Sunday, 25 May 2008

Dreams : Les Miserables


Les Miserables หรือ เหยื่ออธรรม เป็นภาพยนตร์ปี 1998
สร้างจากวรรณกรรมอันเลื่องชื่อของฝรั่งเศส ซึ่งประพันธ์โดย วิคเตอร์ ฮูโก (ผู้ประพันธ์เรื่อง The Hunchback of Notre-Dame -ไอ้ค่อม แห่ง นอตเทรอะดาม )
เหยื่ออธรรม เป็นงานเขียนชิ้นเยี่ยม ของ วิคเตอร์ ฮูโก เนื้อเรื่องได้สะท้อนให้เห็นความทุกข์ยากของประชาชนซึ่งไม่ได้ความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นความงดงามของจิตใจมนุษย์อันมีอิทธิพลผลักดันให้มนุษย์มุ่งมั่นที่จะกระทำความดีอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะต้องพบพานความยากลำบากก็ตาม

Les Miserables เป็นเรื่องของนักโทษแหกคุกคนหนึ่ง (วาลฌอง) ที่มาขออาหารและนอนในวัด แต่พอรุ่งสางก็ขโมยเครื่องเงิน และเชิงเทียน ในวัดออกไปด้วย ต่อมานักโทษคนนี้ก็ถูกตำรวจจับได้ จึงถูกเอาตัวมาถามหลวงพ่อที่วัดเรื่องของกลาง หลวงพ่อมีน้ำใจอันงดงามกลับบอกว่า ท่านเป็นคนให้ของทั้งหมดแก่ชายคนนี้ไป เหตุการณ์ตอนนี้ทำให้วาลฌองประทับใจ และกลับตนเป็นคนดีช่วยเหลือคนอื่นในเวลาต่อมา เพราะคำพูดของหลวงพ่อที่กระซิบบอกแก่เขาว่า" อย่าลืมว่าท่านได้ให้สัญญากับข้าพเจ้าว่า จะใช้เครื่องเงินนี้เพื่อทำให้ท่านเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต "

ในภาพจะเห็นเชิงเทียนที่เขาขโมยมา และเขาได้เก็บมันไว้จนวาระสุดท้ายของชีวิต หลายปีต่อมาวาลฌองได้ประกอบกิจการร่ำรวยด้วยความอดทนและความมีคุณธรรม เขาช่วยเหลือผู้คนเป็นจำนวนมาก กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม แต่ก็มีตำรวจคนหนึ่ง(ชาแวร์)จำได้ว่าเขาเป็นนักโทษที่หนีคุกมา ตำรวจคนนี้พยายามทำตามภาระหน้าที่ของตนเองอย่างเคร่งครัด คือ พยายามสืบและตามจับนักโทษคนนี้เพื่อจะนำตัวมาลงโทษให้ได้

เมื่อมีหลักฐานแน่ชัดว่า เขาคือนักโทษที่แหกคุกมา ตำรวจก็ตรงเข้าจะจับกุมเขา วาลฌองจึงอาศัยช่วงจังหวะชุลมุนนี้หลบหนีไปได้ ก่อนที่จะหนีไป วาลฌองได้ให้สัญญาแก่หญิงโสเภณีคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานในโนโรงงานของเขา ว่าจะรับเลี้ยงดูลูกสาวตัวน้อยๆแทนเธอ ผู้กำลังจะสิ้นใจ เขาจึงหนีไปพร้อมกับพาเด็กน้อยชื่อ โคเซ็ทไปด้วย ซึ่งต่อมาเขาก็รักเธอเหมือนเธอเป็นลูกสาวของเขาเอง
วาลฌองได้รับความช่วยเหลือจากแม่ชีมืดในโบสถ์แห่งหนึ่ง และอยู่เลี้ยงดูจนโคเซ็ทเติบโตเป็นสาวโดยที่เธอไม่รู้เรื่องราวในอดีต ต่อมาเขาตัดสินใจออกมาหาซื้อบ้านอยู่เอง ลูกสาวได้ไปพบรักกับชายหนุ่มหัวรุนแรงซึ่งต่อต้านระบบศักดินาในฝรั่งเศสสมัยนั้น วาลฌองพยายามจะย้ายหนีไม่ให้โคเซ็ทได้พบกับคนรัก แต่ในที่สุดตัวเขาเองก็ต้องไปพัวพันกับการช่วยเหลือพวกปฏิวัติ

