Thursday 2 May 2013

ขอบคุณนายกยิ่งลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาซ้ำเติมความเจ็บปวดให้แก่คนไทย

 


"ขอยกเรื่องของตนเองเป็นอุทาหรณ์ ในปี 2540 ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งร่างขึ้นโดยที่ประชาชนมีส่วนร่วม เราทุกคนคิดว่ายุคใหม่ของประชาธิปไตยไทยมาถึงแล้ว และจะเป็นยุคสมัยที่ไร้การรัฐประหารแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น"
      
"รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งถึงสองครั้งสองหนด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูก ล้มลงในปี 2549 ประเทศไทยเสมือนรถไฟตกรางและประชาชนคนไทยใช้เวลาเกือบ 10 ปีกว่าที่จะได้เสรีภาพแห่งประชาธิปไตยกลับคืนมา หลายคนที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้รู้ว่ารัฐบาลที่พูดถึงคือรัฐบาลที่พี่ชาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย"
      
"หลายคนที่ไม่รู้จักดิฉัน อาจบอกว่าเธอจะบ่นไปทำไม เป็นเรื่องปกติในกระบวนการการเมืองที่รัฐบาลมาแล้วก็ไป ซึ่งหากตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็คงจะปล่อยวาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเป็นไปที่เกิดขึ้น จากการรัฐประหารประเทศไทยต้องถอยหลังและสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อนานาชาติ หลักนิติธรรมและกระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการและแผนงานที่พี่ชายของดิฉันริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการถูกยกเลิก ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไป"

"ประชาชนคนไทยก็ได้ลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้เสรีภาพคืน มา แต่ในเดือน พ.ค. 2553 มีการสลายการชุมนุมของผู้เรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 91 คนในใจกลางย่านธุรกิจของ กทม. คนบริสุทธิ์ถูกลอบยิงโดยสไนเปอร์ แกนนำการชุมนุมต้องติดคุกหรือหลบหนีไปต่างประเทศ และทุกวันนี้ยังคงมีเหยื่อทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ ติดคุกอยู่ ...จนในที่สุดรัฐบาลในขณะนั้น ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง...ดิฉันได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ของ ประเทศ...เรื่องราวยังไม่จบ...รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นภายใต้คณะรัฐประหารได้ ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย...กลไกที่เรียกว่าองค์กรอิสระได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง"

นั่นอะ่ดิ เธอมาบ่นทำไม่ พูดอะไรไป ในทำนองไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศเราเช่นนี้ ผีห่าซาตานที่ไหนไปดลใจให้เธอพูดออกมา วันนี้ใจของเธอได้ถูกหลอมละลาย ปลอกเปลือก เปล่าเปลือยต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศแล้ว ใครจะเห็นดีเห็นงาม ก็ตามใจ แต่ถ้าใครเกลียดโคตรเหง้าตระกูลนี้ ก็ยิ่งเพิ่มความเกลียดทวีคูณ ผู้ใหญ่ที่เคยเมตตา ก็คงจะส่ายหน้า คนที่เคยให้เกียรติกัน ก็เริ่มแล้วกับการไม่ยอมรับ มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ

เฮียโสภณ องค์การ เขียนแบบไม่อ้อมค้อม

แม่นางโพยเจื้อยแจ้วเพลิดเพลินตาไม่กะพริบ นึกว่าตัวเองเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่คนไทยจำได้ล้วนแต่เป็นรายการโชว์โง่ทั้งนั้น พูดไปยังไม่อายปากว่าขบวนการเสื้อแดงถ่อยเถื่อนชุมนุมคุกคามตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญนั้น เป็นการฟ้องชัดเจนว่าหล่อนสนับสนุนกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
      
ถ้าคนเบื่อหน่าย ชังน้ำหน้าหล่อนไปชุมนุมหน้าทำเนียบฯ หรือหน้าบ้านของหล่อนซอยโยธินพัฒนา อ้างสิทธิเดียวกันที่หล่อนให้ท้ายเสื้อแดงถ่อยเถื่อน หล่อนจะยอมมั้ย! คงสั่งตำรวจแตงโม มะเขือเทศ ทุเรศไม่เป็นสับปะรดไปไล่ทุบตีแน่!
      
