Wednesday, 16 April 2008
Dreams : Almost Famous : Film Director
Almost Famous
ทะเลของก้อย หนังของ ‘ปราม’
หลายคนอยากเป็น ‘ผู้กำกับหนัง’ สักครั้งในชีวิต แต่มักจะเหลือเพียงบางคนที่จะได้เป็นสมใจ และน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะได้เป็นด้วยความไม่ตั้งใจ ปรามธานี วงศ์พรหมเมศร์ หรือ ปราม คือผู้หญิงซึ่งถือเป็นส่วนน้อยที่ได้
กลายเป็นผู้กำกับหญิงเพียงคนเดียวในโครงการ 9 หนังสั้นถวายในหลวง จัดโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่คัดเลือกโครงเรื่องจากหลักร้อยจนเหลือเพียง 5 เรื่องสุดท้ายที่ได้ถ่ายทำจริง
* เราได้เห็นโลกเยอะขึ้น รู้จักคนมากขึ้น รู้ว่ากระบวนการมันก็ยุ่งยากกว่าที่เราคิด ที่สำคัญได้รู้จักความงี่เง่าของตัวเอง คือเราไม่มีประสบการณ์ทำหนัง เวลาทำงานเราเหมือนไม่มีตัวตน แต่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับก็เลยคิดน้อยใจ จนทีมงานเข้ามาคุยกับเรา ซึ่งมันทำให้รู้สึกถึงความเป็นเด็กในตัว
* คิดยังไงกับเด็กที่อยากเป็นผู้กำกับหนัง เราก็ไม่รู้ว่าความอยากเป็นของเขาลึกซึ้งขนาดไหน ความฝันก็เป็นเรื่องเฉพาะคน แต่ไม่ว่าเขาจะฝันอะไร คุณมีความสุขกับมันรึเปล่า ไม่ต้องสนใจคนอื่นก็ได้แต่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า มันใช่สำหรับเรารึเปล่า
* ทะเลของก้อย ชื่อเรื่องมาจากทะเลมันใหญ่ ก้อยมาจากนิ้วก้อยที่มันเล็ก ก้อยเขาตัวเล็ก และก้อยคือชื่อนางเอกของเรื่องด้วย น่ารักดี
* ผู้กำกับก็เป็นหน้าที่หนึ่งในกระบวนการผลิตที่ทำงานร่วมกับคนอื่นจนได้หนังออกมา คืออยากทำหนังก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้กำกับหรอก แต่คนที่อยากเป็นผู้กำกับเท่านั้นก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เราจะได้อะไรจากการเป็นผู้กำกับ
* เท่หรอ... มันอาจจะเท่ตรงที่ว่าชื่อผู้กำกับได้ขึ้นไงมันก็อาจจะเท่ตรงนั้นมั้ง แต่ชีวิตคนเรามันคงไม่ใช่แค่ขอให้ได้ขึ้นชื่อขึ้นมาแล้วก็... มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น (ยิ้ม)
ที่มาของโครงการนี้ หนังสั้นอีก 8 เรื่องใครเป็นผู้กำกับบ้าง รายชื่อผู้กำกับอาวุโสรับเชิญ และผู้กำกับชื่อดังอีก 3 ท่าน อะไรทำให้เธอสนใจร่วมโครงการนี้ ทำไมหนังของเธอจึงมีชื่อผู้กำกับ 2 คน ภาพเบื้องหลังการทำงาน และรูปถ่ายสบายๆบนพื้นหญ้าของเธอ
เนื่องในศุภวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดโครงการสร้างภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ “แด่พระผู้ทรงธรรม” โดยจะเป็นภาพยนตร์สั้นสะท้อนเรื่องราว พระวิริยะ อุตสาหะ พระเมตตาธรรม และพระจริยวัตรที่ทรงมีต่อไพร่ฟ้าประชาราษฎร์
ซึ่งมี 9 ผู้กำกับที่จะมาสร้างภาพยนตร์สั้น ที่มีความยาวเรื่องละ 10-15 นาที นำโดยผู้กำกับอาวุโสรับเชิญคือ บัณฑิต ฤทธิ์กล กำกับเรื่อง ข่าวที่ไม่สำคัญ
และศิลปินศิลปาธร สาขาภาพยนตร์ 3 ท่านคือ
* เป็นเอก รัตนเรือง กำกับเรื่อง เสียงสว่าง
* อภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล กำกับเรื่อง นิมิต
* วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง กำกับเรื่อง นรสิงหาวตาร และทีมสร้างที่ชนะเลิศการประกวด 5 เรื่อง
* อารยะ บุญเชิต กำกับเรื่อง 9 ของวิเศษ
* ปราธานี วงศ์พรหมเมศร์
* และศุภรัฐ บุญมาแย้ม กำกับเรื่อง ทะเลของก้อย
* ศิวโรจน์ คงสกุล กำกับเรื่อง พ่อของพ่อ
* พุทธิพงศ์ อรุณเพ็ง กำกับเรื่อง รักพอเพียง
รู้จักปราม
ปัจจุบันปรามศึกษาอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 เธอบอกว่าอยากลองหาอะไรทำอย่างอื่นดูบ้างนอกจากการเรียนหรือทำงานส่งอาจารย์ “งานของคณะเยอะมาก กิน
เวลาของเราไปหมดเลยเสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องทำไม่เหมือนเด็กคณะอื่น พอได้รู้ข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้ก็สนใจและโชคดีที่ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมอยู่ด้วยจึงพอมีเวลาทำ” ด้วยความบังเอิญที่ได้รู้ข่าวจากการเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ กลางเดือนเมษายน เธอเริ่มคิดโครงเรื่องและส่งเข้าแข่งขันจนทราบผลเดือนพฤษภาคมว่าหนังสั้นของเธอที่ชื่อ“ทะเลของก้อย” ผ่านการคัดเลือก ได้เตรียมงานก่อนถ่ายในเดือนมิถุนายน กระทั้งลงมือถ่ายทำจริงคือต้นเดือนกรกฎาคม หน้าที่หลักๆของเธอคือควบคุมธีม เนื้อหาและภาพที่ถ่ายทำให้ออกมาตามที่เธอต้องการ เช่นอยากให้เน้นตรงนี้ มุมนี้ยังไม่ได้อารมณ์ต้องถ่ายใหม่เพื่อสื่อถึงสิ่งที่เธอคิด รวมถึงคุมส่วนที่เป็นแอนิเมชั่นด้วย เพราะหนังของเธอมีส่วนของแอนิเมชั่นถึง 40%
ผู้กำกับคู่
จะเห็นว่าเรื่อง “ทะเลของก้อย” มีรายชื่อผู้กำกับอยู่ 2 คน เนื่องจากเธอมีผู้กำกับร่วมเพื่อช่วยเธอกำกับหนังสั้นเรื่องนี้ “ทางคณะกรรมการให้เราใส่รายชื่อทีมงาน เสนองบประมาณในการสร้างมาด้วย เราก็ไม่เคยรู้เรื่องการทำหนังมาก่อนเลย ก็ต้องหาคนมาช่วยไม่งั้นไม่รอดแน่ เขียนโครงเรื่องคร่าวๆพอได้ แต่ถ้าต้องเขียนโครงเรื่องแบบละเอียดถูกต้องตามหลักเพื่อเอาไปทำหนังจริงอันนี้ทำไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องหาผู้กำกับร่วมกับเราจึงจะทำได้” เธอเล่าต่อว่า “ซึ่งตอนนั้นเหลืออีก 2 วันก่อนหมดเวลาส่ง ก็เลยไปหาที่เว็บ thaishortfilm.com รู้จากเพื่อนแนะนำ เราก็เข้าไปแอดเมล์ทุกคนที่มีในเว็บบอร์ดตอนนั้นแล้วก็
บอกว่าเราได้ทุนทำหนังนะ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากจริงๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ก็เจอพี่คนหนึ่งที่ดีมากพอเราเอาโครงเรื่องให้เขาดูเขาก็ช่วยทำจนทันส่งได้ ซึ่งตอน แรกพี่เขาก็ดันเราให้เป็นผู้กำกับเองเลย แต่เราไม่มีประสบการณ์สุดท้ายเราก็เลยให้เขามาเป็นผู้กำกับร่วมกับเราด้วย” และนั่นคือคำตอบว่าทำไมหนังสั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเดียวที่มีผู้กำกับถึง 2 คน
