Thursday 8 November 2007
“ทำดีให้พ่อดู” ..... แค่คิดก็ดีพอแล้ว?
“ทำดีให้พ่อดู” ..... แค่คิดก็ดีพอแล้ว?
(Forward mail)
มีไม่ถึง 1% ของจำนวนประชากรกว่า 64 ล้านคนที่มีอายุเกิน 80 ปี
และนั่นหมายถึงว่าเกือบทุกคนในประเทศไทยเกิดและเติบโตขึ้นมาใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้มาโดยตลอด
เมื่อตอนยังเล็ก เราถูกสั่งสอนให้กราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ ยืนถวายความเคารพเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี เข้าแถวรับเสด็จเมื่อขบวนรถพระที่นั่งผ่าน ตอนนั้น เราอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไปทำไม รู้แต่เพียงว่าเป็นสิ่งที่ “ต้อง” ทำ และ “ควร” ทำเท่านั้น
พอเราเติบโตขึ้น เราก็จะได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านผ่านสื่อต่างๆ น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นพระองค์ท่านในฉลองพระองค์สง่างดงามเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ส่วนใหญ่แล้วเราจะคุ้นตากับการเห็นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปตามที่ทุรกันดารทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อทรงแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ นานา
และเมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติวิปโยคที่คนไทยหันมาทะเลาะฆ่าฟันกันเอง ก็มีแต่พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ที่ทรงเป็นที่พึ่งเดียวและเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน และทุกครั้ง ปัญหาต่างๆ ก็จะถูกขจัดปัดเป่าไปได้สิ้น
เราเคยชินกับภาพเหล่านั้น กับความรู้สึกเคารพเทิดทูนบูชาเช่นนั้นมาตลอดกว่า 60 ปี จนบางครั้งเราลืมความเป็นจริงที่โหดร้ายไปบางอย่าง
ความจริงที่ว่า พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของเราไม่ใช่ “เทพ”
ความจริงที่ว่าพระองค์ท่านก็เป็น “มนุษย์”
ความจริงที่ว่า “มนุษย์” มีทุกข์มีสุขได้ มีรัก โลภ โกรธ หลง ได้ และมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้เช่นกัน
ลึกๆ ในใจของเราก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ทรงตรากตรำทำงานหนักกว่าใครทั้งสิ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ทรงต้องแบกทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ และทรงพระชราภาพลงไปเรื่อยๆ
แล้วเราก็ใส่เสื้อเหลืองทุกวันจันทร์ จุดเทียนชัยถวายพระพร ร้องเพลงสดุดีมหาราชาและถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะเป็นคนดี จะทำความดีเป็นราชสักการะบูชาสำหรับพระมหากษัตริย์ของเรา
“ทำดีให้พ่อดู” กลายเสมือนเป็นคำสวดที่ติดปากพวกเราทุกคนในปัจจุบันนี้ - บ้างก็จะไปปฏิบัติธรรมถวาย บ้างก็จะลด ละ เลิกอบายมุขและสิ่งเสพติดต่างๆ บ้างก็จะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด บ้างก็จะเลิกโกงกินก้าวร้าวต่อกัน และบ้างก็จะอยู่อย่างพอเพียง
เราคิดดี เราพูดดี แต่เราได้ทำตามที่พูดแล้วหรือยัง?