ทำไมไม่บอกเค้าด้วยว่ารัฐบาลของหล่อนถูกบงการโดยคนหนีคุก เป็นอภิมหาโคตรโกง นโยบายข้าวเน่า 3 ธนาคารใกล้เจ๊ง หัวคิวโกง 40 เปอร์เซ็นต์ ตัดสิทธิประชาชน หล่อนป้ำๆ เป๋อๆ เอ๋อๆ ทำบ้านเมืองจะมีกลียุคเกือบล่มจมแล้ว!

ยามบุญมา กาไก่ กลายเป็นหงส์

ยาม บุญลง หงส์เป็นกา น่าฉงน

ยามบุญสูง หมูหมา ว่าเป็นคน

ยามบุญหล่น คนเป็นหมา น่าอัศจรรย์...

เช่นเดียวกับทนายวันชัย สอนสิริ ผู้ที่ชอบเอื้อนเอ่ยกลอนบทข้างบนนี้เป็นประจำ ผ่านคลื่นวิทยุ FM.101.1 ได้เขียนในเฟสบุ๊คส่วนตน

"ยิ่งมาพูดเยอะๆสรุปสัก 3 เรื่องคือ ครอบครัวเจ็บปวดเป็นเหยื่อทางการเมือง มีคนเสียชีวิต 91 คน...เรื่อง สว.สรรหาและองค์กรอิสระ ผมไม่รู้ว่าคุณยิ่งลักษณ์แกรู้เรื่อง 91 ศพแบบจำขี้ปากเขามาพูดรวมทั้งเรื่อง สว.สรรหาแกจะรู้เรื่องหรือเปล่าหรือว่าเข้าใจว่าเป็นบ้านจัดสรรของ เอสซี แอสเซท เพราะมันสรรๆเหมือนกัน เรื่ององค์กรอิสระแกคงเข้าใจว่าเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระละมั้ง แกงงๆอะไรหรือเปล่า

เอาความไม่ดีของประเทศเราไปเล่าให้ประเทศอื่นฟังมันเท่ห์หรืออย่างไร ทำไมไม่พูดให้เขาฟังด้วยว่าประเทศเรามีโสเภณีเยอะ มียาเสพติดแยะ มีคอรัปชั่นกันทั่วหัวระแหง ร้อยละ30 50 เป็นความภาคภูมิใจของดิฉัน...ทำไมไอ้คนเขียนสคริปไม่เขียนไปด้วย...แต่ก็ อย่าไปว่าอะไรท่านนายกยิ่งลักษณ์เลยครับ ท่านเป็นคนเดียงสา เป็นคนตรงๆ งงๆ สคริปมาอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้น ซื่อๆใสๆแบบประเทศซิดนีย์ จังหวัดหาดใหญ่ ผมว่าดูขำๆก็แล้วกัน

เรามีนายกอย่างนี้ก็อย่างนี้แหละ จะอะไรกันนักหนา...แทงกิ้ว ทรี ทาม ครอบครัวคุณจะเจ็บปวดอย่างไรแต่ผมคนไทยและประเทศไทยเจ็บปวดกว่า..."