Link: http://www.247freemag.com/content.php?id=21&content=7
ทะเลของก้อย หนังของ ‘ปราม’
หลายคนอยากเป็น ‘ผู้กำกับหนัง’ สักครั้งในชีวิต แต่มักจะเหลือเพียงบางคนที่จะได้เป็นสมใจ และน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะได้เป็นด้วยความไม่ตั้งใจ ปรามธานี วงศ์พรหมเมศร์ หรือ ปราม คือผู้หญิงซึ่งถือเป็นส่วนน้อยที่ได้
กลายเป็นผู้กำกับหญิงเพียงคนเดียวในโครงการ 9 หนังสั้นถวายในหลวง จัดโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่คัดเลือกโครงเรื่องจากหลักร้อยจนเหลือเพียง 5 เรื่องสุดท้ายที่ได้ถ่ายทำจริง
* เราได้เห็นโลกเยอะขึ้น รู้จักคนมากขึ้น รู้ว่ากระบวนการมันก็ยุ่งยากกว่าที่เราคิด ที่สำคัญได้รู้จักความงี่เง่าของตัวเอง คือเราไม่มีประสบการณ์ทำหนัง เวลาทำงานเราเหมือนไม่มีตัวตน แต่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับก็เลยคิดน้อยใจ จนทีมงานเข้ามาคุยกับเรา ซึ่งมันทำให้รู้สึกถึงความเป็นเด็กในตัว
* คิดยังไงกับเด็กที่อยากเป็นผู้กำกับหนัง เราก็ไม่รู้ว่าความอยากเป็นของเขาลึกซึ้งขนาดไหน ความฝันก็เป็นเรื่องเฉพาะคน แต่ไม่ว่าเขาจะฝันอะไร คุณมีความสุขกับมันรึเปล่า ไม่ต้องสนใจคนอื่นก็ได้แต่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า มันใช่สำหรับเรารึเปล่า
* ทะเลของก้อย ชื่อเรื่องมาจากทะเลมันใหญ่ ก้อยมาจากนิ้วก้อยที่มันเล็ก ก้อยเขาตัวเล็ก และก้อยคือชื่อนางเอกของเรื่องด้วย น่ารักดี
* ผู้กำกับก็เป็นหน้าที่หนึ่งในกระบวนการผลิตที่ทำงานร่วมกับคนอื่นจนได้หนังออกมา คืออยากทำหนังก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้กำกับหรอก แต่คนที่อยากเป็นผู้กำกับเท่านั้นก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เราจะได้อะไรจากการเป็นผู้กำกับ
* เท่หรอ... มันอาจจะเท่ตรงที่ว่าชื่อผู้กำกับได้ขึ้นไงมันก็อาจจะเท่ตรงนั้นมั้ง แต่ชีวิตคนเรามันคงไม่ใช่แค่ขอให้ได้ขึ้นชื่อขึ้นมาแล้วก็... มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น (ยิ้ม)
ที่มาของโครงการนี้ หนังสั้นอีก 8 เรื่องใครเป็นผู้กำกับบ้าง รายชื่อผู้กำกับอาวุโสรับเชิญ และผู้กำกับชื่อดังอีก 3 ท่าน อะไรทำให้เธอสนใจร่วมโครงการนี้ ทำไมหนังของเธอจึงมีชื่อผู้กำกับ 2 คน ภาพเบื้องหลังการทำงาน และรูปถ่ายสบายๆบนพื้นหญ้าของเธอ
เนื่องในศุภวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดโครงการสร้างภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ “แด่พระผู้ทรงธรรม” โดยจะเป็นภาพยนตร์สั้นสะท้อนเรื่องราว พระวิริยะ อุตสาหะ พระเมตตาธรรม และพระจริยวัตรที่ทรงมีต่อไพร่ฟ้าประชาราษฎร์
ซึ่งมี 9 ผู้กำกับที่จะมาสร้างภาพยนตร์สั้น ที่มีความยาวเรื่องละ 10-15 นาที นำโดยผู้กำกับอาวุโสรับเชิญคือ บัณฑิต ฤทธิ์กล กำกับเรื่อง ข่าวที่ไม่สำคัญ
และศิลปินศิลปาธร สาขาภาพยนตร์ 3 ท่านคือ
* เป็นเอก รัตนเรือง กำกับเรื่อง เสียงสว่าง
* อภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล กำกับเรื่อง นิมิต
* วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง กำกับเรื่อง นรสิงหาวตาร และทีมสร้างที่ชนะเลิศการประกวด 5 เรื่อง
* อารยะ บุญเชิต กำกับเรื่อง 9 ของวิเศษ
* ปราธานี วงศ์พรหมเมศร์
* และศุภรัฐ บุญมาแย้ม กำกับเรื่อง ทะเลของก้อย
* ศิวโรจน์ คงสกุล กำกับเรื่อง พ่อของพ่อ
* พุทธิพงศ์ อรุณเพ็ง กำกับเรื่อง รักพอเพียง
รู้จักปราม
ปัจจุบันปรามศึกษาอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 เธอบอกว่าอยากลองหาอะไรทำอย่างอื่นดูบ้างนอกจากการเรียนหรือทำงานส่งอาจารย์ “งานของคณะเยอะมาก กิน
เวลาของเราไปหมดเลยเสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องทำไม่เหมือนเด็กคณะอื่น พอได้รู้ข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้ก็สนใจและโชคดีที่ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมอยู่ด้วยจึงพอมีเวลาทำ” ด้วยความบังเอิญที่ได้รู้ข่าวจากการเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ กลางเดือนเมษายน เธอเริ่มคิดโครงเรื่องและส่งเข้าแข่งขันจนทราบผลเดือนพฤษภาคมว่าหนังสั้นของเธอที่ชื่อ“ทะเลของก้อย” ผ่านการคัดเลือก ได้เตรียมงานก่อนถ่ายในเดือนมิถุนายน กระทั้งลงมือถ่ายทำจริงคือต้นเดือนกรกฎาคม หน้าที่หลักๆของเธอคือควบคุมธีม เนื้อหาและภาพที่ถ่ายทำให้ออกมาตามที่เธอต้องการ เช่นอยากให้เน้นตรงนี้ มุมนี้ยังไม่ได้อารมณ์ต้องถ่ายใหม่เพื่อสื่อถึงสิ่งที่เธอคิด รวมถึงคุมส่วนที่เป็นแอนิเมชั่นด้วย เพราะหนังของเธอมีส่วนของแอนิเมชั่นถึง 40%
ผู้กำกับคู่
จะเห็นว่าเรื่อง “ทะเลของก้อย” มีรายชื่อผู้กำกับอยู่ 2 คน เนื่องจากเธอมีผู้กำกับร่วมเพื่อช่วยเธอกำกับหนังสั้นเรื่องนี้ “ทางคณะกรรมการให้เราใส่รายชื่อทีมงาน เสนองบประมาณในการสร้างมาด้วย เราก็ไม่เคยรู้เรื่องการทำหนังมาก่อนเลย ก็ต้องหาคนมาช่วยไม่งั้นไม่รอดแน่ เขียนโครงเรื่องคร่าวๆพอได้ แต่ถ้าต้องเขียนโครงเรื่องแบบละเอียดถูกต้องตามหลักเพื่อเอาไปทำหนังจริงอันนี้ทำไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องหาผู้กำกับร่วมกับเราจึงจะทำได้” เธอเล่าต่อว่า “ซึ่งตอนนั้นเหลืออีก 2 วันก่อนหมดเวลาส่ง ก็เลยไปหาที่เว็บ thaishortfilm.com รู้จากเพื่อนแนะนำ เราก็เข้าไปแอดเมล์ทุกคนที่มีในเว็บบอร์ดตอนนั้นแล้วก็
บอกว่าเราได้ทุนทำหนังนะ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากจริงๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ก็เจอพี่คนหนึ่งที่ดีมากพอเราเอาโครงเรื่องให้เขาดูเขาก็ช่วยทำจนทันส่งได้ ซึ่งตอน แรกพี่เขาก็ดันเราให้เป็นผู้กำกับเองเลย แต่เราไม่มีประสบการณ์สุดท้ายเราก็เลยให้เขามาเป็นผู้กำกับร่วมกับเราด้วย” และนั่นคือคำตอบว่าทำไมหนังสั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเดียวที่มีผู้กำกับถึง 2 คน
Link: http://www.247freemag.com/content.php?id=21&content=7