Wednesday 23 April 2008

Dreams : คุณมีความฝันอะไรสักอย่างที่อยากทำให้เป็นจริงไหม โดยเฉพาะการได้เป็นผู้กำกับการแสดง

LINK: http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20071205210247AAXUjSJ
คุณมีความฝันอะไรสักอย่างที่อยากทำให้เป็นจริงไหม แล้วคุณมีวิธีที่จะทำฝันนั้นใ้ห้เป็นจริงหรือยัง?
ผมได้คำถามนี้มาจากหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Chasing Daylight เป็นเรื่องราวของ Eugene O'Kelly CEO วัย 53 ปี ของบริษัทด้านบัญชีระดับโลกอย่าง KPMG ได้รับเงินเดือนระดับต้นๆ ของผู้บริหารในอเมริกา กำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ แต่แล้ว ..... วันดีคืนดี หมอก็ตรวจพบว่าเขาเป็นมะเร็งสมองขั้นสุดท้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน (หรือเอาเข้าจริงๆ ไม่เกิน 3 เดือนด้วยซ้ำ เพราะช่วงหลังๆ ร่างกายเขาก็จะอ่อนแอลงจนทำอะไรลำบาก)
สิ่งที่ผู้บริหารท่านนี้ทำก็คือ "เตรียมตัวตายอย่างสง่างาม" จัดการเรื่องบ้านเรื่องครอบครัว ร่ำลาเพื่อน ฯลฯ

อ่านๆ ไป ผมก็เริ่มคิดว่าคนเราจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องแก่ก่อน ต้องรอให้ถึงเวลาที่จะต้องพรากจากสิ่งที่รักไป ต้องเสียใจก่อนแล้วจึงเริ่มทำสิ่งที่เราอยากทำ สำหรับตัวผม ผมบอกได้ว่ามันคงไม่จำเป็นต้องรอ เพราะคนเราชีวิตสั้นนัก...

แล้วคุณล่ะ? คุณมีความคิดความฝันอะไรสักอย่างที่อยากจะทำบ้างไหม แล้วถ้าคุณมีแล้วคุณมีวิธีชัดๆ อย่างไรที่จะทำฝันของคุณให้เป็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่ฝัน
ความฝันชัดๆสำหรับตัวผมในปัจจุบันก็คือความจริงที่ปฎิบัติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี้ ไม่ใด้คิดว่าจะต้องตั้งความฝันแล้ววิ่งตามค้นหา ส่วนใหญ่จะเป็นการวางแผนคิดและมองไปข้างหน้าว่ามันทำใด้หรือไม่ ทำอย่างไรและตัวเราต้องการผลลัพธ์กับมันอย่างไรรวมทั้งบทสุดท้ายจะเป็นอย่างไรเคยคิดเสมอว่าในความสำเร็จใดๆก็ตามมักจะมีการสูญเสียแฝงอยู่ดังนั้นจึงไม่เอาความฝันมาผูกมัดเพื่อให้ใด้มาซึ่งเป้าหมายตามที่ต้องการ การเรียนรู้วิเคราะห์ลมหายใจที่เข้าออกทุกๆวันว่าวันนี้ใด้ทำอะไรที่ดีหรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้องบ้าง จะเป็นความสำเร็จของชีวิตที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่นไม่สูญเสียและเบาสะบายที่สุดครับ

มีและคิดว่ามันต้องเป็นความจริงแม้มันจะใช้เวลานานเพราะคนเราศักยภาพภายในไม่เท่า
กันการสร้างฝันควรมีหลักหรือคติยึดประจำใจอาจเป็นประโยคเด็ดๆืี่ที่ทำให้เรามีกำลังใจใน
การฮึดสู้ต่อไป

ความฝันของเราคืออยากได้ไปเห็นโลกกว้างให้มากที่สุด เพราะชีวิตไม่แน่นอน ไม่มีเวลารออีกแล้ว จะรอให้ใครพาไปก็ไม่มีเวลา จึงต้องคิดเอง วางแผนเองทั้งหมด ความฝันอันใกล้ที่อยากทำคืออยากไปเที่ยวอลาสกา ในหน้าร้อนปีหน้า ตอนนี้เริ่มศึกษาเส้นทางที่จะไป ยังตัดสินใจไม่ได้มาก ชวนใครก็ไม่มีคนสนใจ เราว่าเป็นเรื่องท้าทายมากที่จะไปให้ถึง ทางที่ไปโดยเครื่องบินคิดว่าแพงเกินไป ทั้งค่าบิน ค่าที่พัก ท่องเที่ยว อาหาร เราเลยสนใจที่จะขับรถไปจากอเมริกา ไปลงเรือข้ามฟากไปอลาสก้า หรือขับรถผ่านเข้าแคนนาดา แล้วไปออกอลาสกา
เราก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ถ้าขับรถไป จะเอารถเราไปเอง หรือจะเช่ารถขับไปดี
เรื่องที่พัก ถ้าเช่ารถ RV ไป ก็ไปพักแบบแคมปิ้ง ก็จะประหยัดค่าโรงแรม และสามารถทำอาหารทานได้
เราก็กำลังคิดอยู่ ที่จะทำให้ความฝันเป็นจริง แต่ยังอีกไกล เพื่อน ๆ มีข้อแนะนำ หรือข้อมูลอะไรที่จะเป็นประโยชน์ ก็บอกด้วยนะ
4 เดือน ผ่านไป


