Thursday 11 September 2008

พี่จิ๋ม ภรณี เขียนเมลล์ถึงความรู้สึกต่อบ้านเมืองขณะนี้ ผมว่าดีมาก ขออนุญาติเผยแพร่

เรียนพี่จิ๋ม ภรณี ที่เคารพรัก
เกี่ยวกับเมลล์ของพี่จิ๋ม....

ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมือง อันสนุกสนานยิ่ง
ผมอ่านเมลล์ทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ทั้งอยู่ตรงกลาง มากมายเมลล์
สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจมาโดยตลอดและไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือความดีกับความชั่ว
เราล้วนแยกแยะได้ สิ่งที่เราแปลกใจก็คือ ความเป็นกลาง
ทั้งๆที่ความดีและความชั่ว มันไม่มีตรงกลางหรอก....
ตรงนี้ผมคิดว่ามันคือปัญหา.....

ผมชอบบทความของ อจ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ที่บอกว่า
ในโลกนี้มีคนแค่ 2 ประเภท คือ คนที่ได้เปรียบ กับคนที่เสียเปรียบ ซึ่งมีจำนวนเยอะในสังคมเรา
วันใดกลุ่มคนที่เสียเปรียบมันอยู่ไม่ได้ กลุ่มคนที่ได้เปรียบ มันก็อยู่ไม่ได้

ที่ทำเนียบพันธมิตร พี่จิ๋มเห็น ต๋อมเห็น ผมเห็น.....
ที่ทำเนียบ ณ ปัจจุบัน มันคือยุคพระศรีอริยะ
มันคือสิ่งที่มนุษย์ใฝ่หามันมาตลอดไม่ใช่หรือ นับแต่โลกเย็นตัวลง........

ความเปลี่ยนแปลง....มันจะเกิดขึ้นได้นั่น......มันต้องเกิด.....
ความตึงเครียด วิปโยค แล้วความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ มันถึงจะตามมา.....

อ่านบทความของพี่จิ๋มแล้ว....ขนลุก
พี่น่าจะเขียนหนังสือ ตามที่ตั้งใจไว้นะ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน.....

ความขัดแย้งทางด้านการเมือง มันเป็นช่วงสั้นของชีวิต ที่เกิดเป็นช่วงๆ.....
คนเราต้องหัวเราะ คนเราต้องร้องเพลง.....

รัก
บุรุษแห่งฟ้า


----- Original Message -----
From: "Paranee Jethsomma"
To: "Varisra Joemjutithom" ; ; "kumphol" ; "wattaneeporn phunmanee" ; "phanida phromchanya" ; "pilan s." ; "Sumitra Srisuparat" ; "Paveena Malakul" ; "ju!" ; "Saisoi Snidvongs" ; "kaysinee koonsap" ; "Aum" ; "Maneerat Lii" ; ; "Patcharin Sugunnasil" ; "teh&bella"
Sent: Wednesday, September 10, 2008 2:15 PM
Subject: Re: คำขอบิณฑบาตอาวุธและความรุนแรง‏


เพิ่งอ่าน นพ.ประสาน ต่างใจ (ชื่อดีเนอะ) เขียนในไทยโพสต์ ข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า ในขณะที่โลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คนก็ยังพยายามนำเอาวิธีคิด วิธีทำโดยยุทธศาสตร์เก่าๆมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา หรือดำเนินการใดๆอยู่ แกเชื่อว่าสิ่งนั้นใช้ไม่ได้แล้ว โดยกล่าวว่าเราไม่สามารถใช้ paradigm เก่าแก้ปัญหาใหม่ๆได้อีกต่อไป

ตัวพี่ก็เชื่อเช่นนั้น

ทุกวันตัวเราเองก็เปลี่ยน โลกก็เปลี่ยน คนก็เปลี่ยน สรรพวิทยาใดๆที่เรียน ที่สอน ที่นำมาใช้ในการทำมาหากินดำรงและดำเนินชีวิตก็เปลี่ยน จิตที่เป็นมวลรวมของมนุษยชาติก็เปลี่ยน

