Wednesday, 16 April 2008

Dreams : ต้องทำยังไงถึงจะได้เป็นผู้กำกับ

Creadit Link: http://www.varasarn.net/board/index.php?topic=2371.msg52770
อยากเปนผู้กำกับไม่ยากมั้ง

ไปเป็นตลก

แล้วก็ดัง ๆ

เด่วเค้าก้อให้เปนมั้ง

ขำออกปะเนี่ยมุขนี้



เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าน้องยังเอ็นท์ไม่ติดคณะวารสาร นึกว่าเป็นลูกแม่โดม หนึ่งในรั้ว เหลืองแดงแล้วเสียอีก

ไม่เป็นไร จะเรียนที่ไหน ไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าความตั้งใจเราคืออะไรนะครับน้อง

ส่วนคำถามที่น้อง ส่งจัดหมายรัก เอ๊ย ลับมาหาพี่ให้ตอบนั้น ก็จะตอบนะครับ
เอาตั้งแต่เด็กเลยครับพี่เป็นคนชอบแสดงออกครับ และอีกอย่างชอบดูตลกคาเฟ่ครับ
ก่อนดูตลกคาเฟ่นี่แต่ก่อนที่บ้านซื้อตลกที่เป็นตลับเทปมาฟังครับ ฟังเป็นสิบรอบ ฟังแล้วก็จำครับ จำแล้วก็เอาไปร้องเล่น ทำเล่น จากนั้นก็เริ่มดูตลกวิดีโอ จาก ตะลุย ตลาด ตลก ครับ แล้วก็ดูมาเรื่อยๆ คลายเครียดครับ

นอกจากนั้นในขณะเดียวกัน พ่อพี่ก็ชอบเปิดเพลงลูกทุ่งกับสุนทราภรณ์ให้ฟัง พี่ก็ฟังมาเรื่อยๆ และชอบครับ มันเกี่ยวกันยังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

พี่เรียนวารสาร เอกวิทยุโทรทัศน์ครับ ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นผู้กำกับเลยจริงๆ ให้ดิ้นตาย อยากเป็นดีเจ ครับ ขอบอก แต่ก็ไม่ได้มุ่งมั่นไปในทางใดสักทาง
ตอนเขาทำละครคณะกันพี่ก็ไม่ได้ไปทำเลย มีแต่เล่นละครกับนักศึกษาศิลปศาสตร์ เอกการละครบ้าง เล็กๆ น้อยๆ

จบการศึกษามาก็ทำงานเป็นครีเอทีฟ เลยครับ แต่โชคดีได้ทำรายการตลกที่ต้องเขียนบทตลกเอง สั้นๆ และกำกับดาราและตลกไปด้วยพร้อมๆ กัน ตอนนั้นได้กำกับพี่จิ้มชวนชื่น กับน้องโก๊ะตี๋ ก็ทำมาเรื่อย แล้วพี่ก็ทำงานโน่นนี่นั่น แต่น่าแปลกใจแท้ ส่วนใหญ่พี่จะผูกพันธ์กับงานเขียนบทตลกเสียเหลือเกิน ทำมาเรื่อยๆ จนได้ไปอยู่คณะชวนชื่นครับ เป็นครีเอทีฟให้คณะพี่เขา จากนั้นก็ได้เข้าเวิร์คพอยท์ ทำรายการต่างๆ หลายหลาก สุดท้าย ก็ได้เขียนบทละครตลก ได้ช่วยพี่ธงชัย เขากำกับละคร ได้ตัดต่อเอง ได้มิกซ์เสียงเอง ได้คิดฉากเองบ้าง ได้คุยกับพี่ประภาส ชลศรานนท์บ้าง สุดท้าย ผมก็ได้มากำกับละครเรื่อง "รักต้องซ่อม" นี่แล้วละครับ

ทั้งหมดมันเกี่ยวเนื่องอะไรกัน

คือพี่กำกับละครซิทคอมครับ และพี่รู้จักมุขตลกมาเยอะมาก มีมุขตลกในหัวเยอะครับ (ไม่ได้คุย เรื่องจริงนะ) นอกจากนั้น พี่ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง กับเพลงสุนทราภรณ์ และเพลงสมัยใหม่นี้พี่ก็ฟัง มันทำให้พี่เอามาปรับใช้กับมุขตลกในละครได้

พูดมาทั้งหมดคืออยากบอกว่า ถ้าเรามุ่งมั่น และเราขวนขวาย ขยัน ตั้งใจจริง ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ อยู่ที่เราไม่กล้าที่จะทำมากกว่านะครับ