ตอนอายุ 18-21 ติดเกมส์ออนไลน์มากเรียกได้ว่าช่วงชีวิตนั้น
แบ่งเป็นสองโลก โลกของเกมส์กับโลกในชีวิตความจริง

ผมเลยผูกพันกับเกมส์มาก ๆ ตอนที่ตัดสินใจจะเลิกเล่นเด็ดขาด
ตอนนั้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้ากิล อิอิ มีสมาชิกเยอะมาก
กะลังไปได้ดีเลยสำหรับโลกเกมส์ออนไลน์ แต่ตรงกันข้าม
ชีวิตจริง ผมย่ำแย่มาก ไม่ไปเรียน ติด F ติด i สะสมมาเรื่อย ๆ
จนหมดความอดทนกับตัวเอง กดดันมาก ผมตัดสินใจครั้งสำคัญ
ในชีวิตเลยน่ะ 555+ เลิกเล่นเกมส์ ให้เหตุผลกับตัวเองและเพื่อนว่า

ผมอยากเปลี่ยนตัวเองจาก User ไปเป็น Programmer
สุดท้ายก้อได้เป็น Programmer แต่ความฝันจริง ๆ ยังไม่เสร็จ
ผมอยากมีส่วนในการทำเกมส์ออนไลน์สายพันธ์ไทยดี ๆ ซักเกมส์
รู้สึกเสียดายเวลาเหมือนกันที่ เริ่มช้าไปหน่อย แต่ก้อยังทำ

ผมว่าความฝันของคนเราเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ
เหมือนเป้าหมายในชีวิต เป็นการต่อยอด
ทำจุดนี้เสร็จ ก้อเริ่มใหม่กับอีกจุด จริงไหมครับ
การมีความฝันมันทำให้เราสนุกกับชีวิตนะ

ทำอยู่ครับ ตอนเด็กๆผมฝันว่าอยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ตอนนี้ก็กำลังทำอาชีพนี้อยู่ แต่ตอนนี้ก็เป็นผู้กำกับเงา เรียกได้มาทำแบบไม่มีชื่อแต่ได้ฝึกปรือฝีมือ และก็จะพยายามหาวิเข็นโปรเจ็คท์ของตัวเองใด้ออกสู่สายตาสาธารณะชน

--ผมว่าการทำฝันนั้นบางทีแทบไม่มีอะไรต้องรอเลย ทุกคนได้เวลามาเท่าๆกัน อยู่ที่การจัดการ บางคนมีความสุขกับฝันเล็กๆของเขา ฝันบางคนก็อาจจะใหญ่หน่อย ก็แล้วแต่ครับ

เปิดบล๊อกให้เยี่ยมชมความฝันของกลุ่มผมกันครับ

http://foolmoonstudio.exteen.com/

แวะเข้าไปเยี่ยมชมกันได้นะครับ ทุกอย่างที่เห็นในนั้นไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเงิน แต่มันขับเคลื่อนด้วยใจครับ

ชีวิตคนเราไม่แน่นอน อยากจะทำอะไรที่ฝัน ต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงๆถึงจะเป็นความจริง ถ้ามัวรอคอยเวลาและโอกาสอาจไม่ได้เป็นไปตามความฝันได้

ฝันเป็นเรื่องของการจินตนาการถึงชีวิตของเราแน่นอนทุกคนย่อมมีความฝันมากบ้างน้อยบ้าง
ผมยึดหลักที่ว่า "เกิดเป็นคนควรพยายามเรื่อยไปจนกว่าจะสำเร็จ" แล้วก็ค่อยๆสำเร็มาแล้วทีละอย่าง แต่ต้องสารฝันด้วยความพยายาม

"Success is a Journey,not a Destination"

