได้ไง หลังจากส่งน้องสาวที่โรงเรียนเลยตัดสินใจขับกลับบ้าน ไม่สนใจแล้วงานเงิน ขอกลับไปวิดน้ำออกจากรถก่อนเถอะ
น้องชายก็เลยถือโอกาสไม่ไปทำงานด้วยเช่นกัน จัดแจงวิดน้ำออกจากรถและฝนก็ยังตกหนักอยู่ดี พอเสร็จกิจกะว่าจะขึ้นไปนอนอยู่แล้วเชี้ยววววแม่ชวนกินกาแฟ(หลับไม่ลง) แถมมีภารกิจฉุกเฉินคือออกไปซื้อทรายมา5กระสอบทำเขื่อนกันน้ำเข้าบ้าน(คิดดูว่ามันตกหนักจริงๆท่านผู้ชม) สาละวนกับการทำเขื่อนและก็วิดน้ำ "เฮ้อ...อะไรวุ่นวายขนาดนี้" ดูข่าวที่ว่ามีดีเปรชชั่นเข้าไทย ฝนตกแทบทุกอณูของประเทศชาวนาชาวไร่ได้ยินดีปรีดากันถ้วนหน้า แต่..ที่นี่คือกรุงเทพ...ฝนตกทำให้รถติดทั่วทุกหัวระแหง นึกในใจว่าดีแล้วแหละที่ไม่ไปทำงานไม่งั้นเซ็งรถติดแย่เลย(แถมเสี่ยงต่อการสายอิก)
แต่ปรากฏว่าอยู่บ้านก็ไม่ได้นั่งนอนดูฝนตกที่หน้าต่างเหมือนอย่างในเพลงของพี่เสกแต่อย่างใด ต้องค่อยสังเกตเขื่อนอยู่ตลอดว่ามีน้ำทะลักเข้ามาหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องออกไปโกยออกโดยพลัน แต่ในความเหนื่อยล้ากลับได้ความภูมิใจในความเป็นลูกชายคนโตอยู่บ้างเหมือนกันนิ นี่ถ้าเราไปทำงานล่ะก็...แม่กะพ่อคงลำบากน่าดู เหอะๆๆๆอย่างน้อยก็ทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้บ้างล่ะว้างานเนี้ยะ.................

.....(อิอิอิ...ชาตินี้ได้ขึ้นสวรรค์แร้วววว)

ปล.เซ็งอิกคราเมื่อแมนยูทำได้แค่เสมอ0-0กับบียาร์ริลในศึกยูฟ่าฯ
19:33 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog13 กันยายน
My Mood Swing...
โผล่ขึ้นมาหายใจได้แล้ว...ไชโย้!!! พยายามไม่คิดถึงเรื่องงานเพราะวันๆก็มีแต่งานอยู่แล้ว คืนก่อนลองฝึกการออกเสียง มีคำบังคับอยู่3คำได้แก่ "รักนะ, คิดถึงนะ, ฝันดีนะ" ฝึกพูดวนไปวนมาให้ได้อารมณ์ที่สุด (ฮ่า...แต่...ไม่ได้รมณ์เรย)
พอหลังจากพักกินข้าวเย็นก็ฝึกอิก คราวนี้ออกเสียงพร้อมทำหน้าตาประกอบ "รักนะ, คิดถึงนะ, ฝันดีนะ" มองกระจกดูตัวเอง (ฮา...) แล้วก็ถอนหายใจดัง"เหื้อก...ทำไปได้"
เรื่องของเรื่องคือ...ไม่ได้ทำแบบนี้มาตั้งนาน "กลัวจะลืม..." แต่พอลองทำดูมันก็ไม่ได้อารมณ์เอาซะเล้ย...พับผ่า
ช่วงนี้ค่อนข้างเซ็งๆ มีสาเหตุมาจากเมื่อคืนวันเสาร์นั่งดูแมนยูเตะกะแมนซิตี้แล้วเกิดอารมณ์อึดอัด นึกในใจว่า"เล่นกันแบบกลัวเจ็บยังไงก็ไม่รู้...รึไม่ก็อาจจะกลัวภรรยาจะไม่ให้เข้าบ้านหากชนะในนัดนี้" ผลออกมาเลยเสมอกันไป1-1 เล่นได้ไม่แมน(ยู)เอาซะเลย...(ขัดใจถึงกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว) แก้เซ็งโดยการชวนน้องชายเล่นเกมWinning Eleven(เกมฟุตบอลของPlay Staition2) กลับเซ็งหนักกว่าเก่าเพราะเล่น6เกม ชนะได้แค่2...(บ้าที่สุด)
กะว่าคืนนี้เลิกงาน3ทุ่มจะรีบกลับไปลุยกะน้องชายให้มันนอนไม่หลับดูบ้าง...เหอะๆ

