Wednesday, 10 September 2008

คำรำพันของไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

Subject: คำรำพันของไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ได้นิยมชมชอบ สมัคร และก็เกลียดทักษิณมากด้วย
แต่ก็เป็นแค่คนที่"เคย"นิยมพันธมิตรเหมือนกัน
เสียดายว่าพันธมิตร ไม่ฟังในหลวงที่อุตส่าห์ ส่งตุลาการมาเป็นตัวช่วยของชาติ
เสียดายว่าถ้าวันนี้ พันธมิตร มีสติสักนิด เดือนหน้า จะมีคดียุบพรรค แล้วก็รู้ๆกันอยู่ว่าผลจะเป็นอย่างไร
เสียดาย ที่คนนำขบวนเป็นคนที่เห็นชัยชนะของกลุ่ม สำคัญกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ
เสียดายว่า คนที่มาชุมนุม คิดแต่จะโค่นล้ม แต่ไม่คิดสร้างสรร
การโค่นล้ม มันไม่ได้ยากหรอก แต่การสร้างสรร ต่อจากนี้ล่ะ เคยคิดกันมั้ย ว่าหลังจากซากปรักหักพังของชาติ คุณจะสร้างมันขึ้นมาใหม่อย่างไร ไม่เคย!! เพราะตอนนี้ทุกคนมีแต่อาวุธหนักและความคิดแบบก้อนหินเตรียมทุ่มใส่กัน
คุณจะสร้างตึกใมม่ยังไง ถ้าคุณเตรียมพร้อมแต่เรื่องการทุบตึกแต่ ไม่มีแบบแปลนของการสร้างตึกใหม่
คุณก็ต้องทุบและสร้างอย่างนี้ไม่มีทีสิ้นสุด
สหภาพการบินไทย สั่งหยุดงานประท้วง ทั้งที่ตัวเองขาดทุนร่วมหมื่นล้านบาท ถ้าหัวหน้าสหภาพหัวรุนแรงสั่งพนักงานลาหยุด
ลูกค้าไม่พอใจ boycott คุณ วันหน้าคุณจะขาดทุนยิ่งกว่านี้ แล้วมันจะเหลืองานอะไรให้คุณทำอีก คุณควรจะทำตามหน้าที่หรือไม่?
ถ้าพันธมิตรไม่ฟังคำสั่งศาล โดยการอ้างอารยะขัดขืน คุณคิดว่าถ้ามีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ทักษิณจะไม่อ้างคำๆเดียวกันนี้หรือ แล้ววันนั้น คุณก็จะมีการชุมนุมไม่รู้จักจบสิ้น
แล้วถ้าคุณเห็นการชุมนุมอย่างรุนแรงอย่างนี้ อังกฤษก็มีสิทธิ์ที่จะให้คำร้องขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองกับทักษิณได้ เพราะความไม่ปลอดภัยจริงไหม?