ในขณะที่โลกเดิมจิตเดิม (เท่าที่เรายังจำได้)บอกเราว่าต้องอดทน สันติ อหิงสา แต่เวลานี้โลกหมุนกลับไปครบรอบที่กำลังจะเริ่มใหม่ (Age of Aquarius) อาจบางทีถึงเวลาที่โลกจะล้างเผ่าพันธ์และวิทยาการแห่งโลกเก่าออกไป แล้วเริ่มกันใหม่หมด

เราบังเอิญเกิดมาช่วงท้ายๆของโลกยุคเราที่มีคนสร้าง มีคนทำเอาไว้ให้ก่อน แล้วเรามาแค่ สวมอยู่ จึงอยู่ไปตามที่เขาจัดวางไว้ และบังเอิญการเริ่มเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นตอนที่เรายังไม่ตายไป เราจึงอาจจะเจ็บปวด ทั้งจาก การไม่อยากเปลี่ยน การอยากเปลี่ยนแต่โดนต่อต้าน รวมทั้งโดนเย็นชาเพิกเฉยจากมวลชนที่ไม่รับรู้ไม่สนใจ

ไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่ความถูก แต่เป็น "ความเป็นไป" ต่างหากที่เราต้องมองให้เห็น


ถ้าเราต้องการความใหม่ที่กำลังมาเยือน เราก็ช่วยเสริมกำลังเข้าไปหนุนเนื่องให้มันเกิดเร็วขึ้น
ถ้าเราปฏิเสธสิ่งที่กำลังจะมาถึงเราก็ต่อต้านมัน
ถ้าเราไม่รับรู้ ไม่ตัดสินใจ เราก็อยู่เป็นแรงเฉื่อย ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวชะลอ หรือเป็นสารละลาย

มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง

อย่าไปเจ็บปวดมากนักถ้าอยากต่อสู้ เลือกแล้วว่าจะสู้ก็ต้องสู้ต่อไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักบ้าง

อาจเป็นได้ว่าในยุคอนารยะ หรือยุคแห่งความเสื่อมที่เรากำลังดิ้นให้หลุดจากมัน อาจต้องใช้ตาต่อตา ฟันต่อฟันเหมือนเช่นยุคหิน หรือปลายยุคเสื่อมทุกรอบของการเปลี่ยนแปลง มันเป็นเรื่องหลีกไม่พ้นกระมัง?
เพราะธรรมชาติมนุษย์ก็เป็นเช่นสัตว์ ฆ่าเพื่อกิน ฆ่าเพื่ออยู่ ฆ่าเพื่อสืบพันธ์
ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า

ผู้มีจิตที่ถูกยกขึ้นสูงแล้วก็ทำหน้าที่บอกกล่าวข่าวประเสริฐของการมีขันติ รักษาสันติ
ผู้ยังตัดตัวเองไม่ขาดจากขอบเขตสนามแห่งการต่อสู้ก็ต้องสู้ยิบตาเพื่อสิ่งที่ตัวเองเชื่อและศรัทธา

สู้วิธีไหนก็เลือกเอาตามใจ ตามที่ตัวเองถนัด
ด่าเก่งก็ด่า คิดเก่งก็คิด รบเก่งก็รบ ลวงเก่งก็ลวง สร้างเก่งก็สร้าง
ในยุคอนารยะหรือ chaosนี้ ในที่สุดความสับสนอลเวงไม่เป็นสำ
ก็จะจับรูปก่อตัวของมันเป็นอีกระบบหนึ่งเองจนได้

อย่ากลัว
อย่าร้องไห้

ไม่มีใครบอกได้ว่าเร็วหรือช้า แบบไหนที่เราจะก้าวไปสู่ ใครจะเป็นผู้เข้ามายึดครอง ไม่มีใครรู้
หากแต่ถ้าเราต้องการไปให้พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่เราก็ต้องสู้ต่อไป
เพราะถ้าไม่สู้ เราก็ต้อง"สูญพันธ์".

