Wednesday, 10 September 2008
จดหมายถึงพันธมิตรจากอดีตพันธมิตร
จดหมายถึงพันธมิตรจากอดีตพันธมิตร
สุธน
5 ก.ย.2551
ผมเป็นหนึ่งในอดีตพันธมิตรสมัยเมื่อมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทักษิณเมื่อสองสามปีก่อน แต่วันนี้ ผมอึดอัดมากๆ กับการให้สัมภาษณ์ของ สนธิ พิภพ และสมศักดิ์ ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของพันธมิตรในสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน
ตกลงพวกคุณจะเรียกร้องอะไรกันแน่ ? ไม่มีอะไรชัดเจนเลย พวกคุณนอกจากตอบคำถามนักข่าวได้คลุมเครือแล้ว สมศักดิ์ยังขอจ้องตานักข่าวบางคน เพราะอยากรู้ว่าคนที่ตั้งคำถามนั้นเป็นพวกไหนกันแน่ !? ผมนึกว่ามีแต่สมัครที่เป็นแบบนี้ คุณก็เป็นด้วยหรือ ?
ความรู้สึกที่คุณเป็นปฎิปักษ์กับนักข่าวคือสัญญาที่บอกความเสื่อมถอยของคุณ
ผมไม่อยากเขียนจดหมายนี้เลย แต่อึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว (โว้ย) !
1. ตอบคำถามให้ได้ว่าคุณเรียกร้องอะไรกันแน่ อย่าให้คนรู้สึกว่าลึกๆ แล้วคุณต้องการจะกดดันไปเรื่อยๆ จนกว่าทหาร (หรืออำนาจมืดที่ไหนอะไรก็ได้) ทนไม่ไหว จนต้องลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีกรอบ ผมเรียกร้องให้พวกคุณประกาศไปเลยชัดๆ ว่าคุณต่อต้านการรัฐประหาร คุณต้องย้ำแล้วย้ำอีก และต้องทำให้คนส่วนใหญ่เขาเชื่อว่าคุณหมายความตามนั้นจริงๆ
2. หากสมัครลาออกแล้ว หมอเลี้ยบมา สมชายมา กลุ่มเนวินมา คุณรับได้หรือไม่ได้ บอกมาให้ชัดๆ ผมเห็นสนธิให้สัมภาษณ์ไปทาง สมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ไปทาง แล้วงง เพราะขัดแย้งกันเอง ตกลงพวกคุณจะเรียกร้องอะไรกันแน่ ไปตกลงกันมาให้ดีๆ แล้วพูดให้เหมือนๆ กัน
ผมคิดว่า คุณประกาศไปเลยว่า คุณจะไม่หยุดชุมนุม หากหุ่นเชิดทักษิณแบบหมอเลี้ยบ สมชาย หรือเนวิน เข้ามาเป็นนายกฯ นี่อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าคุณไม่ยอมรับกลไกตามรัฐธรรมนูญอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในวิสัยที่พันธมิตรจะอธิบายได้ว่าพวกนี้ไม่แตกต่างใดๆ กับสมัครเลย
3. หากสมัครลาออกแล้วประชาธิปัตย์สามารถพลิกมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ บอกไปเลยว่าคุณอยากเห็นแบบนี้ ไม่ต้องสนใจถ้าใครจะหาว่าคุณเป็นพวกเดียวกับประชาธิปัตย์ เพราะตอนนี้มีคนเป็นจำนวนมากที่บอกว่าอะไรก็ได้ขอให้เปลี่ยนสภาพการณ์อึดอัดนี้ไปเสียให้พ้นๆ เสียที