เหตุการณ์การปฎิวัติในเดือน กรกฏาคม ปึ ค.ศ.1832 เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่าง ประชาชน (ในภาพ คือ มารีอุส คนรักของโคเซ็ท ) กับทหารของรัฐบาลฝรั่งเศสพวกตำรวจมาติดตามพวกที่ก่อการกบฎ ตำรวจชาแวร์พลาดพลั้งเสียทีถูกพวกปฏิวัติจับตัวได้ พระเอกวาลฌองมาขอตัวชาแวร์ไปจากพวกกบฎ ทำทีว่าจะเอาตัวชาแวร์ไปฆ่า เขามีโอกาสฆ่าตำรวจได้ แต่เขาไม่ทำและปล่อยตัวตำรวจไป พอวาลฌองปล่อยตัวชาแวร์ไป ชาแวร์ได้โอกาสจึงหันกลับมาจับพระเอกได้สมความตั้งใจ ชาแวร์คิดจะปฏิบัติตามหน้าที่คิดจะสังหารวาลฌองในฐานะที่เป็นนักโทษแหกคุกมา แต่คุณธรรมในจิตใจ ความขัดแย้งในใจ ทำให้เขาทำตามหน้าที่ไม่ได้ เพราะนักโทษคนนี้ได้ช่วยชีวิตเขา นักโทษคนนี้ไม่ฆ่าเขาทั้งๆที่มีโอกาสดังนั้นทางออกทางสุดท้ายของตำรวจชาแวร์ คือตัวเขาเองตัดสินใจกระโดดน้ำตาย เพราะเขาทำหน้าที่ของตนเองไม่สำเร็จ และเขาพ่ายแพ้ต่อความดีในจิตใจของวาลฌองเป็นภาพยนตร์ที่อยากจะแนะนำให้ดูมาก เพราะสร้างได้สมจริง ซาบซึ้งและประทับใจมาก ทั้งยังมีฐานะเป็นวรรณกรรมเรื่องเอกของโลกด้วย จึงไม่ควรจะพลาดชมค่ะ

บทสรุปภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความดีงามในจิตใจคนที่สามารถจะเปลี่ยนแปลงจิตใจคนอื่นได้ด้วย เช่นกรณีหลวงพ่อได้ให้ความเมตตาต่อนักโทษ ไม่กล่าวโทษเขาทั้งที่เขาขโมยของในวัดไป ทำให้นักโทษซาบซึ้งและกลับตนเป็นคนดี และเป็นพลังผลักดันให้เขากลายเป็นคนที่พยายามจะช่วยเหลือคนที่ทุกข์ยากทุกอย่าง จนกระทั่งทำให้เขาได้ไปอุปการะเลี้ยงดูลูกสาวของโสเภณีจนเติบใหญ่ภาพยนตร์สะท้อนให้ความเป็นมนุษย์ซึ่งมีทั้งความดีและความเลวอยู่ในคนคนเดียวกัน --- พระเอกเคยเป็นคนเลว ขี้ขโมย แต่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นคนดีมีเมตตา ช่วยเหลือคนอื่น ไม่ฆ่าคนที่ตามปองร้ายตัวเองทั้งๆที่มีโอกาส--- ตำรวจ ทำตามหน้าที่ของตนเองอย่างเคร่งครัด เคยรู้ว่าพระเอกมีคดีติดตัวก็ตามจะต้องจับตัวมาลงโทษให้ได้ ถึงแม้ว่าพระเอกจะกลับกลายเป็นคนดีแล้วก็ตาม แต่ในที่สุด ตัวตำรวจเองก็พ่ายแพ้ต่อความดีของพระเอก พ่ายแพ้ต่อความมีเมตตาต่อพระเอก จึงทำให้ทนไม่ได้ และได้ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองแทน.......

Special Thank For Link: http://www.noknoi.com/magazine/article.php?t=272

Les Miserables แปลเป็นภาษาไทย ชื่อเรื่อง เหยื่ออธรรม แปลโดย จูเลียต ( คุณ ชนิด สายประดิษฐ์ ภรรยาของ คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์)




Les Miserables on the Tony telecast One Day More.
Original Broadway Cast of Les Miserables on the Tony telecast performing At the End of the Day and One Day More - Colm Wilkinson, Terrence Mann, Michael Maguire, Frances Ruffelle, David Bryant, Judy Kuhn 1987.


Les Mis "I Dreamed a Dream" in London
Gunilla Backman as Fantine performing "I dreamed a dream" from Les Miserables in London in 1999.