Saturday 29 September 2007

ยิ่งพูด...ยิ่งฉิบหาย!!!

การเมือง
ท่านขุนน้อย
2 สิงหาคม 2550 กองบรรณาธิการ
ยิ่งพูด...ยิ่งฉิบหาย!!!
อันที่จริง...น่าจะขอบใจ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตผู้สื่อข่าวช่อง 5 และนักเขียนอิสระ ซึ่งแม้นว่าเธอจะมีตำแหน่งหน้าที่ ประจำสำนักเลขานุการกองทัพบกอยู่ในขณะนี้ก็ตาม ที่สามารถดิ้นรน ข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปเปิดใจ ทักษิณ ชินวัตร ให้พอรู้ถึงสิ่งที่ซุกซ่อนเอาไว้ในหัวจิต หัวใจ ในความรู้สึกนึกคิด กันได้แบบจะจะ แจ้งๆ...ไม่ต้องเสียเวลาปิดบัง อำพราง เลี้ยวไป เลี้ยวมา แหย่ไป แหย่มา...เหมือนกับที่เคยให้สัมภาษณ์ใครต่อใครกันมาในอดีต...
----------------------------------------------
ดูเหมือนว่า...ในความรู้สึกลึกๆ ของ ทักษิณ นั้น ได้ซ่อนความโกรธ ความเกลียดชัง ต่อใครบางคนเอาไว้ไม่น้อย สามารถสะท้อนให้เห็นจากการใช้คำพูด คำจา ในการเรียกขานกันถึงขั้น... คนที่มีปัญหาครึ่งเดียว .... คนแข็งครึ่ง-อ่อนครึ่ง ... คนเดียวที่ไม่ปกติมานานแล้ว ...หรือ ซูเปอร์ เพาเวอร์ ฯลฯ เป็นต้น และก็คงไม่ต้องเสียเวลาตีความว่าจะหมายถึงใคร??? ตลอดเวลาที่พยายามดิ้นรนรักษาอำนาจตัวเองเอาไว้ นับตั้งแต่ยังไม่ได้มีฐานะเป็น สัมภเวสี เหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้... ทักษิณ ก็ได้แสดงความก้าวร้าว ต่อสิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้ให้เป็น ศัตรูในใจ มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนแทบไม่ต้องเสียเวลาอธิบายว่า...ไผเป็นไผ...หรือใครเป็นใคร...ที่ตัวเองแสดงความโกรธ ความเกลียดมาโดยตลอด...
-------------------------------------------------
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือว่า...ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแห่งความโกรธ ความเกลียด ของ ทักษิณ นั้น ดูจะถูกทำให้กลายไปเป็น เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ของกลุ่มคนที่ยัง รักทักษิณ ไปด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่ากลุ่มคนเหล่านั้น จะแสดงออกถึงความรักทักษิณ กันด้วยกรรมวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ จะโดยการป่วนบ้าน ป่วนเมือง แบบนอกระบบ นอกครรลองการเมืองตามปกติ หรือจะหันมาแอบอิงการเมืองในระบบ กันอย่างฉุกละหุก อย่างที่เป็นไปในวันสองวันที่ผ่านมานี้...เส้นทางการเมืองของบรรดานักรักทักษิณทั้งหลาย...ก็ล้วนแล้วแต่มุ่งตรงไปยังการโจมตี ทำร้าย ทำลาย ผู้ที่ทักษิณตั้งเป้าเอาไว้ให้เป็นศัตรูภายในใจของตัวเอง...อย่างเป็นระบบ...ด้วยกันทั้งสิ้น....
------------------------------------------------
และนับวันความโกรธ ความเกลียด ของ ทักษิณ ที่มีต่อ ศัตรูภายในใจ ของตัวเอง...จะไม่ได้ถูกจำกัดเอาไว้แต่ในฐานะตัวบุคคลเท่านั้น มันยังถูกขยายความเพิ่มเติม โดยบรรดานักรักทักษิณทั้งหลาย ให้กลายเป็นความโกรธ ความเกลียด ที่มีความหมายในเชิง สัญลักษณ์ ชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที เป็นความโกรธ ความเกลียดที่มุ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบ ระเบียบ ค่านิยม ประเพณี หรือแม้กระทั่งโครงสร้างของสังคมกันไปแล้วก็ว่าได้ การแสดงออกของม็อบ นปก.ที่ฮึกเหิมถึงขั้นตัดสินใจ ก่อการปะทะกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อกดดันให้ ประธานองคมนตรี อันเป็นผู้ซึ่งมีสถานะ เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากองค์พระมหากษัตริย์ หรือผู้ที่พระมหากษัตริย์ทรงมี อิสระ มี พระราชอำนาจ ในการแต่งตั้ง ตามบทบัญญัติภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญในแต่ละฉบับ...ต้องลาออกจากตำแหน่งกันเลยนั้น อันที่จริงก็คงไม่ต่างไปจากความพยายามอาศัยสิ่งที่เรียกว่า มวลชน กระทำทำการ... บีบบังคับองค์พระมหากษัตริย์ ...ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม นั่นเอง.....