4.ที่สำคัญข้อเสนอการเมืองใหม่ 30:70 เป็นอะไรที่ไม่ว่าใครก็ตามรับพวกคุณได้ยากเต็มที ขนาดสมัครก็ออกมาพูดท้าทายว่ามีใครบ้างในวงวิชาการที่ยอมรับแนวความคิดแบบนั้นได้ นี่คือจุดอ่อนที่สุดอีกอย่างหนึ่งของพันธมิตร น่าสมเพชที่คุณยังกอดตุ๊กตา 30:70 อยู่ไม่ยอมปล่อย ทั้งๆ ที่พวกคุณยังอธิบายมันยังไม่ได้เลย
ผมไม่สงสัยเลยที่สื่อต่างประเทศบอกว่าพวกคุณยืนอยู่ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยทั้งๆ ที่ชื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การที่คุณเชิดชูราชาธิปไตยและข้อเสนอการเมืองใหม่ 30:70 คือประเด็นสำคัญเป็นด้านหลักที่ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพันธมิตรเป็นลบในสายตาของสื่อตะวันตก
5. สำหรับในประเทศนั้น ภาพพจน์พวกคุณเป็นลบ นอกเหนือจากเหตุผลตามข้อ 4 แล้ว ยังรวมถึงการแสดงออกของพันธมิตรที่ดูเหมือนไม่เคารพกฎหมายและกติกาบางประการ ทั้งๆ ที่เมื่อไม่นานมานี้ พวกคุณต่างสรรเสริญระบบตุลาการที่สามารถทำให้ทักษิณและพจมานไปเกาะประตูคุกได้ คุณไม่เคารพกฎหมายและดื้อแพ่งได้ แต่คุณต้องไม่ทำแบบนี้กับศาล เพราะมันจะทำให้คุณได้รับการยอมรับน้อยลง ชอบธรรมน้อยลง ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อคุณแน่ๆ (อย่างน้อยก็ในสถานการณ์นี้ ผมไม่ได้บอกว่าศาลแตะต้องไม่ได้นะ แต่เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง)
6. ผมเองซึ่งเป็นพวกคุณมาก่อน และจะว่ากันจริงๆ ตอนนี้ก็เอาใจช่วยพวกคุณอยู่ลึกๆ แต่ผมกำลังรู้สึกว่าคุณกำลังเอาคนที่ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรเพื่อต่อรองกับอะไรบางอย่าง โดยคุณไม่บอกให้พวกเขารู้ และการที่พวกคุณไม่มีข้อเสนออะไรที่ชัดเจน มันทำให้ผมรู้สึกมากขึ้นทุกทีว่า พวกคุณบางคนในแกนนำมีจุดประสงค์ทางการเมืองบางอย่างซึ่งอาจไม่โปร่งใส (นี่ขนาดผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของคุณ ผมยังคิดแบบนี้เลย)
7. ผมเดาได้ว่าในหมู่พวกแกนนำด้วยกันเองนั้น ยังหาข้อเรียกร้องที่เห็นชอบร่วมกันไม่ได้ จนพวกคุณไม่อาจให้สัมภาษณ์ได้ชัดเจนว่าเป้าหมายของพันธมิตรคืออะไรกันแน่ ผมตลกแต่ก็สงสารนะ ที่ดูรายการทีวีเห็นสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเรื่องข้อเรียกร้องของพันธมิตร แต่สายตากลับชำเลืองไปมองพิภพเหมือนกับจะขอคำยืนยันว่า ตกลงที่ตัวเองกำลังพูดอยู่ ใช่ข้อเรียกร้องของพันธมิตรหรือเปล่า ... โอย..อยากจะร้องไห้ !
