Thursday 17 April 2008

Dreams : อยากเห็นเมืองฟ้า อยากเข้ามาแสวงหาโอกาส ในการเป็น ผู้ผลิตหนังพวกนี้ สรุปคืออยากเป็นผู้กำกับ ในชั่วโมงนั้นคุณน้าพันนาเป็น ฮีโร่ เป็นต้นแบบของผม


นานมาแล้ว…. ณ สังคมบ้านนอกห่างไกล ตัวเมือง เมื่อผมยังเป็นเด็ก
คือช่วงเวลาที่ผมวิ่งเล่นได้โดยไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก เป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวความสุขแบบเด็กๆที่งานวัดขนาดย่อมๆได้จัดขึ้น ทุกครั้ง เมื่อฤดูกาลหนังขายยามาถึง เด็กน้อยในหมู่บ้านต่างตั้งตารอคอย

“มาแล้ว !! มาแล้ว !! ยาถ่ายพยาธิ์ ตราลิงถือลูกชู้ สรรพคุณ แก้ร้อนในกระหายน้ำ….
….รถบริการฉายหนังของเราจะปักหลักนำความบันเทิงให้แก้พี่น้องชาวบ้าน…ที่ลานวัด….
ด้วยภาพยนต์สุดมันส์ ผลงานการกำกับและแสดงเองของ พระเอกนักบู้ภูธร พันนา ฤทธิไกร ”

เสียงจากโทรโข่ง ดังมาจากหลังคารถตู้สีขาวเก่าๆคันนึง ที่ขับกระจายเสียงไปรอบหมู่บ้าน และมาสิ้นสุดที่ลานวัดประจำหมุ่บ้าน เด็กในหมู่บ้าน ได้ยินเสียงก็รู้ได้ทันทีว่าที่คือความบันเทิงหมู่ที่พวกเขารอคอย เด็กในหมู่บ้านจะไปรวมตัวกัน เพื่อจะวิ่งเล่นกัน ในขณะที่ทีมงานฉายหนังได้ตระเตียมตั้งจอขอไฟ ทั้งป้าที่ขายลูกชิ้นลุงที่ขายของเล่นเด็ก ฯลฯ ต่างมาตั้งร้านแบบง่ายๆ บริเวณรอบๆจอหนังเมื่อถึงเวลาฉายหนัง พวกผมซึ่งเป็นเด็ก ก็ มาเฝ้ารอดู มันเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่สุดจะประทับใจด้วยอรรถรสของหนังและกลิ่นไอของน้ำค้างยามค่ำคืนแบบบรรยากาศบ้านน้อกบ้านนอก

เวลาผ่านเลยไป ทุกปีจะมีรถฉายหนังขายยาผ่านมาไม่เกินสองคัน จนผมเริ่มโตขั้น จึงเรียกมันว่าเป็นฤดูกาลของหนังฉายยาแต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ความเจริญเริ่มเข้าใกล้เด็กบ้านนอก แปรเปลี่ยนไปนิยมวัตถุกันมากขึ้น วีดีโอ ซีดี ก็เริ่มย้ำเข้ามาในหมู่บ้าน คนเร่ฉายหนัง ก็เริ่มลดน้อยลง จากปีละสองคันเหลือปีละคัน จนหลายปี จะมาซํกคัน จนเดี๋ยวนี้ไม่มีซํกคัน….

น่าเสียดายรสชาดความหอมหวานของวันวานที่แฝงไปด้วยเสน่ของความเป็นบ้านนอก ถูกวัฒนธรรมของคนในเมืองกลืนเข้ามา จากที่เคยรุ้จักกันทั้งหมุ่บ้านมาตอนนี้ คนแปลกหน้าเต็มหมุ่บ้าน แต่นี่ก็คงเป็นเรื่องปกติของสังคมที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ผมรุ้สึกมันโหดร้ายเกินไปหน่อยสำหรับอาชีพนักเร่ฉายหนังขายยา

หนังหลายเรื่อง มันโดนใจผม มันประจุดประกายความฝันของผม เป็นจุดเริ่มของความรู้สึกอยากเข้ากรุงเทพ อยากเห็นเมืองฟ้า อยากเข้ามาแสวงหาโอกาส ในการเป็น ผู้ผลิตหนังพวกนี้ สรุปคืออยากเป็นผู้กำกับ ในชั่วโมงนั้นคุณน้าพันนาเป็น ฮีโร่ เป็นต้นแบบของผมเลยก็ว่าได้ ผมคงไม่ต่างอะไรกับคุณจาพนม หรือเด็กบ้านนอกอีกหลายๆคนที่เมื่อได้ดูหนังของคุณน้าพันนาแล้วทำให้เขามีจุดหมาย หนังที่ผมดูแล้วประทับใจมาก จนต้องสัญญากับตัวเองว่าเมื่อโตขึ้นจะเข้ากรุงเทพ และทำตามฝันของตัวเองให้ได้ และเมื่อโตมา ความทรงจำเริ่มลางเลือน แต่ก็ยังคงจำความประทับใจเหล่านั้นได้ไม่เปลี่ยนแปลงและ ในหนังเรื่องนั้นเนื้อหา นักแสดง ยังคงติดตาผมมาโดยตลอดจนต้องตามหาซื้อมาเก็บให้ได้ ตามหามาหลายปีแต่ก็ไม่เจอ เป็นเพราะไม่รู้ชื่อเรื่อง แต่มีอยู่วันนึงผมจำไม่ได้ว่าที่ไหน ผมก็ไปเจอหนังเรื่องนี้ เป็นเพราะผมจำนักแสดงและท่าทางนักแสดงในหนังเรื่องนี้ได้ผมจึงแน่ใจว่า หนังที่ผมเจอเรื่องนี้คือเรื่องเดียวกันกับที่ผมตามหามาโดยตลอด

มันเป็นหนังในความทรงจำและจุดพลังให้ผม มาจนถึงทุกวันนี้ คงไม่น่าเชื่อว่าหนังเพียงเรื่องเดียวจะมีอิทธิพลต่อคนคนนึงได้ถึงขนาดนี้

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาผมก็แวะซื้อ มาเก็บอีกแผ่นนึง เป็นเพราะ แผ่นที่ผมซื้อเมื่อตอนนั้น ผมได้ให้พี่คนนึงยืมไปแล้ว

มาดูกันว่าเเป็นเรื่องอะไร