สดจากดอนเมือง... 20:35 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog08 กันยายน
4 Days...
นั่งนับนิ้วตัวเอง จันทร์, อังคาร, พุธ, พฤหัส 4วันแล้วที่น้ำมูกยังคงรินไหลอยู่แม้อาการเจ็บคอจะทุเลาลง และคิดว่าคงจะหายในไม่ช้า (สา...........ธุ)
วันเวลายังคงเดินหน้าต่อไปตราบเท่าที่โลกยังหมุน ไม่มีคำว่า"รอ" สำหรับใครที่รู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางบนโลกใบนี้ วิกฤติต่างๆที่อุบัติขึ้นมันดูท้าทายมนุษยชาติยิ่ง จนบางครั้งรู้สึกว่า"มันมากเกินไปหรือเปล่า???" แต่ทุกๆปัญหาก็ดูเหมือนจะมีทางแก้ อยู่ที่ว่าจะเห็นรึไม่
การขู่ขึ้นราคาน้ำมันล่วงหน้าของปตท. ว่ามีสิทธิ์จะทะลุ30บาท/ลิตร มันช่างทำร้ายยยยยจิตใจชายโสดอย่างผมยิ่งนัก ทำกันอย่างนี้...สู้เอาหัวจ่ายมาสวนทวารผมยังจะดีซะกว่า
วันก่อนฝันร้ายมากๆ ฝันว่าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งแล้วเด็กปั๊มเติมน้ำมันจนล้น เราพยายามบอกให้หยุดมันก็ไม่ยอมหยุด ซ้ำร้ายเด็กปั๊มคนเดิมยังเจือกล้างรถให้...ด้วยน้ำมัน เมื่อสถานการณ์เลวร้ายลงผมจึงตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการสะดุ้งตัวเองตื่น (เฮ้อ...เหนื่อยพอๆกับฝันเห็นผีเลย...พับผ่าสิ)
คงได้เปลี่ยนไปใช้แก็สในไม่ช้าแน่ พ่อก็ถามเรื่อยๆว่า"เปลี่ยนไม๊...ใช้แก็สไม๊?" ถามมา4-5ครั้งแล้ว จนนึกสงสัยว่าพ่อคงได้เปอร์เซ็นต์จากร้านเป็นแน่
ทุกวันนี้ผมเห็นผลเสียของการเป็นโสดแล้วครับ
เป็นโสดก็ลำบากอยู่อย่าง...แบบว่ามัน

"ไม่มีคนมาช่วยหารค่าน้ำมันน่ะ...!!!"

ปล. อยากมีใครสักคนจังเยย16:49 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog06 กันยายน
Not Comfort(...Ahhhh)
ไม่สบายอ่ะ...น้ำมูกไหลยืดยาด นี่แหละนะเค้าว่าปวดหัวตัวร้อนยังไงก็ดีกว่าเจ็บคอ เพราะถ้าเริ่มเจ็บคอเมื่อไหร่เป็นเสร็จเจ้าหวัดจนได้น่า....
แถมวันนี้ปวดตาเป็นพิเศษเพราะต้องปั่นงานสรุปยอดรายปีส่งหัวหน้าหน่วย จบมะนุดศาสตร์แต่ต้องมานั่งบวกเลขเฮ้อ.....ไม่สุนทรีย์เลย
พอเลิกงานก็ลองหาลูกเล่นใส่บล็อคตัวเอง เข้าดูบล็อคคนนู้นคนนี้จนได้แนว...ขาดอย่างเดียวก็คือจะเอาเพลงมาใส่ยังไงว้า...? สุ่มไปสุ่มา...กว่าจะได้เรื่องก็ปาไป2ทุ่ม เย้.....
เอาจนได้แฮ่ๆ เหมือนเล่นต่อจิ๊กซอว์เลย"หนุกดีๆ...ชอบๆ"
ไม่ไหวๆเด๋วต้องพักผ่อนเยอะๆซะกะหน่อย คอแห้งมากๆไม่รู้ว่าเพราะไม่สบาย...รึเป็นเพราะระหว่างกลับบ้าน เปิด"EBOLA"คลอมาตลอดทางกันแน่นะ (ฮัมๆ)