--------------------------------------------------
การที่ ทักษิณ ได้สร้างศัตรูขึ้นมาภายในจิตใจของตัวเอง จะด้วยเหตุผลใดๆ หรือด้วยความไม่มีเหตุผล เอาเลยก็ตาม...ว่าไปแล้ว...มันก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล ที่เงื่อนไข เหตุปัจจัย อันเป็นที่มาแห่งความรู้สึกเหล่านี้...ย่อมเป็นไปตามอุปาทาน อวิชชา ความรัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นตัวปรุงแต่งอารมณ์ของแต่ละบุคคลกันไปตามสภาพ หรือตามวิบากกรรมของใคร-ของมัน และเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยิบยกเอามาเป็นสาระ แก่นสาร สะท้อนความเป็นเหตุเป็นผล ความเป็นระบบใดๆ ได้เลย แต่ก็ด้วยอุปาทาน อวิชชา ของผู้ที่ยังอาลัย อาวรณ์ ยังรู้สึกรัก และผูกพัน กับ ทักษิณ ด้วยเงื่อนไข เหตุปัจจัยใดๆ ก็แล้วแต่....นับวัน...การร่วมกันปรุงแต่งอารมณ์ ให้เลื่อนไหลไปในลักษณะเช่นนี้ มันกำลังกลายไปเป็น อุปาทานหมู่ โดยที่ผู้ซึ่งยังคงปักอก ปักใจ ถือเอา ทักษิณ เป็นที่ยึด ที่พึ่ง...อาจจะไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของกระบวนการทำลายระบบ ระเบียบ ค่านิยม ประเพณี...ที่เคยเป็นรากฐานโครงสร้างสังคม อันเป็นที่เกิด ที่เติบโต จนตัวเองสามารถเป็นผู้เป็นคนอยู่ได้ในทุกวันนี้....
--------------------------------------------------
ใครก็ตามที่ยังคงยึดมั่นกับ ทักษิณ ...มักจะหนีไม่พ้น ที่จะต้องไหลไปตามอารมณ์ของ ทักษิณ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะยืนท้าทายฟ้า-ดิน อยู่กลางสนามหลวง แอบซุ่มซ่อน แหวกว่าย แบบไส้เดือนน้ำ ไส้เดือนดินอยู่ในพรรคการเมือง อยู่ในเครือข่ายราชการ ธุรกิจ ฯลฯ คนเหล่านั้นย่อมไม่อาจที่จะปฏิเสธได้เลยว่า ตัวเอง...ได้กลายไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้ซึ่งแสดงออกถึงความต้องการ ในอันที่จะทำลายระบบ โครงสร้าง ของความเป็นชาติบ้านเมือง ซึ่งเคยมีมานับตั้งแต่อดีต...ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงนั่นเอง...
-----------------------------------------------------
อารมณ์โกรธ อารมณ์เกลียด ของบุคคลผู้หนึ่ง ที่มันได้ถูกทำให้กลาย อุปาทานหมู่ ในหมู่ผู้คนจำนวนมากมายหลากหลายกันไปแล้ว มันจะเป็นสิ่งที่ผิด...หรือถูกก็ตาม แต่ถ้าหากมองกันตามเหตุ ตามผล กระแสอารมณ์ชนิดนี้ไม่น่าจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรือง หรือความสงบสันติใดๆ ได้เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม...มันน่าจะนำมาซึ่งความเดือดร้อน วุ่นวาย ให้กับผู้คนในสังคมได้แบบทั่วถึงกันหมด เพราะในขณะที่คนกลุ่มหนึ่ง พยายามเปลี่ยนแปลงรากฐานสังคม....ด้วยการทำลาย...ผู้คนอีกจำนวนมหาศาล ซึ่งเคยเติบโตมาบนพื้นฐานของสังคมชนิดนี้ ด้วยความสุข ความสงบ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ก็คงไม่ยอมปล่อยให้แผ่นดินอันเป็นที่เกิด ที่ตายของตัวเอง...ต้องมาพังพินาศ ฉิบหาย เพียงเพราะจุดเริ่มต้น อันมีที่มาจากอารมณ์โกรธ อารมณ์เกลียด ของคนคนเดียวแท้ๆ..???
-----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก คัลเลน ไฮเทาเวอร์ ..... "ความรักนั้น...ก็คือสิ่งที่เหลืออยู่ในความสัมพันธ์ หลังจากที่ความเห็นแก่ตัว....ได้ถูกขจัดออกไปอย่างหมดสิ้นแล้ว...."