8. ในสถานการณ์แบบนี้ ผมเสนอต่อพวกคุณ ให้คุณเสนอต่อสาธารณชนไปชัดๆ เลยว่า
8.1 คุณต้องการให้สมัครลาออก คุณอยากให้มีการจับขั้วการเมืองใหม่โดยให้ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเพราะเลวน้อยกว่า (จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่หุ่นเชิดของทักษิณแน่ๆ (แต่อาจเป็นซีพีแทนก็ได้ ซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจะดีกว่าทักษิณตรงไหน) และเพื่อให้เห็นว่าคุณไม่ได้ต้องการแค่เพียงการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง คุณต้องเรียกร้องไปพร้อมๆ กันว่า หน้าที่ของรัฐบาลใหม่ก็คือการดำเนินการให้มีการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ที่พึงประสงค์
8.2 หรือไม่ก็คุณเสนอให้มีการยุบสภาโดยเร็วเพื่อกลับเข้าไปสู่การเลือกตั้งกันใหม่ โดยภารกิจของสภาชุดใหม่คือการปฎิรูปการเมือง เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ที่พึงประสงค์ สิ่งสำคัญคือ พวกคุณต้องพร้อมที่จะยอมรับผลของการเลือกตั้งด้วย ไม่ว่ามันจะออกมาเช่นไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวก ส.ส.ที่จะกลับเข้ามาใหม่เป็นกลุ่มเดียวกับ ส.ส.พลังประชาชน หรือเครือข่ายของไทยรักไทยเดิม (ไม่เป็นไรน่า อย่าเพิ่งโง่ ด่วนบอกว่าคุณจะลุกขึ้นมาต่อต้านอีกรอบสิ เพราะถ้าพวกนี้กลับมาและทำให้สถานการณ์มันเลวร้าย คนจะบอกให้พวกคุณลุกขึ้นมาขับไล่เอง คุณหัดรอ หัดฟัง เสียงของสาธารณชนบ้างสิวะ)
8.3 คุณเสนอไปเลยว่าโมเดลการเมืองใหม่ 30:70 นั้น คุณเองก็ไม่ชัดเจน หัดยอมรับข้ออ่อนของคุณเสียบ้าง แล้วคุณจะทราบว่ามันจะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อภาพลักษณ์ของคุณอย่างที่คาดไม่ถึง คุณต้องเสนอให้มีคณะกรรมการปฎิรูปการเมืองซึ่งมาจากคนทุกฝ่ายเพื่อทำงานร่วมกับรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง ในการสร้างการเมืองใหม่ที่ว่า โดยคุณยินดีจะเข้าร่วมเสนอความคิดเห็นด้วย และบอกด้วยว่าคุณยินดีเป็นอย่างมากหาก นปก.เข้ามาร่วมกันคิดการเมืองใหม่ที่ว่าร่วมกัน (ผมมองไม่ออกเลยว่า คุณจะอ้างเหตุผลใดที่จะไม่ให้กลุ่มคนอื่นๆ เข้ามาช่วยคิดในเรื่องการเมืองใหม่ เพราะมันเป็นเรื่องของคนทั้งสังคม และไม่ต้องกลัวที่ นปก.จะเข้ามามีบทบาทอะไรได้มาก เพราะมีคนในสังคมอีกมากที่พร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบกลุ่ม นปก. หรือบริวารของทักษิณ)
8.4 คุณประกาศไปเลยว่า คุณยินดีจะมอบตัวเพื่อสู้คดีในข้อหากบฏ หลังจากข้อเรียกร้องข้างต้นบรรลุผล
หากคุณทำได้แบบที่ว่า ภาพลักษณ์ของพวกคุณจะดูดีขึ้นอย่างทันตาเห็น เพราะคุณไม่ได้แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย คุณยอมรับความเป็นจริงของสังคมในระดับหนึ่ง และในท้ายที่สุด คุณก็แสดงให้สังคมเห็นว่าพันธมิตรเคารพต่อกฎหมายบ้านเมืองมากเช่นไร เมื่อเปรียบเทียบกับทักษิณและพจมาน
8.5 คุณอย่าปฎิเสธการเจรจาโดยสิ้นเชิงไม่ว่ากับฝ่ายใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เปิดช่องให้มีรูอากาศหายใจบ้าง อย่างน้อยหากคุณในห้าแกนนำไม่อยากไป ส่งสุริยะใส (กตะศิลา) ไปแทนก็ได้ ผมว่าเขามีวุฒิภาวะมากไปกว่าห้าแกนนำบางคน(หรือหลายคน)เสียอีก
9. คุณไม่จำเป็นต้องประกาศหรอกว่า หากการปฏิรูปการเมืองไม่เกิดขึ้น หรือพวกหุ่นเชิดทักษิณกลับคืนมามีอำนาจ หรือเกิดขั้วการเมืองที่ไม่ได้เลวร้ายน้อยไปกว่าทักษิณ คุณย่อมมีสิทธิ์เคลื่อนไหวทางการเมืองได้อยู่แล้ว สิ่งที่พวกคุณได้สร้างคุณูปการไว้มันถูกลบให้หายไปไม่ได้ดอก สิ่งเหล่านั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของฐานทางการเมืองที่สำคัญของพวกคุณในอนาคต เชื่อว่าคนไทยเป็นจำนวนมากรวมทั้งผมด้วย พร้อมจะออกมาร่วมสู้กับคุณ
ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ ถ้าคุณถอยได้สักก้าวหนึ่ง ผมประเมินว่านั่นคือชัยชนะของคุณ ผมหวั่นใจว่า หากคุณเดินหน้าไปเช่นนี้ ผลที่พวกคุณจะได้รับนั้นอาจเป็นตรงข้ามกับสิ่งที่พวกคุณคิดไว้
……………………….