หลับเถิดนะเรา23:48 เพิ่มข้อคิดเห็น อ่านข้อคิดเห็น (1) ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog My Update05 กันยายน
Reunion Party...!!!
"Reunion Party" ไปเมื่อหัวค่ำวันศุกร์ แต่กว่าจะสามารถยืนหยัดอย่างเต็ม2ขาได้ก็นู่น...ปาไปสายๆวันอาทิตย์
"สุดยอดดดดด..." (ประชดน่ะ) ที่ว่า"Reunion" ก็เพราะเป็นการพบกันระหว่างรุ่น13"มะนุด-กะเสด"
"วิทย์(นามสมมุติ)" จบสื่อสารมวลชน ปัจจุบันเป็นผู้กำกับโฆษณาหลายๆตัวโดยเฉพาะ UBC และอยากเป็นผู้กำกับหนังrate PG13 (มาคนเดียว)
"เอ๋(นามสมมุติ)" จบเอกดนตรีไทย เป็นอาจารย์สอนนักเรียนในระดับ ป.3-ม.5 ของสถาบันมีชื่อขึ้นต้นว่า
"โรงเรียนสวน_ _ _" (ไม่ใช่สวนกุหลาบ) ผู้นิยมสะสมบัตรเหล้ามากกว่าบัตรเครดิต (มาคนเดียว)
"อาร์ส(นามสมมุติ)" จากเอกการแปล เป็นฝ่ายขายบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังแห่งหนึ่งที่ผมมักจำสลับกับยี่ห้อชุดชั้นในสตรีที่ชื่อว่า"Maiden Form"อยู่เป็นประจำ (มากะแฟน)
ที่เหลืออีก2คนเป็นชายกะหญิง คาดว่าจะเป็นแฟนกัน ผู้ชายทำงานที่เดียวกับผม หญิงเป็นรุ่นน้องเอกเดียวกับผมก็ทำที่เดียวกับผมเช่นกัน
สถานที่นัดหมายคือ "PARKING TOYS"(อีกแล้ว) อาร์สกะผมไปถึงราวๆ2ทุ่ม ที่เหลือก็ทยอยๆกันมา บรรยากาศแบบเพื่อนสนิทคุยเรื่องสัพเพเหระ แด็นซ์กันเป็นที่สนุกสนาน มีเพื่อนบอกว่าหลายโต๊ะต่างจ้องมองมาที่โต๊ะเราแต่ก็ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกพวกเค้าได้ (ผมสังเกตเห็นผู้หญิงโต๊ะตรงข้ามยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพอาร์สขณะเต้นอย่างลืมตัว) ผมแวะชนแก้วทักกะเจ้าของร้านระหว่างเดินไปห้องน้ำเพื่อเป็นการยืนยันว่าคืนนี้สนุกมาก
เสียงแก้วในโต๊ะเราดังเรื่อยๆไม่ขาดระยะ ขวดหมดต่ออีกขวด ไม่มีใครในโต๊ะเราไม่ลุกขึ้นขยับ ทุกคนต่างวาดลวดลายอวดเอวตัวเองกันอย่างไม่ยอมน้อยหน้า จนกระทั่งจังหวะเพลงเปลี่ยนมาช้าลง พวกเราเลยได้หยุดหายใจดูความเรียบร้อยของแต่ละคน "คืนนี้เราเสียนักเป่าปี่ไป300คน" เมื่อเช็คบิลแล้วเราก็ต่างแยกย้ายกันไปโดยที่ผมไม่แน่ใจว่ามีการร่ำลากันรึเปล่า? โดยมีเพื่อนที่ทำงานชื่ออุ๋ม(นามสมมุติ)อาสาขับรถให้
จะมารู้สึกตัวได้อย่างเต็มที่อีกทีก้อ....นู่น....(ดูบรรทัดบนสุดนะ)
ค่ำคืนแห่งความดื่มด่ำระหว่างเพื่อนฝูงต่างเอกที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานก็ผ่านไปอย่างสนุกสนาน ผมนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งผมยังเรียนอยู่ที่เกษตร การที่ผมได้ร่วมกิจกรรมในคณะ ทำให้ผมได้เจอเพื่อนๆเหล่านี้และอีกหลายๆคน ผมจึงรู้สึกเสียดายระบบการรับน้องที่กำลังสูญหายไปทั้งๆที่มันมีอะไรมากกว่าการ"ว๊าก..."แท้ๆ
"เฮ้อ...(ถอนหายใจ)" ทำไมผู้ใหญ่สมัยนี้ใจแคบกันจังนะ
17:43 เพิ่มข้อคิดเห็น ส่งข้อความ ลิงก์ถาวร ดูการติดตามข้อมูล (0) จัดทำ Blog My Update02 กันยายน
When Happiness Is All Around...
ในชีวิต...คนเราต่างดิ้นรนหาความสุขไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะทุกข์สักเพียงใด...ผมว่าเมื่อคุณเหลียวมองรอบตัวคุณดีๆ ยังไงคุณก็จะต้องเจอกับความสุขอยู่บ้าง แต่ผมสงสัยจังว่า...เหล่าคุณครูที่ดูแลเหล่าเด็กนักเรียนตัวเล็กๆผู้ติดเชื้อHIVมาจากพ่อแม่นั้น เค้าทำใจอย่างไรเวลาที่เค้าสอนเค้าเล่นกับเด็กๆ โดยที่รู้ว่าเด็กๆที่น่ารักเหล่านั้นจะต้องจากไปในไม่ช้า ความรักความผูกพันในช่วงเวลาหนึ่งมันมากพอที่จะทำให้เกิดความสะเทือนใจได้มากอยู่....ถ้าเป็นผม ผมคงจะยิ้มได้ในยามที่เล่นกับพวกเค้า แต่คงไม่แน่ใจหากต้องมองที่ดวงตาอันบริสุทธิ์เหล่านั้นแล้ว...ผมจะเศร้าสักเพียงใด
เลยอยากรู้ว่า คุณครูที่ต้องอยู่กับเด็กเหล่านั้นมีสิ่งใดมากกว่ากันระหว่าง
ความสุข และ ความเศร้า
ปล. ขอบคุณรายการเจาะใจสำหรับภาพที่เห็นเมื่อคืน

LINK: http://tukmeng.spaces.live.com/?_c11_BlogPart_BlogPart=blogview&_c=BlogPart&partqs=amonth%3D9%26ayear%3D2005