เพราะถ้าทำ บ้านเมืองคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้
หากเราคิดดี พูดดี และทำดีก็จงทำเพื่อตัวคุณเอง
เพื่อครอบครัวของคุณ เพื่อสังคมของคุณ
และจงทำวันนี้
ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาเสียก่อน
“พ่อ” ดูเรามากว่า 60 ปี แล้ว ถ้าเรา “ทำดี” หรือทำหน้าที่ของเราได้อย่างที่ได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้จริงๆ หรือลดทิฐิ จ้องแต่จะคอยจับผิดซึ่งกันและกัน “พ่อ” คงมีความสุขมากกว่าที่คนไทยทั้งประเทศจะมาร่วมใจกันทำดีเพื่อพ่อ- เพียงวันเดียว
ปารเมศร์ รัชไชยบุญ
(Forward mail)
มีไม่ถึง 1% ของจำนวนประชากรกว่า 64 ล้านคนที่มีอายุเกิน 80 ปี
และนั่นหมายถึงว่าเกือบทุกคนในประเทศไทยเกิดและเติบโตขึ้นมาใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้มาโดยตลอด
เมื่อตอนยังเล็ก เราถูกสั่งสอนให้กราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ ยืนถวายความเคารพเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี เข้าแถวรับเสด็จเมื่อขบวนรถพระที่นั่งผ่าน ตอนนั้น เราอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไปทำไม รู้แต่เพียงว่าเป็นสิ่งที่ “ต้อง” ทำ และ “ควร” ทำเท่านั้น
พอเราเติบโตขึ้น เราก็จะได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านผ่านสื่อต่างๆ น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นพระองค์ท่านในฉลองพระองค์สง่างดงามเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ส่วนใหญ่แล้วเราจะคุ้นตากับการเห็นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปตามที่ทุรกันดารทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อทรงแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ นานา
และเมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติวิปโยคที่คนไทยหันมาทะเลาะฆ่าฟันกันเอง ก็มีแต่พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ที่ทรงเป็นที่พึ่งเดียวและเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน และทุกครั้ง ปัญหาต่างๆ ก็จะถูกขจัดปัดเป่าไปได้สิ้น
เราเคยชินกับภาพเหล่านั้น กับความรู้สึกเคารพเทิดทูนบูชาเช่นนั้นมาตลอดกว่า 60 ปี จนบางครั้งเราลืมความเป็นจริงที่โหดร้ายไปบางอย่าง
ความจริงที่ว่า พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของเราไม่ใช่ “เทพ”
ความจริงที่ว่าพระองค์ท่านก็เป็น “มนุษย์”
ความจริงที่ว่า “มนุษย์” มีทุกข์มีสุขได้ มีรัก โลภ โกรธ หลง ได้ และมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้เช่นกัน
ลึกๆ ในใจของเราก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ทรงตรากตรำทำงานหนักกว่าใครทั้งสิ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ทรงต้องแบกทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ และทรงพระชราภาพลงไปเรื่อยๆ
แล้วเราก็ใส่เสื้อเหลืองทุกวันจันทร์ จุดเทียนชัยถวายพระพร ร้องเพลงสดุดีมหาราชาและถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะเป็นคนดี จะทำความดีเป็นราชสักการะบูชาสำหรับพระมหากษัตริย์ของเรา
“ทำดีให้พ่อดู” กลายเสมือนเป็นคำสวดที่ติดปากพวกเราทุกคนในปัจจุบันนี้ - บ้างก็จะไปปฏิบัติธรรมถวาย บ้างก็จะลด ละ เลิกอบายมุขและสิ่งเสพติดต่างๆ บ้างก็จะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด บ้างก็จะเลิกโกงกินก้าวร้าวต่อกัน และบ้างก็จะอยู่อย่างพอเพียง
เราคิดดี เราพูดดี แต่เราได้ทำตามที่พูดแล้วหรือยัง?
เพราะถ้าทำ บ้านเมืองคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้
หากเราคิดดี พูดดี และทำดีก็จงทำเพื่อตัวคุณเอง
เพื่อครอบครัวของคุณ เพื่อสังคมของคุณ
และจงทำวันนี้
ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาเสียก่อน
“พ่อ” ดูเรามากว่า 60 ปี แล้ว ถ้าเรา “ทำดี” หรือทำหน้าที่ของเราได้อย่างที่ได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้จริงๆ หรือลดทิฐิ จ้องแต่จะคอยจับผิดซึ่งกันและกัน “พ่อ” คงมีความสุขมากกว่าที่คนไทยทั้งประเทศจะมาร่วมใจกันทำดีเพื่อพ่อ- เพียงวันเดียว
ปารเมศร์ รัชไชยบุญ