ปล. ผมขยะแขยงและเอามือปิดหน้าที่เห็นกลุ่มการ์ดพันธมิตรระดมตีร่างของชายคนหนึ่งตอนที่พวกนปก.บุกเข้ามาที่มัฆวานในคืนวันนั้น (ใช่ ! ผมเห็นภาพของการ์ดบางคนออกมาห้ามปราม และช่วยหามนปก.ขึ้นรถพยาบาล แต่มันลบล้างภาพแรกไม่ได้หรอก) คุณต้องตระหนักว่าการเคลื่อนพลมาบุกยึดทำเนียบ คือส่วนหนึ่งของเรื่องราวต้นเหตุของเหตุการณ์คืนนั้นด้วย
แน่นอน ! ผมขยะแขยงพอๆ กันที่เห็นพวก ส.ส.พลังประชาชน นำพวก นปก.บุกเข้ามาหาพวกคุณ แต่จะพูดไปแล้วผมคลื่นไส้ สมเพช ทุเรศ และชิงชังเอ็นจีโอสองคนที่ปรากฎตัวบนเวที นปก.คืนนั้นเสียจริงๆ
หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสาร คลิกเพื่อทำการยกเลิกการรับข่าวสาร http://www.nocoup.org/maillinglist/formmailcancle.php
สุธน
5 ก.ย.2551
ผมเป็นหนึ่งในอดีตพันธมิตรสมัยเมื่อมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทักษิณเมื่อสองสามปีก่อน แต่วันนี้ ผมอึดอัดมากๆ กับการให้สัมภาษณ์ของ สนธิ พิภพ และสมศักดิ์ ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของพันธมิตรในสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน
ตกลงพวกคุณจะเรียกร้องอะไรกันแน่ ? ไม่มีอะไรชัดเจนเลย พวกคุณนอกจากตอบคำถามนักข่าวได้คลุมเครือแล้ว สมศักดิ์ยังขอจ้องตานักข่าวบางคน เพราะอยากรู้ว่าคนที่ตั้งคำถามนั้นเป็นพวกไหนกันแน่ !? ผมนึกว่ามีแต่สมัครที่เป็นแบบนี้ คุณก็เป็นด้วยหรือ ?
ความรู้สึกที่คุณเป็นปฎิปักษ์กับนักข่าวคือสัญญาที่บอกความเสื่อมถอยของคุณ
ผมไม่อยากเขียนจดหมายนี้เลย แต่อึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว (โว้ย) !