อ้อ จริงๆ พี่แนะนำนะ ถ้าน้องอยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ให้น้องไปเรียน เอกภาพยนตร์นะครับ อย่าเรียนเอกวิทยุโทรทัศน์อย่างพี่ มันอ้อมไปหน่อยครับ
และถ้าน้องอยากเป็นผู้กำกับ ขอให้น้องเรียนภาษาไทยอีกเยอะๆ ครับ
และให้อ่านหนังสือเยอะๆ โดยเฉพาะพวกนวนิยายต่างๆ
และให้ดูหนังเยอะๆ
และไปเรียน หรือไปเข้าคลาสการแสดงจะดีมาก
และไปเรียนจิตวิทยาหน่อยก็จะดี
และไปอบรมเรื่องไฟก็จะเวิร์คมาก
และตัดต่อได้ด้วยจะดีที่สุด
และมีหัวศิลปะก็จะยิ่งดีไปใหญ่

ฝากไว้แค่นี้นะครับน้อง

ไปละจ้ะ

อ้อ ความฝันของพี่ก็ไม่ได้จบแค่นี้หรอกนะ พี่ก็จะมีฝันที่ต้องทำ ฝันที่ใหญ่ต่อไปเรื่อยๆ น้องทุกคนก็อย่าลืมฝันของตัว และทำมันให้ถึงจุดหมายให้ได้นะครับ

ไปละ วันนี้จะสาระมากไปแว้ว อิอิอิ


ขอตอบหน่อยละกันในฐานะที่เคยเป็นผู้กำกับรายการมาเหมือนกัน


ืคือก็ไม่ได้อยากให้น้องเขวอ่ะนะ แค่เล่าให้ฟัง

จริงๆแล้วมนุษย์เราเนี่ยมันเป็นอะไรก็ได้หมดแหละครับ เท่าที่ใจอยากเป็น



ถ้าน้องอยากมาทางนี้การเลือกเอ็นท์เข้าเกี่ยวกับคณะที่เกี่ยวกับนิเทศศาสตร์แบบนี้ก็ถูกต้องแล้ว เป็นการเดินตามทางของน้องอีกหนึ่งก้าว

ถามว่าแล้วหนูจะไปเป็นผู้กำกับรายการได้อย่างไรล่ะ-+++

น้องก็ต้องศึกษาใจของตัวเองและเลือกเอกที่ตัวเองชอบและอยากเรียน (อย่าไปเลือกตามเพื่อนนะครับ)

จากนั้นน้องก็ศึกษาทางที่น้องชอบเยอะๆ




ขอเล่าเส้นทางของพี่ให้ฟังบ้างดีกว่า

พี่เริ่มจากการเป็น creative และscript writer ที่ค่ายแกรมมี่ ทำรายการเพลง ชื่อรายการแมลงมัน

งานหนักเป็นควายครับ เงินเดือนก็น้อย แต่ด้วยความที่เราอยากทำ เราก็ทำไปเรื่อย เขียน ถ่าย ตัด ทำจนตัวเองแกร่ง และได้ย้าย.....


มาทำรายการกีฬา ที่ค่ายกีฬายักษ์ใหญ่ คราวนี้พี่ได้เป็นผู้กำกับรายการครับ

จากประสบการณ์ที่พี่ เขียน ถ่าย ตัด อย่างหนักมาที่แกรมมี่ ทำให้พี่มีศักยภาพพอที่จะมาทำตรงนี้ได้


และที่สำคัญ น้องควรจะมีบุคลิกของความเป็นผู้นำ และ ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดด้วยนะครันบ

โชคดีจ้าา

อืม เรียนเอกภาพยนตร์ เถอะ
ผู้กำกับ ซิทคอม มันไม่มีคณะไหนสอนซะด้วย

อาจจะเรียนภาพยนตร์ หรือ เรียนศิลปกรรมการละคร
สองอันนี้ใกล้เคียงมาก

สาขาวิทยุและโทรทัศน์จริงๆ ตรงสุดนะ
แต่วิชาเรียนรายทาง มันเยอะเกินไป ไม่ตรงซักทีเดียว

แต่ก็ลองดูละกัน
เพราะพี่น้อย เขาก็จบ วิทยุ โทรทัศน์
ลองอ่านที่พี่น้อยเขียนแล้ว ลองไปขวนขวายทำตามดูนะ

เป็นแนวทางที่ดี ทีเดียว
ถ้าอ่านผ่านๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่จะบอกว่า วิชาความรู้ที่พี่น้อย ให้ไปจับมานิดๆหน่อยๆ เนี่ย
จำเป็นหมดเลยครับ

-5 นาทีจะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาวครับ...