ความฝันก็มีมากมายแต่เอาเข้าจริง ก็มีภาระเข้ามามากพร้อมๆกัน การแบ่งเวลาเลยตีกันไปหมด ประกอบกับชอบคิดโน่น..คิดนี่ตลอดเวลาแต่ให้ดีอย่างเดียวไม่ได้เลย เป็นสิ่งไม่ดีอย่าเอาเยี่ยงอย่างน่ะ

รู้อะไรก็ให้รู้จริงในเรื่องนั้นๆ นี่รู้ไปหมดจนอาจารย์ท่านมักเรียกขานเสมอๆว่า"ฉลาดกว้าง แต่โง่ลืก" ^^"

ส่วนความฝันที่ตั้งใจไว้ก็เป็นการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้งานด้วยตนเอง ..... แต่ด้วยข้อจำกัดบวกกับความใส่ใจน้อยไป อีกทั้งเคยมีคนบอกว่า ทุกคนมีข้อจำกัดในตัวเองนี่ท่าจะจริงแฮะ จึงยังแป้ก!! ขอให้ทำ thesis ให้แล้วเสร็จก่อนสิน่ะ คราวนี้ไม่น่าพลาดแน่นอน แล้วจะเอาแลกเปลี่ยนกัน *O*

มีความฝันที่อยากทำให้เป็นจริงนะ ไม่บอกหรอกว่าอะไร มีคนเคยบอกว่า บางทีการเล่าความฝันให้คนอื่นฟังอาจโดนหัวเราะ เราต้องทำให้เขาดูตะหาก คนถึงจะชื่นชมครับ

วิธีทำให้ฝันเป็นจริงอะเหรอ ยังไม่ชัดมากครับ มันยังดูไกลอยู่เหมือนกันอะ ของบางอย่างแพลนยาวๆยากให้ชัดเจนยากอะ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีแผน นะ แผนคร่าวๆคือ ค่อยๆทำตัวให้ใกล้ความฝันเข้าไปทีละนิดไม่หยุดนิ่งครับ :)

ป.ล. พูดถึงการตายอย่างสง่างามลองเข้าไปหา วีดีโอของ Randy pausch ดูครับ
e.g. http://www.youtube.com/watch?v=ZQtwEKlUutA
เขาเป็น professor ที่ CMU ที่ใกล้ตาย แล้วมาให้เลกเชอร์สอนนักเรียนครับ ดูแล้วซึ้งน้ำตาคลอเลย

by polla เป็นสมาชิกตั้งแต่:
08 สิงหาคม 2007
คะแนนรวม:
370 (ระดับ 2)
เพิ่มเข้าไปยังรายชื่อเพื่อนของฉัน

บล็อคผู้ใช้

คำตอบที่ดีที่สุด 10%78 คำตอบ
เป็นสมาชิกตั้งแต่: 08 สิงหาคม 2007
คะแนนรวม: 370 (ระดับ 2)
คะแนนที่ได้รับในสัปดาห์นี้: 0เพิ่มเข้าไปยังรายชื่อเพื่อนของฉัน
บล็อคผู้ใช้
เพิ่งซื้อหนังสือเล่มนี้มาเหมือนกันค่ะ ที่งานสัปดาห์หนังสือ ต้องขอบคุณ Yahoo รอบรู้ที่ทำให้เราได้รู้จักหนังสือเล่มนี้ (เพราะจำได้ว่า มีใครคนนึงในนี้แนะนำให้ลองอ่านดู) แต่เนื่องจากมีภารกิจสอบที่สำคัญมาก เลยงดไว้ก่อนเลยทำให้หายหน้าจาก yahoo รอบรู้ ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ก็เคลียร์งานและเวลาได้เหมือนเดิมแล้วหล่ะ

จะบอกว่า สำหรับเรา ความฝันมีทั้งที่เป็นจริงได้ และเป็นจริงไม่ได้ ความฝันที่ทำให้เป็นจริงได้ คือ อยากเป็นนักวิจัย ที่มากความสามารถ น่าเชื่อถือ ซึ่งต้องสะสมประสบการณ์มาก เป็นความฝันที่สามารถเป็นจริงได้ แต่ต้องอาศัยความพยายามและขยัน เพราะทุกคนสามารถเป็นนักวิจัยได้ แต่เลือกที่จะเป็นแบบไหนกันหล่ะ ความฝันนี้เกิดจากการทำงาน ทำให้รู้สิ่งที่ตัวเองชอบ และมองเห็นเป้าหมายว่า ไม่ไกลเกินความพยายาม แม้ต้องใช้เวลาหลายปีในการสะสมประสบการณ์ แต่ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา ถ้าเพียงแต่เรารู้ว่า สิ่งที่เราต้องการจริงๆ แล้วคืออะไร ยกตัวอย่าตัวเอง ที่พอรู้แล้ว เราก็ดูว่า ปัจจัยที่จะไปถึงจุดนั้นมีอะไรบ้าง ก็ค่อยๆ ไต่เต้าไปทีละนิด วางแผนทีละอย่างว่า ได้จุดนี้ แล้วค่อยไปอีกขั้น ไปตามเสต็ปของมัน

