Saturday 22 February 2014
“พินทองทา ชินวัตร” ตั้งบริษัทอสังหาฯ ลุยโครงการเขาใหญ่ งัดที่ดิน 30 ไร่ ติดถนนธนะรัชต์ เยื้องปาลิโอ้ แบ่งเฟสผุดโรงแรม และวิลลา มูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท ชี้สไตล์การลงทุนต่างจาก SC มองแนวโน้มนักท่องเที่ยวเข้าไทยเติบโตทุกปี ที่ดินหายาก การพัฒนาที่มุ่งรายได้จากค่าบริการ ยังคงเก็บรักษาที่ดินไว้ได้ เปรย 5-10 ปี ขยายลงทุนสู่คอมมูนิตีมอลล์ อาคารให้เช่า อาคารสำนักงานทั้งใน และต่างประเทศ
“พินทองทา ชินวัตร” ตั้งบริษัทอสังหาฯ ลุยโครงการเขาใหญ่ งัดที่ดิน 30 ไร่ ติดถนนธนะรัชต์ เยื้องปาลิโอ้ แบ่งเฟสผุดโรงแรม และวิลลา มูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท ชี้สไตล์การลงทุนต่างจาก SC มองแนวโน้มนักท่องเที่ยวเข้าไทยเติบโตทุกปี ที่ดินหายาก การพัฒนาที่มุ่งรายได้จากค่าบริการ ยังคงเก็บรักษาที่ดินไว้ได้ เปรย 5-10 ปี ขยายลงทุนสู่คอมมูนิตีมอลล์ อาคารให้เช่า อาคารสำนักงานทั้งใน และต่างประเทศ
น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรนด์ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์ไทยแลนด์ ว่า ได้ก่อตั้งบริษัท เรนด์ฯ มาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งตอนแรกต้องการซื้อที่ดิน และสะสมไว้เป็นสมบัติของครอบครัว ภายใต้ชื่อบริษัทเวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด และล่าสุด ได้มีการปรับรูปแบบการดำเนินการงานมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มจากโครงการแรกที่เขาใหญ่ อนึ่ง ตระกูลชินวัตร ทั้ง “พินทองทา-แพทองธาร” ที่มีที่ดิน 30 ไร่ ติดถนนธนะรัชต์ เยื้องโครงการปาลิโอ้ เตรียมแบ่งเฟสแรก 10 ไร่ มาพัฒนาโรงแรม และวิลลารีสอร์ต รวมประมาณ 60 ยูนิต มูลค่าลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของบริษัท เรนด์ฯ มีความแตกต่างจากบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SC เพียงแต่ได้อาศัยประสบการณ์ 4 ปีที่ได้รับจากการทำงานในเอสซี แอสเสท และมองเห็นโอกาสการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตขึ้นทุกปี ตรงกับความต้องการทำธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่ามากกว่าเพื่อขาย
“เรามองว่า Passion เป็น Motivation ถ้าไม่มี Passion ตื่นเช้ามาเราก็ไม่อยากทำแม้จะมองเห็นที่ดินดีๆ ที่บริษัทมีอยู่แล้วก็ยังไม่อยากทำ เราจึงเริ่มจากการค้นหา Passion ของตัวเองก่อน นั่นคือ การทำธุรกิจให้เช่า เช่น โรงแรม และอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวเป็น Passive Income และยังทำให้เราสามารถเก็บรักษาที่ดินเดิมไว้ได้ แตกต่างจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย” น.ส.พินทองทา กล่าว
สำหรับใน 1-3 ปีแรก ช่วงแรกจะโฟกัสไปยังโรงแรมก่อน ซึ่งโครงการแรกที่เขาใหญ่จะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท บนพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณถนนธนะรัชต์ ในเฟสแรก จำนวน 60 ห้อง ในรูปแบบห้องพัก และวิลลา เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า น่าจะเปิดเฟสแรกได้ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เขาใหญ่มีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่ง น.ส.พินทองทา มองว่าทุกหัวเมืองที่มีโอกาสด้านการท่องเที่ยว และโรงแรมไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแข่งขันได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ทำเล และสินค้าที่มีความแตกต่างน่าสนใจ โครงการแรกที่เขาใหญ่น่าจะไปได้สวย เพราะอยู่ในทำเลที่ดี นอกจากนี้
เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีการพัฒนาด้านระบบลอจิสติกส์ การเติบโตสร้างรายได้ยิ่งมีโอกาสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาสร้างโครงการในพื้นที่พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ และในอนาคต 5-10 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปยังคอมมูนิตี มอลล์ อาคารให้เช่า หรืออาคารสำนักงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรนด์ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์ไทยแลนด์ ว่า ได้ก่อตั้งบริษัท เรนด์ฯ มาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งตอนแรกต้องการซื้อที่ดิน และสะสมไว้เป็นสมบัติของครอบครัว ภายใต้ชื่อบริษัทเวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด และล่าสุด ได้มีการปรับรูปแบบการดำเนินการงานมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มจากโครงการแรกที่เขาใหญ่ อนึ่ง ตระกูลชินวัตร ทั้ง “พินทองทา-แพทองธาร” ที่มีที่ดิน 30 ไร่ ติดถนนธนะรัชต์ เยื้องโครงการปาลิโอ้ เตรียมแบ่งเฟสแรก 10 ไร่ มาพัฒนาโรงแรม และวิลลารีสอร์ต รวมประมาณ 60 ยูนิต มูลค่าลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของบริษัท เรนด์ฯ มีความแตกต่างจากบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SC เพียงแต่ได้อาศัยประสบการณ์ 4 ปีที่ได้รับจากการทำงานในเอสซี แอสเสท และมองเห็นโอกาสการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตขึ้นทุกปี ตรงกับความต้องการทำธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่ามากกว่าเพื่อขาย
“เรามองว่า Passion เป็น Motivation ถ้าไม่มี Passion ตื่นเช้ามาเราก็ไม่อยากทำแม้จะมองเห็นที่ดินดีๆ ที่บริษัทมีอยู่แล้วก็ยังไม่อยากทำ เราจึงเริ่มจากการค้นหา Passion ของตัวเองก่อน นั่นคือ การทำธุรกิจให้เช่า เช่น โรงแรม และอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวเป็น Passive Income และยังทำให้เราสามารถเก็บรักษาที่ดินเดิมไว้ได้ แตกต่างจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย” น.ส.พินทองทา กล่าว
สำหรับใน 1-3 ปีแรก ช่วงแรกจะโฟกัสไปยังโรงแรมก่อน ซึ่งโครงการแรกที่เขาใหญ่จะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท บนพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณถนนธนะรัชต์ ในเฟสแรก จำนวน 60 ห้อง ในรูปแบบห้องพัก และวิลลา เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า น่าจะเปิดเฟสแรกได้ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เขาใหญ่มีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่ง น.ส.พินทองทา มองว่าทุกหัวเมืองที่มีโอกาสด้านการท่องเที่ยว และโรงแรมไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแข่งขันได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ทำเล และสินค้าที่มีความแตกต่างน่าสนใจ โครงการแรกที่เขาใหญ่น่าจะไปได้สวย เพราะอยู่ในทำเลที่ดี นอกจากนี้
เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีการพัฒนาด้านระบบลอจิสติกส์ การเติบโตสร้างรายได้ยิ่งมีโอกาสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาสร้างโครงการในพื้นที่พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ และในอนาคต 5-10 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปยังคอมมูนิตี มอลล์ อาคารให้เช่า หรืออาคารสำนักงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