Monday, 8 October 2007
เปิดโปงซ้อ7
เปิดโปงซ้อ7 !!!!!!
ซ้อ7 คือ สันติ เสวตวิมล + ฝ่ายข่าวบันเทิงของผู้จัดการ (ไอ้ต่อพงษ์กับพวกพ้อง) พลัดกันเขียน โดยยุคแรก สันติจะเขียนเป็นส่วนใหญ่ต่อมาจึงได้มีการหมุนเวียนกัน กันคนจับได้ เมื่อก่อนสันติเคยเขียนอยู่ที่ไทยรัฐแต่โดนเฉดหัว จึงได้มาเข้าแกงค์ไอ้สนธิ ดังข้อความต่อไปนี้ "หากมองย้อนกลับมาดูที่ซ้อเจ็ด, ซ้อเจ็ดก็ไม่ได้เป็นคนที่ดี สะอาดสะอ้านอะไร เมื่อในอดีต คุณเคยมีอิทธิพลในหนังสือพิพม์ยักษ์ใหญ่หัวเขียวหน้าบันเทิง ดาราทั้งหลายที่อยากเกิดในวงการเช่น มรกต ดาวโป๊ ดาวยั่ว เด็กสาวที่อยากเป็นดาราแต่เป็นเด็กบ้านนอก เด็กเหนือ เด็กจากบนดอย...
ถ้าอยากเป็นดารา ก็ต้องยอมนอนกับ"ซ้อเจ็ด" จากนั้น เด็กสาวเหล่านั้น ถึงจะได้รับการปลุกปั่นให้เป็นดารา โชคร้าย เมื่อหนังสื่อพิมพ์ยักษ์ใหญ่หัวเขียวเปลี่ยนยุค เนื่องจาก "ป๊ะกำพล"เสียชีวิต การจัดการในกองบรรณาธิการมีการปฏิวัติครั้งใหญ่ โดยสราวุธ ซ้อเจ็ด เป็นอีกหนึ่งที่ถูกปฏิวัติ เพราะความเน่าเฟะ การใช้อิทธิพลจากการได้เป็นคอลัมนิสต์ในหน้าบังเทิงของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ สราวุธและอินทิรา อยากให้"ไทยรัฐ" เปลี่ยนจากหนังสือพิมพ์ภาพเน่าเละ หาความเชื่อถือไม่ได้ มาเป็นหนังสือพิมพ์ ที่ดี "กว่าที่เคยเป็นมา" ดังนั้นซ้อเจ็ด เลยต้องระเห็จจากไทยรัฐและมีชีวิตตกต่ำอยู่เป็นนาน หลายปี ระหว่างนั้นซ้อเจ็ด ป่วยหนัก...บารมีที่เคยมีหดหาย มีชีวิตแบบ Nobody และป่วยแทบใกล้ตาย? สนธิ ลิ้มทองกุล แห่ง นสพ.ผู้จัดการ หยิบยื่น
"โอกาส" มาให้ซ้อเจ็ด ด้วยการเกื่อหนุนให้ได้มีโอกาสทำหนังสือพิมพ์บังเทิง"Tabloid" เป็นรายสัปดาห์ จากการเป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มนี้ ทำให้ซ้อเจ็ด ได้มีโอกาส หาข่าวลึกลับใต้กระโปรงและกางเกงชั้นในของดาราชายหญิง ด้วยการทำหน้าที่แบบ paparacci เพราะฉะนั้น ซ้อเจ็ดจึงสามารถนำข้อมูลเชิงต่ำกว่าใต้สะดือ มาขาย และ ขยายผลในนามปากกาของ ซ้อเจ็ด และทำให้ web site ของ manager hit ติดลมบนไปทั้ง web site. ถ้าดู้จากเบื้องหลัง....
