Thursday, 20 September 2007

ไอน์สไตน์พูดว่า..............


ในห้องเรียนวันหนึ่ง ไอสไตน์ถามนักเรียนว่า


" มีคนซ่อมปล่องไฟสองคน กําลังซ่อมปล่องไฟเก่า
พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟ ปรากฏว่าคนหนึ่ง
ตัวสะอาด อีกคนตัวเลอะเทอะ เต็มไปด้วยเขม่า
ขอถามหน่อยว่า คนไหนจะไปอาบน้ำก่อน "

นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า
" ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ "

ไอสไตน์ พูดว่า
" งั้นเหรอ คุณลองคิดดูให้ดีนะคนที่ตัวสะอาด เห็นอีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควัน
เขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมาจากปล่องไปเก่าเหมือนกัน ตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆเลย
ส่วนอีกคน เห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่า ตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน
ตอนนี้ ผมขอถาม พวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่ "

นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า
" อ้อ ! ผมรู้แล้ว พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนสกปรก ก็นึกว่าตัวเองต้องสกปรกแน่
แต่คนที่ตัวสกปรก เห็นอีกคนสะอาด ก็นึกว่าตัวเองไม่สกปรกเลย
ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย ..... ถูกไหมครับ...."

ไอสไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคน ต่างเห็นด้วยกับคําตอบนี้
ไอสไตน์ค่อยๆพูดขึ้นอย่างมีหลักการและเหตุผลว่า
" คําตอบนี้ก็ผิด ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน จะเป็นไปได้ไงที่คนหนึ่งสะอาด
อีกคนหนึ่งจะสกปรก นี่แหละที่เขาเรียกว่า "ตรรก" เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนําจนสะดุด
ก็จะไม่สามารถแยกแยะและหาเหตุผล แห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้ จะหาตรรกได้
ก็ต้องกระโดดออกมาจาก "พันธนาการของความเคยชิน" หลบเลี่ยงจาก "กับดักทางความคิด"
หลีกหนีจาก " สิ่งที่ทําให้หลงทางจากความรู้จริง " ขจัด " ทิฐิแห่งกมลสันดาน "
จะหาตรรกได้ก็ต่อเมื่อคุณสลัดหมากทั้งหมด ที่คนเขาจัดฉากวางล่อคุณไว้