รักเสมอ
พี่จิ๋ม


--- On Tue, 9/9/08, kaysinee koonsap wrote:

> From: kaysinee koonsap
> Subject: คำขอบิณฑบาตอาวุธและความรุนแรง‏
> To: "Varisra Joemjutithom" , "Paranee Jethsomma" , kesara@bbdo.co.th, "kumphol" , "wattaneeporn phunmanee" , "phanida phromchanya" , "pilan s." , "Sumitra Srisuparat" , "Paveena Malakul" , "ju!" , "Saisoi Snidvongs"
> Date: Tuesday, September 9, 2008, 9:47 AM
> ---------- Forwarded message ----------
> From: tonkla
> Date: 2008/9/9
> Subject:
> คำขอบิณฑบาตอาวุธและความรุนแรง‏
> To: according2auntie@gmail.com
>
>
> เรียนทุกท่านค่ะ
> พระไพศาลและนักบวชชาวพุทธร่วมกันออกคำขอบิณฑบาตรอาวุธรและความรุนแรง
> จึงขอส่งมาเพื่อให้ท่านได้รับทราบและช่วยกรุณากระจายข่าวส่งต่อให้มากที่สุด
> ด้วยนะคะ
> ขอขอบคุณค่ะ
> นุช
>
> *คำขอบิณฑบาตอาวุธและความรุนแรง‏*
>
>
> ด้วยขณะนี้สังคมไทยบางส่วนกำลังมีความขัดแย้งอย่างหนักถึงขั้นเผชิญหน้ากัน
> และเริ่มมีการใช้ความรุนแรงต่อกันจนมีการสูญเสียชีวิตบ้างแล้ว
> ในสภาพที่ต่างฝ่ายต่างยืนกรานในข้อเรียกร้องของตน
> ไม่ยอมโอนอ่อนเข้าหากัน
> การแยกข้างแบ่งขั้วจึงมีแนวโน้มที่จะลุกลามขยายตัวเป็นความรุนแรงรอบใหม่ที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายยิ่งกว่าเดิม
> หากถึงจุดนั้นเมื่อใดความหายนะอย่างใหญ่หลวงก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยทั้งประเทศอย่างยากจะเยียวยาได้
> และจะกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในใจของคนทั้งชาติไปชั่วกาลนาน
>
>
> ในยามที่ความขัดแย้งยังไม่มีทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
> และยังไม่มีฝ่ายใดยอมหันหน้าเข้าหากัน
> อย่างน้อยมีสิ่งหนึ่งที่ทุกฝ่ายน่าจะทำได้และน่าจะเห็นพ้องต้องกัน
> ได้แก่การจำกัดขอบเขตความขัดแย้งไม่ให้ลุกลามจนถึงขั้นใช้กำลังต่อกัน
> เพราะหากเกิดขึ้นแล้วย่อมไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
> รวมทั้งประเทศชาติอันเป็นที่รักของทุกคน
> ด้วยเหตุนี้พวกเราในฐานะบรรพชิตที่ปรารถนาให้สันติสุขเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย
> จึงขอบิณฑบาตต่อทุกฝ่ายโปรดงดใช้ความรุนแรง
> รวมทั้งพยายามป้องกันมิให้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากฝ่ายของตนทั้งโดยวาจาและการกระทำ
> อันเป็นข้อปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์
>
>
> มาตรการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันมิให้ความรุนแรงเกิดขึ้นได้
> ก็คือการไม่มีอาวุธหรืออุปกรณ์ที่ใช้เป็นอาวุธได้อยู่ในครอบครอง
> แม้ว่าแต่ละฝ่ายมีเหตุผลว่าเพื่อป้องกันตัวเองก็ตาม
> แต่การที่แต่ละฝ่ายมีอาวุธอยู่ในมือย่อมก่อความระแวงให้อีกฝ่ายหนึ่ง
> ทำให้ต้องหาอาวุธมาไว้ป้องกันตนเองบ้าง
