Monday 24 September 2007
อ่านดูเพื่อสุขภาพตาของคุณเอง เป็นห่วงงงงงงงง โรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม
อ่านดูเพื่อสุขภาพตาของคุณเอง เป็นห่วงงงงงงงง
>>ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ถึง 14 ล้านคน
> >>แล้วครับจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์
> >>
> >>(นี่เฉพะาแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะครับ
> >>คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก้อเป็นมากขนาดไหน?)
> >>
> >>ผมคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของผมนี้จากทางเนต
> >> บางคนก้อเป็นแต่ไม่รู้ตัวครับ
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>อาการก้อคือ==> คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมา
> >>เหมือนคราบที่ติดกระจกน่ะครับ
> >>
> >>จะเห็นชัดก้อต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น
> >> ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ
> >>
> >>จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา
> >>
> >>*
> >>
> >>ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลช
> >>ในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ)
> >>
> >>และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด (ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม
> >> จะตาบอดหรือไม่?)
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>สาเหตุของโรคนี้คือ ==> ' การใช้สายตามากเกินไป' ( เล่นคอม)
> >>
> >>แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น
> >> ช่างเจียรไนเพชรพลอย ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ
> >>
> >>แต่เด๋วนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ
> >>เล่นคอม
> >>
> >>(คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เด๋วนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ
> >>)
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก?
> >>
> >>ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต,เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ,อ่านหนังสือ
> >>หรืออะไรก้อตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์
> >>
> >>'ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น '
> >>
> >>
> >>
> >>เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ 'ระยะห่างระหว่าง
> >> ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน'
> >>
> >>เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน
> >>กล้ามเนื้อและประสาทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่
> >>
> >>
> >>
> >>แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณ์เป็นจุดๆ ประกอบกัน
> >>เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด
> >>
> >>สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส (เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว
> >>แต่เรามองผ่านมันไป )
> >>
> >>( และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน
> >>ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษ)
> >>
> >> การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน
> >>
> >>*********************************************************
> >>
> >>
> >>
> >>บวกกับ ลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม
> >>ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง
> >>
> >>เพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์
> >>หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ
> >>
> >>
> >>
> >>แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้
> >>มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอ
> >>
> >>จะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน
> >>
> >>แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น
> >>มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู)
> >>
> >>มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะลูกตา จะต้องลากลูกตา
> >> เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด
> >>
> >>
> >>
> >>บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางที คุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
> >> ว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เด๋วก้ม เด๋วเงย
> >>
> >>ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ
> >> คุณจะปวดตามากๆๆ
> >>
> >>
> >>
> >>อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน
> >>สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม word
> >>
> >>ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง (ที่นิยมก้อคือ
> >>ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว )
> >>
> >> สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง
> >>ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป
> >>
> >>
> >>
> >>หรือไม่ก้อ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ
> >>มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด เพราะเวลาเล่นเกมส์
> >>ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ
> >>
> >>เป็นสีกำแพง เป็นสีปราสาท มันจะให้สีสวยสดดี
> >>แต่การทำแบบนี้มีข้อเสียคือ
> >>บางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมเครื่องนั้นต่อ
> >>
> >>จะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิม
> >>
> >>จากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้า
> >>ตลอดคืนไม่รู้ตัว
> >>
> >>
> >>
> >>
************************************************************************
> >>
> >>สรุปก้อคือ
> >>
> >>1.การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน
> >>กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย'
> >>
> >>2.การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต
> >>มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ 'ทำให้สายตาเสีย'
> >>
> >>การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย
> >>
> >>ถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือ
> >>
> >>คุณจะติดนิสัย มองอะไรก้อตาม ไม่ว่าใกล้ไกล
> >>จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ ผลก้อคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก
> >>
> >>คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆ คุณจะไม่สามารถปรับโฟกัส
> >>มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย
> >>
> >>( กล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง)
> >>
> >>3.การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา
> >>'ทำให้สายตาเสีย '
> >>
> >>4.การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
> >>'ทำให้สายตาเสีย'
> >>
> >>( ข้อนี้ คล้ายๆ กับ การเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ
> >>แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)
> >>
> >>5.การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !!
> >>
> >>(จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง
> >>แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!)