เราควรจะเคารพในการทำงานของซ้อเจ็ดหรือไม่??? ในทางกฎหมายจะมีคำพูด คำพูดหนึ่งซึ่งเป็นหลักกฎหมายด้วย ก็คือคนที่มาศาลนั้น จะต้องมาศาลด้วยมือสะอาด เพราะฉะนั้น หากซ้อเจ็ดก็ไม่ใช่คนที่ดี สะอาด ซ้อเจ็ดก็ไม่ควรจะได้รับสิทธิและความไว้เนื้อเชื่อใจจากใครได้ เพราะเมื่อคุณด่าใคร คุณก็มีบาดแผลและชนักติดหลังที่เน่าเละ เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเทียบกับกรณีของคุณคัทลียา ซ้อเจ็ดก็ไม่มีสืทธิไปด่าออกความเห็นเพราะคุณไม่มีสิทธิมาตั้งแต่ต้น ดิฉันไม่ใช่คนที่รับจ้างโพสต์ ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่แฟนคลับ แตต่เป็นคนที่เคยอยู่ในวงการ ในช่วง
"ที่คุณสันติ เสวตวิมล" ใหญ่คับวงการบันเทิง และไม่เคยชอบในวิธีการทำงานในฐานะนักข่าวบันเทิงและคอลัมนิสต์ของคุณ ที่สำคัญ ดิฉันมั่นใจว่า ข้อมูลเกี่ยวกับคุณดิฉันรู้จริง และแฉคุณได้ เพราะอิทธิพลของคุณและคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มันจะทำอะไรดิฉันแน่นอน โปรดอย่าลบความคิดเห็นของดิฉัน ถ้าคุณคิดว่า คุณแน่จริงและสะอาดจริง ซ้อเจ็ด คือ สันติ เสวตวิมล หรือแม่ช้อยนางรำ อดีตขาใหญ่แห่งไทยรัฐ ยุคที่คนอ่าน Sorjed ในวันนี้ บางคน อาจจะเพิ่งเกิดมาได้ขวบสองขวบ เลยไม่รู่ว่า ในอดีตที่ไทยรัฐ เขาเลวขนาดไหน ต้องลองไปถาม อรพรรณ พานทอง วัชรพล, สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์
(ซ้อเจ็ดตั้งนามสกุลและชื่อใหม่ให้เธอ) สินจัย หงส์ไทย เปล่งพานิช มรกต มณีฉาย ดาราที่มาจากเผ่าทางภาคเหนือ... และ ฯลฯ บัดนี้ สันติ เสวตวิมล กำลังแก้แค้นมันเป็นการแก้แค้นย้อนหลัง ในช่วงที่ดาราเหล่านั้น ไม่มาพินอบพิเทา ยามเมื่อตน"เปิดโปงอีซ้อ 5555 ก๊ากๆๆๆๆๆๆ สะใจ
ซ้อ7 คือ สันติ เสวตวิมล + ฝ่ายข่าวบันเทิงของผู้จัดการ (ไอ้ต่อพงษ์กับพวกพ้อง) พลัดกันเขียน โดยยุคแรก สันติจะเขียนเป็นส่วนใหญ่ต่อมาจึงได้มีการหมุนเวียนกัน กันคนจับได้ เมื่อก่อนสันติเคยเขียนอยู่ที่ไทยรัฐแต่โดนเฉดหัว จึงได้มาเข้าแกงค์ไอ้สนธิ ดังข้อความต่อไปนี้ "หากมองย้อนกลับมาดูที่ซ้อเจ็ด, ซ้อเจ็ดก็ไม่ได้เป็นคนที่ดี สะอาดสะอ้านอะไร เมื่อในอดีต คุณเคยมีอิทธิพลในหนังสือพิพม์ยักษ์ใหญ่หัวเขียวหน้าบันเทิง ดาราทั้งหลายที่อยากเกิดในวงการเช่น มรกต ดาวโป๊ ดาวยั่ว เด็กสาวที่อยากเป็นดาราแต่เป็นเด็กบ้านนอก เด็กเหนือ เด็กจากบนดอย...