1. ตอบคำถามให้ได้ว่าคุณเรียกร้องอะไรกันแน่ อย่าให้คนรู้สึกว่าลึกๆ แล้วคุณต้องการจะกดดันไปเรื่อยๆ จนกว่าทหาร (หรืออำนาจมืดที่ไหนอะไรก็ได้) ทนไม่ไหว จนต้องลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีกรอบ ผมเรียกร้องให้พวกคุณประกาศไปเลยชัดๆ ว่าคุณต่อต้านการรัฐประหาร คุณต้องย้ำแล้วย้ำอีก และต้องทำให้คนส่วนใหญ่เขาเชื่อว่าคุณหมายความตามนั้นจริงๆ
2. หากสมัครลาออกแล้ว หมอเลี้ยบมา สมชายมา กลุ่มเนวินมา คุณรับได้หรือไม่ได้ บอกมาให้ชัดๆ ผมเห็นสนธิให้สัมภาษณ์ไปทาง สมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ไปทาง แล้วงง เพราะขัดแย้งกันเอง ตกลงพวกคุณจะเรียกร้องอะไรกันแน่ ไปตกลงกันมาให้ดีๆ แล้วพูดให้เหมือนๆ กัน
ผมคิดว่า คุณประกาศไปเลยว่า คุณจะไม่หยุดชุมนุม หากหุ่นเชิดทักษิณแบบหมอเลี้ยบ สมชาย หรือเนวิน เข้ามาเป็นนายกฯ นี่อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าคุณไม่ยอมรับกลไกตามรัฐธรรมนูญอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในวิสัยที่พันธมิตรจะอธิบายได้ว่าพวกนี้ไม่แตกต่างใดๆ กับสมัครเลย
3. หากสมัครลาออกแล้วประชาธิปัตย์สามารถพลิกมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ บอกไปเลยว่าคุณอยากเห็นแบบนี้ ไม่ต้องสนใจถ้าใครจะหาว่าคุณเป็นพวกเดียวกับประชาธิปัตย์ เพราะตอนนี้มีคนเป็นจำนวนมากที่บอกว่าอะไรก็ได้ขอให้เปลี่ยนสภาพการณ์อึดอัดนี้ไปเสียให้พ้นๆ เสียที
4.ที่สำคัญข้อเสนอการเมืองใหม่ 30:70 เป็นอะไรที่ไม่ว่าใครก็ตามรับพวกคุณได้ยากเต็มที ขนาดสมัครก็ออกมาพูดท้าทายว่ามีใครบ้างในวงวิชาการที่ยอมรับแนวความคิดแบบนั้นได้ นี่คือจุดอ่อนที่สุดอีกอย่างหนึ่งของพันธมิตร น่าสมเพชที่คุณยังกอดตุ๊กตา 30:70 อยู่ไม่ยอมปล่อย ทั้งๆ ที่พวกคุณยังอธิบายมันยังไม่ได้เลย
ผมไม่สงสัยเลยที่สื่อต่างประเทศบอกว่าพวกคุณยืนอยู่ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยทั้งๆ ที่ชื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การที่คุณเชิดชูราชาธิปไตยและข้อเสนอการเมืองใหม่ 30:70 คือประเด็นสำคัญเป็นด้านหลักที่ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพันธมิตรเป็นลบในสายตาของสื่อตะวันตก
5. สำหรับในประเทศนั้น ภาพพจน์พวกคุณเป็นลบ นอกเหนือจากเหตุผลตามข้อ 4 แล้ว ยังรวมถึงการแสดงออกของพันธมิตรที่ดูเหมือนไม่เคารพกฎหมายและกติกาบางประการ ทั้งๆ ที่เมื่อไม่นานมานี้ พวกคุณต่างสรรเสริญระบบตุลาการที่สามารถทำให้ทักษิณและพจมานไปเกาะประตูคุกได้ คุณไม่เคารพกฎหมายและดื้อแพ่งได้ แต่คุณต้องไม่ทำแบบนี้กับศาล เพราะมันจะทำให้คุณได้รับการยอมรับน้อยลง ชอบธรรมน้อยลง ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อคุณแน่ๆ (อย่างน้อยก็ในสถานการณ์นี้ ผมไม่ได้บอกว่าศาลแตะต้องไม่ได้นะ แต่เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง)
6. ผมเองซึ่งเป็นพวกคุณมาก่อน และจะว่ากันจริงๆ ตอนนี้ก็เอาใจช่วยพวกคุณอยู่ลึกๆ แต่ผมกำลังรู้สึกว่าคุณกำลังเอาคนที่ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรเพื่อต่อรองกับอะไรบางอย่าง โดยคุณไม่บอกให้พวกเขารู้ และการที่พวกคุณไม่มีข้อเสนออะไรที่ชัดเจน มันทำให้ผมรู้สึกมากขึ้นทุกทีว่า พวกคุณบางคนในแกนนำมีจุดประสงค์ทางการเมืองบางอย่างซึ่งอาจไม่โปร่งใส (นี่ขนาดผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของคุณ ผมยังคิดแบบนี้เลย)
7. ผมเดาได้ว่าในหมู่พวกแกนนำด้วยกันเองนั้น ยังหาข้อเรียกร้องที่เห็นชอบร่วมกันไม่ได้ จนพวกคุณไม่อาจให้สัมภาษณ์ได้ชัดเจนว่าเป้าหมายของพันธมิตรคืออะไรกันแน่ ผมตลกแต่ก็สงสารนะ ที่ดูรายการทีวีเห็นสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเรื่องข้อเรียกร้องของพันธมิตร แต่สายตากลับชำเลืองไปมองพิภพเหมือนกับจะขอคำยืนยันว่า ตกลงที่ตัวเองกำลังพูดอยู่ ใช่ข้อเรียกร้องของพันธมิตรหรือเปล่า ... โอย..อยากจะร้องไห้ !