> >>
> >> เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12นิ้ว)
> >>
> >>แต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น
> >>
> >>ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่ อีกขอบหนึ่ง
> >>(ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา)
> >>
> >>แค่คุณนั่งอ่านหนังสือบนจอกว้างแบบนี้ หนึ่งชั่วโมง
> >>ลูกตาคุณจะทำงานปรับโฟกัส กลับไปกลับมา เป็นพันๆ ครั้ง
> >>
> >>และถ้าเป็นปี หรือ หลายปี ติดต่อกัน สายตาคุณเสียแน่นอน
> >>
> >>
> >>
> >>เพราะฉนั้น ถ้าคุณจะอ่านหนังสือจากจอคอม ขนาดของจอคอมของคุณ
> >>ควรไม่เกิน 15 นิ้ว
> >>
> >>ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสาร ที่ใช้ในการอ่าน การเขียนทั่วไป
> >> จึงมีขนาด A4 ?
> >>
> >>(คำตอบ ก้อคือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดี
> >>ในการกวาดสายตามอง ยังงัยล่ะครับ)
> >>
> >>และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่า ทำไมขนาดของจอคอมคุณที่จะเอามาอ่านหนังสือ
> >>ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>และส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวัน ง่ายๆ นั้น
> >>
> >>จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดรุนแรง
> >>เพราะกว่าจะรู้ตัวไปหาหมอ
> >>
> >>หมอก้ออาจจะบอกว่าคุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว
> >>และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>
> >>
> >>ผมจึงอยากจะฝากประโยคเอาไว้ให้คนที่เล่นคอมทุกคนว่า
> >>
> >>'คอมพิวเตอร์นั้น มีไว้สำหรับการค้นหามูล
> >> ไม่ได้มีไว้สำหรับการอ่านเป็นประจำ'
> >>
> >>โดยเฉพาะการอ่าน อะไรก้อตามที่ยาวๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นไดอารี่
> >>หนังสือบนเนต คุณเสี่ยงทั้งนั้น
> >>
> >>เพราะฉนั้น 'เราควรจะกลับมาอ่านหนังสือกระดาษกันเหมือนเดิม ลืมเรื่อง
> >>เล่นเนต เล่นคอมซะ เพื่อสุขภาพตา '
>>ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ถึง 14 ล้านคน
> >>แล้วครับจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์
> >>
> >>(นี่เฉพะาแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะครับ
> >>คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก้อเป็นมากขนาดไหน?)
> >>
> >>ผมคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของผมนี้จากทางเนต
> >> บางคนก้อเป็นแต่ไม่รู้ตัวครับ
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>อาการก้อคือ==> คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมา
> >>เหมือนคราบที่ติดกระจกน่ะครับ
> >>
> >>จะเห็นชัดก้อต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น
> >> ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ
> >>
> >>จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา
> >>
> >>*
> >>
> >>ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลช
> >>ในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ)
> >>
> >>และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด (ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม
> >> จะตาบอดหรือไม่?)
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>สาเหตุของโรคนี้คือ ==> ' การใช้สายตามากเกินไป' ( เล่นคอม)
> >>
> >>แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น
> >> ช่างเจียรไนเพชรพลอย ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ
> >>
> >>แต่เด๋วนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ
> >>เล่นคอม
> >>
> >>(คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เด๋วนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ
> >>)
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก?