> ยิ่งสะสมมากเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันให้มากขึ้นเท่านั้น
> ดังนั้นพวกเราจึงขอบิณฑบาตอาวุธจากทุกฝ่ายด้วย
> หากแต่ละฝ่ายแสดงให้เห็นอย่างเปิดเผยว่าฝ่ายของตนปลอดอาวุธอย่างสิ้นเชิง
> ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจให้เกิดขึ้น
> ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธี
> อันเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการเห็น
>
>
> ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหาได้
> มีแต่จะสร้างปัญหาให้เพิ่มมากขึ้น
> จึงขอให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้นต่ออารมณ์
> ไม่ลุแก่โทสะ
> อย่าปล่อยให้ความโกรธ
> ความเกลียด
> และความกลัวครอบงำใจจนเห็นอีกฝ่ายเป็นศัตรูที่ต้องทำร้ายให้พินาศ
> พึงมีเมตตาและปรองดองต่อกันโดยระลึกเสมอว่าคนไทยทุกคนล้วนเป็นพี่น้องภายใต้พระบรมโพธิสมภารเดียวกัน
> พระศรีญาณโสภณ
> พระไพศาล วิสาโล
> พระมหาวุฒิชัย
> วชิรเมธี
> แม่ชีศันสนีย์
> เสถียรสุต
> ๙ กันยายน ๒๕๕๑
>
> *องค์กรร่วมสนับสนุน :
> องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก,
> ยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก,
> พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย,
> ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย,
> เสถียรธรรมสถาน,
> สถาบันวิมุตตยาลัย,
> เครือข่ายพุทธิกา*
>
>
>
>
> ทำใจยากนะ
> ที่ฝ่ายหนึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงทั้งๆที่ถูกยกพวกตี
> การใช้วาจารุนแรงก็เป็นผิดเป็นบาป
>
> การต่อสู้เพื่อความถูกต้องกับคนเลวต่ำทราม
> ต้องใช้ความอดกลั้นและเมตตาเท่านั้นใช่มั้ย
> สันติวิธีกับคนเลวมันเกิดขึ้นได้ในโลกนี้
> ในประเทศนี้จริงๆใช่มั้ย
>
> หรือว่า
> ไม่ต้องไปต่อสู้มันหรอก
> แพ้เปล่าๆ
> เหนื่อยเปล่าๆ
> จะสู้ไปทำไม
> เอาเวลาไปคิดดีกว่าว่า
> เย็นนี้จะไปสนุกที่ไหน
> สู้อยู่ในห้องแอร์เย็นๆ
> ดูหนัง
> ฟังเพลงไปไม่ชอบใจอะไรทีก็บ่นเอา
> จะไปทำอะไรได้
> จะทำไปทำไม
>
> ที่เราทำอยู่นี่มันเพื่ออะไร
> เพื่อใคร
> จริงๆนอนอยู่บ้าน
> ดูซีรีย์ ช้อปปิ้ง
> เม้าซิ่ง
> กินข้าวที่ร้านเก๋ๆ
> เล่น hi5
> facebook
> อาจดูดกัญชาให้หายเซ็ง
> ถ้าบังเอิญดันเผลอไปดู
> NBT
> สบายกว่ากันเยอะ
>
> เราต้องเป็นแบบมหาตมะคานธี
> อหิงสาไปสิบปีใช่มั้ยจึงจะได้เห็นแสง
> ต้องเป็นเมนเดล่า
> ติดคุกทุกข์ทรมาณ
> ยอมให้คนฝ่ายหนึ่งกดขี่ข่มเหงเสียก่อน
> เหมือนที่ท่านดาไลลามะอดกลั้น
> เมตตา
> แล้วทิเบตก็ถูกจีนกลืนกิน
>
> งัดเอาหลักธรรมข้อไหนมาช่วยดี
> ช่วยทำให้เราเชื่อหน่อยเถอะว่า
> ธรรมะย่อมชนะอธรรม
> ในเมื่อคนที่เชื่อเช่นนั้นทำได้แค่
> "หวัง"
>
> พี่จิ๋มฮะ
> ขอถอนตัวฮ่ะ
> จะจัดกระเป๋าไปอยู่มาลี
> ขอถอนตัวจากการเป็นคนไทยฮ่ะพี่
> มันเจ็บๆๆๆ
>
>
> --
> according2auntie