คนที่มีฝัน และพยายามตามฝัน ถือว่าชีวิตไม่น่าเบื่อนะคะ ว่ามั๊ย

ฝันอยากเป็นเจ้าของร้านหนังสือ อยากเป็นเจ้าของกิจการ ตอนนี้เกือบทำได้แล้ว มีร้านหนังสือเป็นของตัวเองแล้ว เป็นหนังสือมือสอง เราเอามาขาย หนังสือเป็นหนังสือนำเข้า จำพวกหนังสือเด็กเช่น บอร์ดบุ๊ก หนังสือนิทาน หนังสือภาพ สอนภาษา ABC 123 อะไรปานนี้ แต่ยังติดว่า ยังต้องระดมเงินเพื่อขยายร้านอีกมาก เลยยังต้องทำงานประจำด้วย กะว่าถ้าร้านขยายใหญ่ได้ตามที่ต้องการ ก็จะได้เวลา ลาออกจากงานประจำ มาดูร้านเลย

ยังคงต้องพยายามอีกนานเลยบ่ะ

ที่มา:
http://angeltomorrow.bloggang.com/
http://www.angeltomorrow.com/

by นายริด เป็นสมาชิกตั้งแต่:
30 สิงหาคม 2007
คะแนนรวม:
2287 (ระดับ 3)
เพิ่มเข้าไปยังรายชื่อเพื่อนของฉัน

บล็อคผู้ใช้

ผมคิดว่าอยากเห็นคนไทยกล้าคิดกล้าพูดกล้าทำด้วยความมีเหตผลสามารถ
ยอมรับและรับฟังผู้อื่นนำสิ่งที่ดีๆไปปฏิบัติซึ่งได้พยายามทำในวงการผู้เลี้ยงโคนม
ของประเทศไทยและในกลุ่มปากช่องเล็กๆซึ่งหากได้ผลที่พอใจระดับหนึ่ง
สมาชิกมักเริ่มคิดและถามกล้าแสดงออกพอสมควรวิธีที่ทำให้ได้ดังความ
ต้องการนั้นเริ่มที่ตนเองกระทำก่อนแล้วบอกกล่าวให้ทราบและลองทำในสภาวะ
ของแต่ละบุคคลในขณะนั้นซึ่งผมว่าก็ได้ผลนะแต่การพัฒนาคนต้องไช้เวลาและ
ไม่ท้อก่อนนะครับ

ได้อ่านข้อความที่คุณกล่าวมาจากหนังสือเล่มนั้นเรานึกถึงอดีตเมื่อเร็วๆนี้ของตัวเองค่ะ

"เหตุการณ์ก่อนตาย" เราเคยได้อ่านเรื่องราวของผู้หญิงคนนึงเหมือนกัน ไม่ได้โด่งดังอะไรมาก เราค้นหาเค้าเจอใน internet เค้าเล่าว่าเค้าเป็นโรคร้ายและอยู่ได้ไม่นานเหมือนกับตัวอย่างของคุณ
เราได้อ่านเรื่องราวของเค้าในวันต่างๆ มีคนไม่น้อยที่ได้ติดตามเรื่องราวของเธอ เธอพยายามเขียนระบายความรู้สึกนึกคิด และชีวิตประจำมาอย่างสนุกสนาน เกี่ยวกับว่า..สามีเธอดีต่อเธอแค่ไหน ครอบครัวเป็นกำลังใจให้มากแค่ไหน หลังจากทราบเรื่อง? แต่แล้วในที่สุด เธอหนีไม่พ้นความตาย....

เราได้อ่าน เราก็รู้สึกเศร้าไปด้วยอย่างมาก .....ชีวิตคนเรามันสั้นจริงๆ

นี่ขนาดเรื่องของคนอื่น ใครไม่รู้เราไม่รู้จัก เรายังรู้สึกเศร้าและมีน้ำตาออกมาได้!?

จนต่อมา เราก็ได้อยู่ในสถานการณ์นี้กับตัวเอง.....