> >>
> >>ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต,เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ,อ่านหนังสือ
> >>หรืออะไรก้อตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์
> >>
> >>'ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น '
> >>
> >>
> >>
> >>เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ 'ระยะห่างระหว่าง
> >> ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน'
> >>
> >>เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน
> >>กล้ามเนื้อและประสาทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่
> >>
> >>
> >>
> >>แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณ์เป็นจุดๆ ประกอบกัน
> >>เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด
> >>
> >>สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส (เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว
> >>แต่เรามองผ่านมันไป )
> >>
> >>( และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน
> >>ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษ)
> >>
> >> การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน
> >>
> >>*********************************************************
> >>
> >>
> >>
> >>บวกกับ ลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม
> >>ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง
> >>
> >>เพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์
> >>หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ
> >>
> >>
> >>
> >>แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้
> >>มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอ
> >>
> >>จะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน
> >>
> >>แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น
> >>มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู)
> >>
> >>มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะลูกตา จะต้องลากลูกตา
> >> เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด
> >>
> >>
> >>
> >>บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางที คุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
> >> ว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เด๋วก้ม เด๋วเงย
> >>
> >>ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ
> >> คุณจะปวดตามากๆๆ
> >>
> >>
> >>
> >>อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน
> >>สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม word
> >>
> >>ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง (ที่นิยมก้อคือ
> >>ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว )
> >>
> >> สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง
> >>ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป
> >>
> >>
> >>
> >>หรือไม่ก้อ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ
> >>มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด เพราะเวลาเล่นเกมส์
> >>ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ
> >>
> >>เป็นสีกำแพง เป็นสีปราสาท มันจะให้สีสวยสดดี
> >>แต่การทำแบบนี้มีข้อเสียคือ
> >>บางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมเครื่องนั้นต่อ
> >>
> >>จะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิม
> >>
> >>จากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้า
> >>ตลอดคืนไม่รู้ตัว
> >>
> >>
> >>
> >>
************************************************************************
> >>
> >>สรุปก้อคือ
> >>
> >>1.การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน
> >>กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย'
> >>
> >>2.การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต
> >>มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ 'ทำให้สายตาเสีย'
> >>
> >>การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย
> >>
> >>ถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือ
> >>
> >>คุณจะติดนิสัย มองอะไรก้อตาม ไม่ว่าใกล้ไกล
> >>จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ ผลก้อคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก
> >>
> >>คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆ คุณจะไม่สามารถปรับโฟกัส
> >>มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย
> >>
> >>( กล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง)
> >>
> >>3.การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา
> >>'ทำให้สายตาเสีย '
> >>
> >>4.การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
> >>'ทำให้สายตาเสีย'
> >>
> >>( ข้อนี้ คล้ายๆ กับ การเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ
> >>แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)
> >>
> >>5.การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !!
> >>
> >>(จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง
> >>แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!)
> >>
> >> เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12นิ้ว)
> >>
> >>แต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น
> >>
> >>ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่ อีกขอบหนึ่ง
> >>(ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา)
> >>
> >>แค่คุณนั่งอ่านหนังสือบนจอกว้างแบบนี้ หนึ่งชั่วโมง
> >>ลูกตาคุณจะทำงานปรับโฟกัส กลับไปกลับมา เป็นพันๆ ครั้ง
> >>
> >>และถ้าเป็นปี หรือ หลายปี ติดต่อกัน สายตาคุณเสียแน่นอน
> >>
> >>
> >>
> >>เพราะฉนั้น ถ้าคุณจะอ่านหนังสือจากจอคอม ขนาดของจอคอมของคุณ
> >>ควรไม่เกิน 15 นิ้ว
> >>
> >>ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสาร ที่ใช้ในการอ่าน การเขียนทั่วไป
> >> จึงมีขนาด A4 ?
> >>
> >>(คำตอบ ก้อคือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดี
> >>ในการกวาดสายตามอง ยังงัยล่ะครับ)
> >>
> >>และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่า ทำไมขนาดของจอคอมคุณที่จะเอามาอ่านหนังสือ
> >>ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>และส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวัน ง่ายๆ นั้น
> >>
> >>จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดรุนแรง
> >>เพราะกว่าจะรู้ตัวไปหาหมอ
> >>
> >>หมอก้ออาจจะบอกว่าคุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว
> >>และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!
> >>
> >>**********************************************************
> >>
> >>
> >>
> >>ผมจึงอยากจะฝากประโยคเอาไว้ให้คนที่เล่นคอมทุกคนว่า
> >>
> >>'คอมพิวเตอร์นั้น มีไว้สำหรับการค้นหามูล
> >> ไม่ได้มีไว้สำหรับการอ่านเป็นประจำ'
> >>
> >>โดยเฉพาะการอ่าน อะไรก้อตามที่ยาวๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นไดอารี่
> >>หนังสือบนเนต คุณเสี่ยงทั้งนั้น
> >>
> >>เพราะฉนั้น 'เราควรจะกลับมาอ่านหนังสือกระดาษกันเหมือนเดิม ลืมเรื่อง
> >>เล่นเนต เล่นคอมซะ เพื่อสุขภาพตา '