8. ในสถานการณ์แบบนี้ ผมเสนอต่อพวกคุณ ให้คุณเสนอต่อสาธารณชนไปชัดๆ เลยว่า
8.1 คุณต้องการให้สมัครลาออก คุณอยากให้มีการจับขั้วการเมืองใหม่โดยให้ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเพราะเลวน้อยกว่า (จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่หุ่นเชิดของทักษิณแน่ๆ (แต่อาจเป็นซีพีแทนก็ได้ ซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจะดีกว่าทักษิณตรงไหน) และเพื่อให้เห็นว่าคุณไม่ได้ต้องการแค่เพียงการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง คุณต้องเรียกร้องไปพร้อมๆ กันว่า หน้าที่ของรัฐบาลใหม่ก็คือการดำเนินการให้มีการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ที่พึงประสงค์
8.2 หรือไม่ก็คุณเสนอให้มีการยุบสภาโดยเร็วเพื่อกลับเข้าไปสู่การเลือกตั้งกันใหม่ โดยภารกิจของสภาชุดใหม่คือการปฎิรูปการเมือง เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ที่พึงประสงค์ สิ่งสำคัญคือ พวกคุณต้องพร้อมที่จะยอมรับผลของการเลือกตั้งด้วย ไม่ว่ามันจะออกมาเช่นไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวก ส.ส.ที่จะกลับเข้ามาใหม่เป็นกลุ่มเดียวกับ ส.ส.พลังประชาชน หรือเครือข่ายของไทยรักไทยเดิม (ไม่เป็นไรน่า อย่าเพิ่งโง่ ด่วนบอกว่าคุณจะลุกขึ้นมาต่อต้านอีกรอบสิ เพราะถ้าพวกนี้กลับมาและทำให้สถานการณ์มันเลวร้าย คนจะบอกให้พวกคุณลุกขึ้นมาขับไล่เอง คุณหัดรอ หัดฟัง เสียงของสาธารณชนบ้างสิวะ)
8.3 คุณเสนอไปเลยว่าโมเดลการเมืองใหม่ 30:70 นั้น คุณเองก็ไม่ชัดเจน หัดยอมรับข้ออ่อนของคุณเสียบ้าง แล้วคุณจะทราบว่ามันจะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อภาพลักษณ์ของคุณอย่างที่คาดไม่ถึง คุณต้องเสนอให้มีคณะกรรมการปฎิรูปการเมืองซึ่งมาจากคนทุกฝ่ายเพื่อทำงานร่วมกับรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง ในการสร้างการเมืองใหม่ที่ว่า โดยคุณยินดีจะเข้าร่วมเสนอความคิดเห็นด้วย และบอกด้วยว่าคุณยินดีเป็นอย่างมากหาก นปก.เข้ามาร่วมกันคิดการเมืองใหม่ที่ว่าร่วมกัน (ผมมองไม่ออกเลยว่า คุณจะอ้างเหตุผลใดที่จะไม่ให้กลุ่มคนอื่นๆ เข้ามาช่วยคิดในเรื่องการเมืองใหม่ เพราะมันเป็นเรื่องของคนทั้งสังคม และไม่ต้องกลัวที่ นปก.จะเข้ามามีบทบาทอะไรได้มาก เพราะมีคนในสังคมอีกมากที่พร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบกลุ่ม นปก. หรือบริวารของทักษิณ)
