Friday, 5 April 2013

เรื่องส้วมๆในเมืองจีนกับUNICEF...

 
 
 

 

เรื่องส้วมๆในเมืองจีนกับUNICEF...

ใครที่เคยมาเที่ยวประเทศจีนคงเคยมีวีรกรรมกับการใช้ส้วมในเมืองจีนจนเป็นที่กล่าวขานทั่วไปในประเทศไทยจนนำไปทำเป็นเรื่องตลกขบฮาในหมู่คนไทย ปัจจุบันในหลายเมืองใหญ่ในประเทศจีนมีการพัฒนาเรื่องส้วมไปมากจนทำให้คนที่แบกภาระที่จะใช้ส้วมสะดวกสะบายมากขึ้น

แต่ก็ยังมีหลายจุดในประเทศจีนที่ส้วมยังไม่มีการพัฒนาโดยเฉพาะในเมืองชั้นสอง ชั้นสามหรือตามชนบทในประเทศจีนจนองค์การ UNICEF ต้องขอเข้ามามีเอี่ยวด้วย

 

สำหรับ ยวี่เหวินหมิน (Yu Wenmin) นักเรียนวัย 14 ปีเมื่อต้องตอบสนองต่อความเรียกร้องจากธรรมชาติเมื่อข้าศึกบุกเคยเป็นฝันร้ายของเด็กคนนี้

"ห้องส้วมโรงเรียนของผมไม่ต้องมีป้ายบอกเลย คุณสามารถรู้ได้มันอยู่ตรงไหนจากกลิ่นที่โชยมาเข้าจมูก" น้องยวี่ นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมอันหลงมณฑลกุ้ยโจวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน

ห้องส้วมโรงเรียนเป็นห้องส้วมแบบชนบททั่วไปคือส้วมหลุมซึ่งไม่มีระบบการชำระล้างทั้งราดน้ำและฟลัทช์ และยังไม่มีที่ล้างมือ

อุจจาระทั้งหมดจะถูกกำจัดเมื่อปิดเทอมแต่ละภาคจากส้วมหลุมซึ่งให้บริการแก่นักเรียนจำนวน 396 คน

"เมื่อผมใช้ห้องส้วม ผมต้องกลั้นหายใจ และต้องสืบเท้าเข้าไปนั่งยองๆบนขอบหลุม ไม่กล้ามองลงไปดูอะไรที่อยู่ข้างล่าง" น้องยวี่เล่าและขมวดคิ้วไปด้วย

ไม่นานมานี้ ในเดือนกันยายน 2012 ห้องส้วมโรงเรียนได้ถูกพัฒนาให้เป็นโถส้วมแบบใหม่พร้อมระบบน้ำชำระและอ่างล้างมือ และการกั้นเป็นห้องส้วมส่วนตัวแต่ละห้องถูกสร้างให้บริการแก่นักเรียนหญิงเพื่อสุขอนามัยของนักเรียนหญิง

"มันดูสะอาดและสะดวกสบายขึ้น ผมไม่จำเป็นต้องกังวลใจว่าจะตกลงไปในส้วมหลุมเมื่อไหร่" น้องยวี่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม

การปรับปรุงส้วมเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับสุขอนามัยของโรงเรียนในเทอมนี้เป็นผลจากโครงการนำร่อง 3 โครงการในเขตอันหลงร่วมกับองค์กรณ์ UNICEF และสหพันธ์สตรีจีน (the All China Woman's Federation) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2012 เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน (Sustainable Environment) แผนการมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความตระหนักในสุขอนามัยส่วนบุคคล และการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่เด็กๆตามชนบท

น้องยวี่เหวินหมินยังพบกับความเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม การติดตั้งแผงระบบทำความร้อนพลังแสงอาทิตย์ได้ถูกติดตั้งบนห้องน้ำ เครื่องทำน้ำร้อนสำหรับดื่มและถ้วยน้ำบริการแก่นักเรียนให้มีน้ำร้อนสำหรับดื่มในช่วงฤดูหนาว สนามหญ้าบางส่วนจัดให้มีการปลูกผักและจัดสถานที่เลี้ยงไก่เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนการให้แก่อาหารกลางวันแก่นักเรียน