ทีนี้น้องบุ๋มไม่มีหัวข้ออะไรมาเลย... มันจะกลายเป็นเรื่องที่กว้างมากทีเดียวในการคิดว่าจะแสดงอะไร...

ในกรณีนี้พี่เสนอว่าลองร่างประเด็นเล็กๆ ขึ้นมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน หรือเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นจริงสักสาม-สี่เรื่อง... ค่อยๆ ใส่รายละเอียดว่าจะแสดงออกไปทางไหน? สร้างหลายๆ อารมณ์ในเรื่องเดียวกัน...

นึกง่ายๆ นะครับ... อย่างประโยคพูดแค่ว่า

"ทำไมวันนี้รถเมล์มันนานมาจัง" ประโยคแบบนี้ลองพูดด้วยฟิลลิ่งแตกต่างกันมันก็จะได้คนละอารมณ์แล้ว...

ลองทำให้ได้หลายๆ อารมณ์ซึ่งจะทำให้เราเรียนรู้ว่า อ๋อ... อารมณ์นี้มันจะพูดประมาณนี้นะ แสดงออกประมาณนี้นะ เคลื่อนไหวประมาณนี้นะ... ซึ่งจะเป้นประโยชน์มากครับถ้าเราไปเจอบททดสอบที่ให้แสดงสด!!!

เอาใจช่วยให้ไต่เส้นทางสู่ผู้กำกับ (อย่างพี่น้อย) ได้อย่างสวยงามนะครับ!!!

อยากเป็นอะไร เรียนเอกไหนนั้น
เขาก็จะสอนในหลักการพื้นฐานนะคะน้อง
วิชาคณะนิเทศน์ หรือสายศิลป์เนี่ย เป็นวิชาที่คนเรียน
ต้องเอาไปประยุกต์อีกทีหนึ่ง
อย่างคำบอกเล่าของพี่น้อย หรือพี่คนอื่นๆ ที่ต้องเก็บเกี่ยว
ประสบการณ์หรือความรู้รอบตัว จะเป็นตัวเสริมให้น้องใช้สิ่งที่เรียนมาได้ดีที่สุด
ไม่มีความรู้เืรื่องกำกับ แต่รู้สึกได้ว่า
คำแนะนำของทุกคนกำลังช่วยให้น้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้กำกับ "ที่ดี" จ้า


ตกแน่นอนถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี
ล่าสุดไปแวะเวียนดูความเข้มข้นของการเรียนการสอนที่นั่นมา
บอกได้เลยว่าตอนนี้ไปไกลกว่าหลายๆที่แล้วสำหรับสาขาละคอน

งานของนักศึกษาจะดูไม่เป็นงานนักศึกษาอีกต่อไปแล้ว

แนะนำว่าลองหาบทละคอนคลาสสิกมาซ้อมแสดงเดี่ยวเพื่อสอบ

เช่นเรื่อง ราโชมอน หรือไม่ก็ อันตราคนี
อย่าถามว่าจะหาที่ไหนแต่จงออกไปหา


แนะนำเพิ่มเติมเรื่องการทดสอบการแสดงค่ะ
แนะนำว่าให้หาช่วงบทละครที่มีโมโนล็อกยาวประมาณหนึ่งอยู่ในช่วงที่เราเลือก อันนี้จะช่วยแสดงความสามารถในการเข้าใจการแสดงของเราได้มากยิ่งขึ้น จริงๆมันไม่เสมอไปแต่จะช่วยได้เมื่อเวลามีจำกัด อย่าเลือกบทที่ห่างไกลความสามารถมากนะคะ เพราะที่เค้าจะดูคือศักยภาพที่เรามีอยู่แล้วและความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาต่อ เลือกบทที่เราเข้าใจได้อย่างชัดเจน แล้วก็ลุยเลยค่ะ
อีกอย่าง วอร์มร่างกายนิดหน่อยเพื่อผ่อนคลายและปลุกร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยได้มากเมื่ออยู่ในภาวะที่ต้องแสดงออกแต่ถูกจ้องมอง
ลองไปศูนย์หนังสือจุฬาไม่ก็ห้องสมุดจุฬาธรรมศาสตร์หรือม.ศ.ว. น่าจะมีบทละครเวทีพร้อมให้ศึกษานะ
เอาใจช่วย....ค่ะ
MORE...