ทิ้งท้ายด้วยจอมเก๋าส์ ป๋าเปลว สีเงิน เขียนไว้ในหัวข้อเรื่อง"สุดยอดการขายแห่งปี-ของปู"เปรียบว่านี่คือการขายอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นอย่างแรง หาที่เปรียบไม่ได้ แค่เริ่มต้นก็แรงส์แล้ว

"การ"โกหก"ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เป็นสิ่งจำเป็นด้วยซ้ำในการเจรจา ความบ้าน-ความเมือง เขาเรียกการโกหกแบบนั้นว่า "กุศโลบาย" ความหมายตรงตัวคือ "โกหกเพื่อชาติ" แต่การ "เอาชาติไปโกหก" ในการพูดจาความบ้าน-ความเมือง เขาเรียกว่า"อกุศโลบาย"ความหมายตรงตัวคือ "ตอแหลขายชาติ" ส่วนจะขายเพื่อเป้าประสงค์ใด ก็ขึ้นอยู่กับจิตเจตนาผู้แหล จะ "ตอแหลเพื่อตัวเอง" หรือ "ตอแหลเพื่อตระกูล" ก็...สุดแต่กรณี!"

ตัดมาตอนจะจบ ยิ่งแรงส์กว่า

"นี่แหละปาฐกถานายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์-เกินอภัย ไร้กาละ-เทศะ ไม่รู้อะไรควร-อะไรไม่ควร ไม่รู้จักแยกแยะ ไหน..ส่วนชาติ-ไหน..ส่วนตน สรุปได้อย่างเดียว...นี่คือเจตนา ด้วย "จงใจ"!

ที่ซ้ำร้าย นำเหตุการณ์จริงไปบิดเบือนเพื่อตน-เพื่อครอบครัวตน จากขาวเป็นดำ จากหน้ามือเป็นหลังเท้า กับสิ่งจริงที่ประจักษ์ตา-ประจักษ์ใจ อันชาวโลกได้รับรู้ "ความเป็นจริง" จากข่าวสารยุคดาวเทียม ผ่านไปเมื่อ ๒-๓ ปีนี่เอง

ผมขยะแขยง ด้วยรังเกียจที่จะโต้แย้ง-แจงชี้กับสิ่งที่เรียกว่า...นี่คือคำพูดของนายก รัฐมนตรีประเทศหนึ่ง ที่นำประเทศตัวเองไปแบขายตลาด

ขายด้วยตอหลดตอแหลในวาจา เพื่อแลกผลประโยชน์ที่ตัวเองระบุ..........."ตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว"!

ไฟใน-ผู้นำประเทศเป็นฝ่ายนำออกไปเสียเอง ซ้ำไฟนอก-เจ้าพี่ชาย และพวกสมุนบริวารก็เป็นฝ่ายนำเข้ามา สรุปเป็นว่า...ประเทศไทย ไม่มีใครที่ไหนเอาไปขาย

ผู้นำไทยนั่นแหละ...ขายมันซะเอง!

ทุกคนรู้ ที่ยิ่งลักษณ์ขึ้นไปอ่าน "ขายประเทศ" นั้น เป็นภาษาอังกฤษที่ "ตัวการ" ร่างให้อ่าน ประสานแผนปลุกปั่นยึดประเทศผ่านขั้นตอน "ล้มสถาบันตุลาการ" ขณะนี้ ผมไม่ข้องใจตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ คือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เพราะเขาทำอย่างนี้ได้

แต่ข้องใจจริงๆ ข้าราชการตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงลงมา ท่านยอมให้เหตุการณ์บัดซบ-บัดสีอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

จะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจสัมปทาน "ร่วมทุนขายชาติ" กันอย่างนั้นหรือ?."

คนไทยเจ็บปวดเพราะครอบครัวของใคร ตระกูลไหน สำนึกคุณ หรือเนรคุณ คำตอบอยู่ที่ความหมายในคำพูด อันเกิดจากมโนสำนึกของเจ้าของวาจา ในวันนี้นายกมาเปิดเผยตัวตนให้คนไทยทั้งชาติได้เห็น ได้รู้ คงใกล้ถึงเวลานับถอยหลังกันแล้วกระมัง คิดอ่านกันเช่นไร อยู่ที่สติ อยู่ที่จริต อยู่ที่จิตใจ นายกยิ่งลักษณ์ เธอได้จุึดสุมไฟให้โดยไม่รู้ตัว ประเทศไทยเตรียมพร้อม