องค์กรณ์ UNICEF เป็นห่วงในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและทัศนคติทางด้านสุขอนามัยในจังหวัดที่ห่างไกลยังคงล้าหลังกว่าเมืองที่พัฒนาแล้ว ทางองค์กรณ์วางแผนที่จะขยายโครงการไปยังโรงเรียนอื่นๆเพิ่มขึ้น

"ทุกคนละอายใจเกี่ยวกับเรื่องห้องน้ำโดยเฉพาะห้องน้ำในชนบท" ดอกเตอร์หยางเจิ้นโป (Yang Zhenbo) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำและสุขอนามัยของ UNICEF กล่าว "ห้องน้ำทุกคนมองว่าเป็นสถานที่สกปรกและทุกคนปฎิเสธที่จะลงทุนมากๆในการปรับปรุงมันในขณะที่พวกเขาสร้างบ้านใหม่หรือโรงเรียนใหม่"

จากรายงานในปี 2012 ขององค์กรณ์ UNICEF และองค์กรณ์อนามัยโลก (World Health Organization) ระบุว่า 36% ของประชากรจีน หรือประชากรจีนจำนวน 477 ล้านตนยังไม่สามารถเข้าถึงห้องน้ำที่ถูกสุขอนามัย หมายความว่า ประชากรเหล่านั้นยังสัมผัสกับสิ่งสกปรก

กิลเลียน เมลซอฟ (Gillian Mellsop) ผู้แทนจากองค์กรณ์ UNICEF ในประเทศจีน กล่าวว่า "การร่วมมือกับรัฐบาลจีน เราต้องการขยายรูปแบบนี้ออกไปทั่วประเทศจีนเพื่อให้เด็กๆในชนบทจีนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้"

เรื่องส้วมเป็นการบ่งบอกได้ดีว่า ประเทศจีนยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนา ผมอยู่ประเทศจีนมาย่างเข้าปีที่ 13 แล้วผ่านส้วมจีนมาทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นส้วมหลุม ส้วมราง ส้วมนั่งยอง ส้วมชักโครก ทั้งประเภทมีผนังกั้น ผนังกั้นแค่ครึ่งตัว หรือไม่มีผนังกั้นประเภทต้องหาหนังสือพิมพ์เข้าไปนั่งอ่านกันเขินก็มี เพราะเรื่องแบบนี้พอข้าศึกบุกไม่เคยปราณ๊ใคร

เมืองหลวงเป่ยจิงเช่นกันหน้าฉากตามถนนใหญ่ดูโอ่อ่างดงามเป็นไปด้วยสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ แต่ถ้าบุกเข้าไปในตรอกซอกซอยจะพบความจริงปรากฎ ผมเคยเข้าไปใช้ส้วมสาธารณะที่ใจกลางกรุงเป่ยจิงเมื่อปีก่อน ไปพบความจริงที่ว่าเป็นส้วมหลุมใช้ปูนขาวสาดเมื่อทำธุระเสร็จดังภาพประกอบด้านบนอยู่เลย แต่ไหนๆมาถึงแล้วก็ต้องลองดูสักตั้ง

เมืองที่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องส้วมน่าจะเป็นที่เซี่ยงไฮ้และกวางโจว แต่ก็มีปัญหาจนได้เพราะประชากรจีนที่มากจนส้วมไม่พอใช้ แต่ที่ร้ายกว่านั้นความไม่มีระเบียบและมารยาทในการใช้ห้องส้วมจนทำให้ห้องน้ำสกปรกเกลื่อนกลาดไปด้วยอนาคอนด้าและน้ำเสีย...แค่นี้ก็พอจะบอกได้ว่าประเทศจีนศรีวิไลซ์หรือยัง

 

 

 

Clik Here!