ถ้าไม่ฟังคำสั่งศาล คุณจะขอให้ศาลฟังคำขอร้องของคุณ ให้พาคนมาลงโทษได้อย่างไร?
เพราะในความเป็นจริงคุณจะฟังและยอมรับแต่คำสั่งที่เอื้อประโยชน์ต่อคุณเท่านั้นไมได้
มหาตมะ คานธี ใช้เวลาเป็น 10 ปีกับคำว่าอารยะขัดขืน ภายใต้กฏหมาย กว่าจะปลดปล่อยอินเดีย สำเร็จ
เนลสัน แมนเดลลา ติดคุกกี่ปีกัน กว่าจะมีวันนี้ วันที่เป็นรัฐบุรุษ
อ.ไชยยันต์ ไชยพร อ้างคำว่าอารยะขัดขืนฉีกบัตรเลือกตั้ง แต่ก็ยอมมอบตัวอยู่ภายใต้กฎหมาย
ถ้าพันธมิตรจะอ้างคำนี้ก็ควรจะอยู่ใต้กฎหมายไม่ต่างกัน
การชุมนุมเรียกร้องให้เกิดความถูกต้องเป็นเรื่องดีแต่
อย่าสร้างเงื่อนไข ไม่ให้เกิดความรุนแรง นั่นคือเรื่องที่ดีที่สุด
การพูดบนเวที ควรเป็นการพูดยั่วยุใช่หรือเปล่า?
ถ้าพันธมิตรเครียดเพราะบรรยากาศ ก็โปรดดรู้เถอะว่าตำรวจที่ต้องคุ้มครองท่านก็เครียดไม่ต่างกัน
ท่านต้องจากบ้านมาชุมนุม ตำรวจทั้งหลายก็ต้องลาครอบครัวเขามาเพื่อควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน
และแน่นอนเชื่อว่าทุกคนทั้ง 2 ฝ่ายไม่ต้องการความรุนแรง เพื่อจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวและอยู่อย่างปรกติสุข
ผู้นำชุมนุมก็เช่นกัน อย่างที่รู้หนึ่งในนั้นเป็นทหารเก่า
ทหารมีคำพูดประกาศิตว่า "ไม่มีสิ่งใดแทนที่ชัยชนะได้"
แต่นั่นคือกับศัตรู วันนี้ประเทศจะแพ้ พันธมิตรก็ไม่ชนะ
คนหัวเราะกับชัยชนะบนความล้มเหลวของไทยอยู่ห่างจากประเทศไทยไปหลายหมื่นกิโลเมตร โน่น ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แล้วกับเพื่อนๆพี่น้องร่วมแผ่นดินล่ะ ชัยชนะคือความสามัคคีของคนในชาติหรือเปล่า ลองตอบตัวเองดู?
ประเทศไทยตอนนี้ แบ่งออกเป็น 3 ก๊ก
พวกเอาทักษิณ
พวกไม่เอาทักษิณ
พวกไม่เอาใครเลย
ถ้าพันธมิตรประกาศชัยชนะ ก็คือการผลักอีก 2 กลุ่มที่เหลือเป็นฝ่ายแพ้
ยังไงซะประเทศก็เป็นของคนทั้ง 3 กลุ่ม เมื่อชนะคุณต้องชนะด้วยกัน
คุณจะบอกว่าเราชนะ แล้วอีก 2 คนส่ายหัว กูไม่ยอมรับวืธีเล่นของมึง ได้เหรอ?
ผมมีข้อเสนอสำหรับพันธมิตร ในการทำให้คุณได้ชัยชนะอย่างถาวร
1.ให้กระบวนการทางศาลทำหน้าที่ของเขาไป นักการเมือง โกงกินชาติ ต้องถูกกำจัดโดยกระบวนการภายใต้กฏหมายเท่านั้น
2.ประเทศไทยปัจจุบัน ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ และ วิกฤติต่างๆ เป็นจำนวนมาก พันธมิตรในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณ ควรจะมีบทบาทในการส่งคนไปเป็นแนวร่วมในการช่วยเหลือคนหรือสังคมเหล่านี้หรือไม่? เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับชุมชนและถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นการสร้างพื้นฐานจริยธรรมที่ดีให้แก่ประชาชนในระยะยาว ดีกว่าหรือไม่กับการเพียงแค่มานั่งฟังปราศรัย ประเทศยังมีคนที่เดือดร้อน และ ต้องการความรู้อีกเยอะ อย่างน้อยก็มากกว่าผู้ชุมนุม นาทีนี้หลายเท่า เราต้องการให้ท่านไปถ่ายทอดให้คนรู้ ไปช่วยเหลือฝู้อื่นด้วย

3.ยกเลิกกำลัง และนักรบต่างๆ การต่อสู้อย่างอหิงสา ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง
4.อย่าใช้โวหาร หรือ ช่องว่างทางนิติศาสตร์ เพราะคนดีจริงไม่เคยอ้างกฎหมายเป็นเครื่องมือ แต่ใช้จริยธรรมและความรับผิดชอบเป็นเข็มทิศ

อย่าลืมว่าหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การปกครองของมนุษย์ชาติ คือการใช้วิธี long march ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

สามก๊กเองอาจเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่อย่าลืมว่ากลยุทธสุดท้ายที่ดีที่สุดของเรื่องก็คือ การไม่พยายามเอาชนะขงเบ้ง ของสุมาอี้

ถ้าวันนี้คุณชนะโดยใช้กฎหมู่ วันข้างหน้าประเทศไทยก็จะมีกฎหมู่ขึ้นมาใหม่ ท้าทายอำนาจรัฐไม่มีที่สิ้นสุด
ผลลัพธ์ที่ได้มาอย่างถูกต้อง ถ้าเป็นวิธีที่ผิด ก็ไม่สามารถนับเป็นการกระทำที่น่าชื่นชม หรือ ภาคภูมิใจได้
เพราะมันไม่ยั่งยืน เหมือนกับ คุณทำเลขวิธีคิดผิดแต่กลับคำนวณถูก วันหน้าเปลี่ยนตัวเลข เปลี่ยนโจทย์มันก็จะผิด
สุดท้ายขอให้ทุกคน มี 3 สิ่ง
1.สติ
2.เหตุผล
3.ความดี
และสังคมจะสงบสุขแน่นอน
ฐิติพันธ์
ปล.ถ้าจะรบกวนส่งต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเตือนสติสังคมไทยสักนิดจะขอบคุณมากครับ