Monday, 3 September 2007

โนเบิลทุ่มงบเปิด"โนเบิล นาโน” ปูพรมขายบ้านเดี่ยวที่ดินเดียวกัน

โนเบิลทุ่มงบเปิด"โนเบิล นาโน” ปูพรมขายบ้านเดี่ยวที่ดินเดียวกัน
โนเบิลเตรียมแผนโปรโมทแบบ 1 ได้ 3 อัดงบเปิดตัวคอนโดใหม่ "โนเบิล นาโน" ย่านพัฒนาการ ปูพรมไปสู่การทำตลาดอีก 2 โครงการใหม่ของบ้านเดี่ยว บนที่ดินผืนเดียวกัน สวนทางตลาด รวม 3 โครงการเกือบ 6 พันล้านบาท
ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงมีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าซัพพลายใหม่ตั้งแต่ต้นปีจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว จนในบางทำเลอาจเข้าสู่ภาวะ "ซัพพลายล้น" ได้ แต่ผู้ประกอบการหลายราย ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ ใช้ฐานความสำเร็จเดิมเป็นตัวยืนยันความต้องการที่ยังมีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่ม "โนเบิล" ที่ระยะหลังนี้ คอนโดที่เปิดตัวสามารถปิดการขายได้ทันที ทำให้ยิ่งมั่นใจเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง
หลังจากที่โนเบิลเปิดขายโครงการโนเบิล รีเฟลกซ์ คอนโดมิเนียมในซอยอารีย์ พหลโยธิน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และสามารถปิดการขายได้ 100% ภายในเวลาเพียง 6 ชั่วโมง ก็เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ซึ่งยอดขายจากโครงการนี้ สร้างความมั่นใจในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมให้กับกลุ่มโนเบิล โดยโครงการดังกล่าว เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 20 ชั้น จำนวน 205 ยูนิต ขนาด 39-76 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 889 ล้านบาท บนที่ดิน 1 ไร่ครึ่ง ที่ซื้อมาจากโรงแรมรีเฟลกซ์ชั่น ซึ่งเปิดดำเนินการมาได้ 5 ปี ในราคากว่า 200 ล้านบาท
ส่วนคอนโดโครงการใหม่ ที่เตรียมเปิดตัวต่อจากโนเบิล รีเฟลกซ์ มีชื่อว่า "โนเบิล นาโน" อยู่ทำเลย่านพัฒนาการ ซึ่ง ธงชัย บุศราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดขายของโนเบิล นาโน จะเน้นที่การออกแบบห้องทุกห้อง เป็นห้องหัวมุม แยกห้องแยกผนังออกจากกัน และมีจำนวนยูนิตเพียง 8 ยูนิตต่อชั้น ความสูง 8 ชั้น จำนวน 882 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,357 ล้านบาท
โนเบิลจะใช้กลยุทธ์การทำตลาดเชิงรุกให้กับโครงการ โนเบิล นาโน ด้วยการอัดงบโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโครงการดังกล่าว โดยคาดว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดีเหมือนกับโครงการโนเบิล รีเฟลกซ์ และยังถือว่าเป็นการทำกิจกรรมทางการตลาดต่อเนื่องจากการเปิดให้ลูกค้าจองห้องชุดคอนโดมิเนียมโครงการโนเบิล รีเฟลกซ์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงก็สามารถปิดการขายได้ ตั้งแต่เปิดประตูให้ลูกค้ารายแรกเข้ามาจองเวลา 9.00 น. หลังจากที่มีลูกค้าให้ความสนใจมาลงชื่อจองโครงการก่อนวันเปิดขายจริงตั้งแต่วันที่ 10-17 สิงหาคม เป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 800 ราย ขณะที่มีจำนวนห้องชุดที่เปิดขายเพียง 205 ยูนิต
"กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ มาจากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เนื่องจากเป็นการขยายครอบครัวออกจากบ้านเดิม และอีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบในทำเลย่านซอยอารีย์ พหลโยธิน เพราะความสะดวกในการเดินทางทั้งทางรถไฟฟ้าและทางรถยนต์" ธงชัย กล่าว
การเปิดโครงการใหม่ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนการสร้างรายได้ต่อเนื่องที่ตั้งเป้าเติบโต 10-15% ต่อปี โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้า โดยช่วงครึ่งแรกของปีทำได้ 693 ล้านบาท ที่เหลือจะมาจากการขายบ้านเดี่ยวมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท บริษัทพยายามรักษาระดับการขายให้ได้เฉลี่ย 70 ล้านบาท/เดือน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอีก 300-400 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนในการทำการตลาดด้วยการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าในเชิงรุกมากขึ้น ภายใต้ชื่อโครงการ "โนเบิล ไอดี" (NOBLE ID) ตามแผนจะคิดโปรแกรมในการทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า เช่น มีการเล่นเกมชิงรางวัล ใครชนะได้สิทธิไปเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงมีการทัวร์ไปดูงานดีไซน์ในต่างประเทศ เป็นต้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับฐานลูกค้าที่มีอยู่ เพราะต้องยอมรับว่า ยอดขายจากโครงการใหม่ๆ มีฐานลูกค้าเก่าให้ความสนใจซื้อ หรือแนะนำลูกค้ารายใหม่เข้าสู่โครงการ
ด้านแผนการทำตลาดบ้านเดี่ยว แม้ว่าสภาพของตลาดนี้จะชะลอตัวลง แต่ยังคงต้องสร้างความสมดุลในพอร์ตระหว่างคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว คือ ต้องมีโปรดักท์ให้ครอบคลุม โดยเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการใหม่อีก 2 โครงการ คือ โครงการบ้านเดี่ยว "โนเบิล โซโห" (NOBLE SOHO)จำนวน 225 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,910 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว "โนเบิล โฟลว์" (NOBLE FLOW) จำนวน 99 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,585 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ จะอยู่บนที่ดินผืนเดียวกันกับโครงการคอนโดมิเนียมโนเบิล นาโน รวมเป็น 3 โครงการบนที่ดินย่านพัฒนาการ เนื้อที่ 110 ไร่ ถ้าพัฒนาเสร็จทั้ง 3 โครงการ จะมีมูลค่ารวมกว่า 5,852 ล้านบาท
โครงการบ้านเดี่ยวจะทยอยเปิดหลังจากที่เปิดตัวคอนโดมิเนียมโนเบิล นาโนไปแล้ว ซึ่งถ้าพิจารณาดูแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โนเบิลต้องลุกขึ้นมาอัดงบทำการตลาดให้กับโนเบิล นาโน ส่วนหนึ่งเพราะต้องการโปรโมททำเล เหมือนกับเปิดหน้าดินให้คนรู้จักตัวทำเลและตัวโครงการ เพื่อส่งต่อแผนทำตลาดให้กับบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการขายโครงการได้มากขึ้น
บ้านและคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในสต็อกของโนเบิล ยังคงค้างอยู่ 500 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 3,021.8 ล้านบาท แบ่งเป็นสต็อกของบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จ จำนวน 191 ยูนิต มูลค่ารวม 1,572 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมอีก 313 ยูนิต รวมมูลค่า 1,524 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะพยายามระบายสต็อกทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมให้หมดได้ภายใน 1-2 ปี