8.4 คุณประกาศไปเลยว่า คุณยินดีจะมอบตัวเพื่อสู้คดีในข้อหากบฏ หลังจากข้อเรียกร้องข้างต้นบรรลุผล
หากคุณทำได้แบบที่ว่า ภาพลักษณ์ของพวกคุณจะดูดีขึ้นอย่างทันตาเห็น เพราะคุณไม่ได้แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย คุณยอมรับความเป็นจริงของสังคมในระดับหนึ่ง และในท้ายที่สุด คุณก็แสดงให้สังคมเห็นว่าพันธมิตรเคารพต่อกฎหมายบ้านเมืองมากเช่นไร เมื่อเปรียบเทียบกับทักษิณและพจมาน
8.5 คุณอย่าปฎิเสธการเจรจาโดยสิ้นเชิงไม่ว่ากับฝ่ายใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เปิดช่องให้มีรูอากาศหายใจบ้าง อย่างน้อยหากคุณในห้าแกนนำไม่อยากไป ส่งสุริยะใส (กตะศิลา) ไปแทนก็ได้ ผมว่าเขามีวุฒิภาวะมากไปกว่าห้าแกนนำบางคน(หรือหลายคน)เสียอีก
9. คุณไม่จำเป็นต้องประกาศหรอกว่า หากการปฏิรูปการเมืองไม่เกิดขึ้น หรือพวกหุ่นเชิดทักษิณกลับคืนมามีอำนาจ หรือเกิดขั้วการเมืองที่ไม่ได้เลวร้ายน้อยไปกว่าทักษิณ คุณย่อมมีสิทธิ์เคลื่อนไหวทางการเมืองได้อยู่แล้ว สิ่งที่พวกคุณได้สร้างคุณูปการไว้มันถูกลบให้หายไปไม่ได้ดอก สิ่งเหล่านั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของฐานทางการเมืองที่สำคัญของพวกคุณในอนาคต เชื่อว่าคนไทยเป็นจำนวนมากรวมทั้งผมด้วย พร้อมจะออกมาร่วมสู้กับคุณ
ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ ถ้าคุณถอยได้สักก้าวหนึ่ง ผมประเมินว่านั่นคือชัยชนะของคุณ ผมหวั่นใจว่า หากคุณเดินหน้าไปเช่นนี้ ผลที่พวกคุณจะได้รับนั้นอาจเป็นตรงข้ามกับสิ่งที่พวกคุณคิดไว้
……………………….
ปล. ผมขยะแขยงและเอามือปิดหน้าที่เห็นกลุ่มการ์ดพันธมิตรระดมตีร่างของชายคนหนึ่งตอนที่พวกนปก.บุกเข้ามาที่มัฆวานในคืนวันนั้น (ใช่ ! ผมเห็นภาพของการ์ดบางคนออกมาห้ามปราม และช่วยหามนปก.ขึ้นรถพยาบาล แต่มันลบล้างภาพแรกไม่ได้หรอก) คุณต้องตระหนักว่าการเคลื่อนพลมาบุกยึดทำเนียบ คือส่วนหนึ่งของเรื่องราวต้นเหตุของเหตุการณ์คืนนั้นด้วย
แน่นอน ! ผมขยะแขยงพอๆ กันที่เห็นพวก ส.ส.พลังประชาชน นำพวก นปก.บุกเข้ามาหาพวกคุณ แต่จะพูดไปแล้วผมคลื่นไส้ สมเพช ทุเรศ และชิงชังเอ็นจีโอสองคนที่ปรากฎตัวบนเวที นปก.คืนนั้นเสียจริงๆ
หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสาร คลิกเพื่อทำการยกเลิกการรับข่าวสาร http://www.nocoup.org/maillinglist/formmailcancle.php