Friday, 21 September 2007
สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์
มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์
> มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000
> ล้านดอลล่าร์
>
> ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:
>
> 1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ
> และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป
>
> 2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
>
> 3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา
> ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน
> เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
>
> 4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
>
> 5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว
> แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
>
> 6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท
> เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว
> เพื่อให้เป้าหมายประจำปี
> เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
>
> 7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
> กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
>
> 8) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน
> คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
>
> 9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล
> เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย
> จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ
> ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน
> บัพเฟตต์
>
> 10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือและไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
>
> 11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง
>
> ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง มหาเศรษฐีหรือยาจก
> กินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด
> ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน
> พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกัน คือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
> มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร
> สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน
>
> มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000
> ล้านดอลล่าร์
>
> ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:
>
> 1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ
> และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป
>
> 2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
>
> 3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา
> ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน
> เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
>
> 4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
>
> 5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว
> แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
>
> 6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท
> เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว
> เพื่อให้เป้าหมายประจำปี
> เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
>
> 7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
> กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
>
> 8) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน
> คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
>
> 9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล
> เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย
> จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ
> ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน
> บัพเฟตต์
>
> 10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือและไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
>
> 11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง
>
> ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง มหาเศรษฐีหรือยาจก
> กินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด
> ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน
> พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกัน คือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
> มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร
> สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน
>