ถ้าอยากเป็นดารา ก็ต้องยอมนอนกับ"ซ้อเจ็ด" จากนั้น เด็กสาวเหล่านั้น ถึงจะได้รับการปลุกปั่นให้เป็นดารา โชคร้าย เมื่อหนังสื่อพิมพ์ยักษ์ใหญ่หัวเขียวเปลี่ยนยุค เนื่องจาก "ป๊ะกำพล"เสียชีวิต การจัดการในกองบรรณาธิการมีการปฏิวัติครั้งใหญ่ โดยสราวุธ ซ้อเจ็ด เป็นอีกหนึ่งที่ถูกปฏิวัติ เพราะความเน่าเฟะ การใช้อิทธิพลจากการได้เป็นคอลัมนิสต์ในหน้าบังเทิงของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ สราวุธและอินทิรา อยากให้"ไทยรัฐ" เปลี่ยนจากหนังสือพิมพ์ภาพเน่าเละ หาความเชื่อถือไม่ได้ มาเป็นหนังสือพิมพ์ ที่ดี "กว่าที่เคยเป็นมา" ดังนั้นซ้อเจ็ด เลยต้องระเห็จจากไทยรัฐและมีชีวิตตกต่ำอยู่เป็นนาน หลายปี ระหว่างนั้นซ้อเจ็ด ป่วยหนัก...บารมีที่เคยมีหดหาย มีชีวิตแบบ Nobody และป่วยแทบใกล้ตาย? สนธิ ลิ้มทองกุล แห่ง นสพ.ผู้จัดการ หยิบยื่น
"โอกาส" มาให้ซ้อเจ็ด ด้วยการเกื่อหนุนให้ได้มีโอกาสทำหนังสือพิมพ์บังเทิง"Tabloid" เป็นรายสัปดาห์ จากการเป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มนี้ ทำให้ซ้อเจ็ด ได้มีโอกาส หาข่าวลึกลับใต้กระโปรงและกางเกงชั้นในของดาราชายหญิง ด้วยการทำหน้าที่แบบ paparacci เพราะฉะนั้น ซ้อเจ็ดจึงสามารถนำข้อมูลเชิงต่ำกว่าใต้สะดือ มาขาย และ ขยายผลในนามปากกาของ ซ้อเจ็ด และทำให้ web site ของ manager hit ติดลมบนไปทั้ง web site. ถ้าดู้จากเบื้องหลัง....
เราควรจะเคารพในการทำงานของซ้อเจ็ดหรือไม่??? ในทางกฎหมายจะมีคำพูด คำพูดหนึ่งซึ่งเป็นหลักกฎหมายด้วย ก็คือคนที่มาศาลนั้น จะต้องมาศาลด้วยมือสะอาด เพราะฉะนั้น หากซ้อเจ็ดก็ไม่ใช่คนที่ดี สะอาด ซ้อเจ็ดก็ไม่ควรจะได้รับสิทธิและความไว้เนื้อเชื่อใจจากใครได้ เพราะเมื่อคุณด่าใคร คุณก็มีบาดแผลและชนักติดหลังที่เน่าเละ เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเทียบกับกรณีของคุณคัทลียา ซ้อเจ็ดก็ไม่มีสืทธิไปด่าออกความเห็นเพราะคุณไม่มีสิทธิมาตั้งแต่ต้น ดิฉันไม่ใช่คนที่รับจ้างโพสต์ ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่แฟนคลับ แตต่เป็นคนที่เคยอยู่ในวงการ ในช่วง
"ที่คุณสันติ เสวตวิมล" ใหญ่คับวงการบันเทิง และไม่เคยชอบในวิธีการทำงานในฐานะนักข่าวบันเทิงและคอลัมนิสต์ของคุณ ที่สำคัญ ดิฉันมั่นใจว่า ข้อมูลเกี่ยวกับคุณดิฉันรู้จริง และแฉคุณได้ เพราะอิทธิพลของคุณและคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มันจะทำอะไรดิฉันแน่นอน โปรดอย่าลบความคิดเห็นของดิฉัน ถ้าคุณคิดว่า คุณแน่จริงและสะอาดจริง ซ้อเจ็ด คือ สันติ เสวตวิมล หรือแม่ช้อยนางรำ อดีตขาใหญ่แห่งไทยรัฐ ยุคที่คนอ่าน Sorjed ในวันนี้ บางคน อาจจะเพิ่งเกิดมาได้ขวบสองขวบ เลยไม่รู่ว่า ในอดีตที่ไทยรัฐ เขาเลวขนาดไหน ต้องลองไปถาม อรพรรณ พานทอง วัชรพล, สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์
(ซ้อเจ็ดตั้งนามสกุลและชื่อใหม่ให้เธอ) สินจัย หงส์ไทย เปล่งพานิช มรกต มณีฉาย ดาราที่มาจากเผ่าทางภาคเหนือ... และ ฯลฯ บัดนี้ สันติ เสวตวิมล กำลังแก้แค้นมันเป็นการแก้แค้นย้อนหลัง ในช่วงที่ดาราเหล่านั้น ไม่มาพินอบพิเทา ยามเมื่อตน"เปิดโปงอีซ้อ 5555 ก๊ากๆๆๆๆๆๆ สะใจ