เราไปตรวจสุขภาพแล้วผลออกมามีบ้างสิ่งอย่างอย่างน่าเป็นห่วง
เรารู้สึกกังวลมากๆ เพราะสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดในโลกนี้ก็คือ"ความตาย"
เราไม่อยากตายเลยจริงๆ เราก็คิดไปต่างๆนานา คิดถึงเรื่องราวของคนป่วยก่อนตายที่เราเคยได้อ่านๆมา มันเศร้า มันคล้ายๆจะสิ้นหวัง หมดแรงที่จะทำอะไร

เราจมอยู่กับความเศร้านานพอสมควร
พอเราไปเช็คอย่างละเอียด หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรๆ เราก็โล่งใจมานิดนึง แต่มันก็ยังไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เรารู้ว่าเราน่าจะอ่อนแอนะ ดูจากญาติๆของเราแล้วด้วย เราคิดว่าไม่เร็วไม่ช้านี้ ก็คงจะถึงคิวของเรา ไม่ใครก็ใคร.....

ถามถึงว่า ความฝันของเรามีไหม และเป็นอย่างไรบ้าง?
มีค่ะ มีเยอะแยะไปหมด..
อย่าเรียกว่า"ความฝัน" มันเหมือนจินตนาการที่ห่างไกลอย่างไรไม่รู้
เรียกว่า"สิ่งที่เราตั้งใจไว้ อยากจะทำ หรืออยากจะเป็น" น่าจะดีกว่า

มีเยอะแยะมากมายไปหมด บางส่วนก็ทำได้แล้ว บางส่วนก็กำลัง และบางส่วนก็เป็นเรื่องของอนาคต
เราก็ค่อยๆทำไป ไม่เร่งรีบ หรือช้าเต่าเกินไปนัก

จากการผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ อย่างเรื่องประสบการณ์ก่อน(เกือบ)ตาย คิดว่าตัวเองจะตายแน่ๆแล้ว และก็เรื่องอื่นๆที่เราเคยประสบพบเจอมาในอดีต มันก็ทำให้เรา"ด้านชา"ขึ้น เรียกเท่ห์ๆหน่อยว่า"เข้มแข็ง"ขึ้น

ดังนั้น เรื่อง"ความตาย" ก็ยังกลัวและไม่อยากตายอยู่นะ แต่ก็พอทำใจได้แล้ว

หากว่าเราจะต้องตายตอนนี้ เราก็คิดว่า ที่ผ่านมา เราทำความฝัน"สิ่งที่ตั้งใจว่าอยากจะทำอยากจะเป็น" ได้ดีที่สุดแล้วค่ะ!!
และเราก็ภูมิใจกับสิ่งที่เราได้เป็นและได้ทำมาในอดีตด้วย ไม่เคยเสียใจแม้กระทั่งสิ่งโง่ๆที่เราอาจจะเคยทำพลาดไป มันเป็นบทเรียน เป็นเครื่องเตือนใจที่ดีมากๆ....สำหรับเรา ^_^

เมื่อก่อนนี้มีความฝันว่าอยากเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ไปเห็นในสิ่่งที่ไม่เคยเห็น ไม่ว่าจะเป็นผู้คน วัฒนธรรม บ้านเมืองที่พวกเค้าอยู่ จนมีโอกาสได้ทำความฝันนั้น ได้ไปในที่ต่าง ๆ และยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็น ได้เรียนรู้ ให้มากที่สุด

แต่พอได้อ่านคำถามนี้แล้ว อยากตอบมากแต่นั่งงงอยู่ซักพักเพราะนึกไม่ออกว่าตอนนี้ความฝันของตัวเองคืออะไร? ถามตัวเองว่าเป็นไปได้หรือที่เราจะไม่มีความฝันอย่างอื่นแล้ว ? ทำให้ได้คิดและนึกย้อนกลับไปถึงตอนก่อนท่ีจะทำความฝันในการเดินทางให้เป็นจริง ว่าตัวเองมีแรงบันดาลใจ มีพลัง มีความกระตือรือร้นขนาดใหน แต่ตอนนี้ ชีวิตมีความสุข เรียบง่าย สบาย ๆ แต่กลับไม่ความฝัน พยายามถามตัวเองว่าอะไรที่อยากทำที่สุด ก็ยังตอบไม่ได้อยู่ดี ต้องขอขอบคุณกับคำถามนี้มากค่ะ ให้ตัวเองได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ชีวิตมีอะไรที่รอการค้นพบอีกมาก ตอนนี้ก็พยายามฟังเสียงหัวใจ ที่อาจจะลืมฟังเพราะถูกกลืนไปกับชีวิตประจำวัน และถ้าเมื่อไหร่ค้นพบว่าความฝันของตัวเองคืออะไร ก็จะพยายามทำให้เป็นจริงให้ได้ค่ะ

LINK: http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20071205210247AAXUjSJ